รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี 2561
หน้าแรก / รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน 2561 / แนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยเบฟ เกี่ยวกับ ไทยเบฟ
GRI 102-2, GRI 102-3, GRI 102-4, GRI 102-5, GRI 102-6, GRI 102-7, GRI 102-10

ปัจจุบัน ไทยเบฟนอกจากจะเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มชั้นนำ ในประเทศไทย ยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ในเอเชียอีกด้วย โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 4 สายธุรกิจ ได้แก่ สุรา เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหาร ในปี 2561 ไทยเบฟได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีแห่งความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ประจำปี 2561 ในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ประเภท DJSI World และประเภท Emerging Markets โดยได้คะแนนความยั่งยืนสูงสุด เป็นอันดับหนึ่งของโลก และได้รับการยอมรับเป็น Industry Leader ในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม
วิสัยทัศน์
วิสัยทัศน์องค์กร คือ การเป็นกลุ่มบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มครบวงจรระดับโลก โดยมุ่งเน้นที่ความเป็นเลิศ เชิงพาณิชย์ ความต่อเนื่องในการพัฒนาคุณภาพสินค้า ให้อยู่ในระดับพรีเมียม และความเป็นมืออาชีพ
พันธกิจ
พันธกิจของเรา คือ การประสาน “สัมพันธภาพ” กับผู้มี ส่วนได้ส่วนเสียที่มีความสำคัญกับไทยเบฟในทุกๆ ด้าน โดยมอบคุณค่าที่สำคัญ 6 ประการ
  • มอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสุดให้ลูกค้าทุกกลุ่ม
  • ตอบสนองความต้องการของผู้แทนจำหน่ายโดยให้บริการอย่างมืออาชีพ
  • ให้ความสำคัญเรื่องผลตอบแทนจากการลงทุนให้แก่ผู้ถือหุ้น ด้วยการเติบโตของรายได้และผลกำไรที่มั่นคงและต่อเนื่อง
  • เป็นแบบอย่างในด้านความเป็นมืออาชีพ ความโปร่งใส และการดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาล
  • มอบความไว้วางใจ อำนาจ และรางวัลแก่พนักงาน เพื่อสร้างความร่วมรับผิดชอบ สร้างประโยชน์ให้แก่สังคม
กลยุทธ์
การเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
ไทยเบฟวางเป้าหมายที่จะ ก้าวขึ้นเป็นบริษัทเครื่องดื่มขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มั่นคงและยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น

ความหลากหลายของตลาดและผลิตภัณฑ์
ไทยเบฟวางแผนที่จะกระจายรายได้ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยการ เพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และรายได้จากการขายสินค้าในต่างประเทศ

ตราสินค้าที่โดนใจ
ธุรกิจหลักของไทยเบฟแบ่งเป็น 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ สุรา เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหาร ในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์จะมีการกำหนดผลิตภัณฑ์หลัก รวมถึงตลาดหลักและตลาดรองที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยยึดหลักผู้บริโภคและการตลาด เป็นตัวขับเคลื่อนในการขยายธุรกิจ

การขายและกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง
นอกจากตราสินค้า ที่โดนใจ การกระจายสินค้าที่แข็งแกร่งและทั่วถึงเป็นสิ่งสำคัญ ไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเครือข่ายกระจายสินค้าที่มีอยู่ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ผ่านการจัดการซัพพลายเชน ที่เป็นเลิศของบริษัท และสร้างเครือข่ายกระจายสินค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงการหาพันธมิตรเพื่อร่วมกันกระจายสินค้า

ความเป็นมืออาชีพ
ไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะสร้างทีมงานที่มีความหลากหลาย และประสิทธิภาพสูง ทีมงานของแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และยังสามารถใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันระหว่างกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม อีกทั้งเสริมสร้างศักยภาพ ของกลุ่มไทยเบฟในระยะยาว
สินค้าและบริการ
ไทยเบฟมีการจัดจำหน่ายสินค้าครอบคลุมกว่า 90 ประเทศ ทั่วโลก และมีโรงงานกลั่นสุรา 5 แห่งในประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตที่มีชื่อเสียงในการผลิตเหล้าวิสกี้ชั้นนำระดับโลก อย่าง Balblair, Old Pulteney และ Speyburn นอกจากนี้ ยังมีโรงงานผลิตสุราอีก 1 แห่งในประเทศจีน ได้แก่ Yulinquan

ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 บริษัทในกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 196 บริษัท ดังนี้
  • บริษัทในประเทศไทย 97 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทย่อย 96 บริษัท และบริษัทซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบริษัทย่อย 1 บริษัท คือ บริษัท เพ็ทฟอร์ม (ไทยแลนด์) จำกัด
  • บริษัทในต่างประเทศ 99 บริษัท (แบ่งเป็นบริษัทย่อย 76 บริษัท และบริษัทซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบริษัทย่อย 18 บริษัท และบริษัทร่วมค้าของบริษัทย่อยทางอ้อมในกลุ่ม Sabeco 5 บริษัท)
โรงงานผลิตสุรา 18 แห่ง โรงงานผลิตเบียร์ 3 แห่ง และโรงงานผลิตเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์และอาหารรวมกัน 12 แห่ง อีกทั้งยังมีเครือข่ายกระจายสินค้าที่ครอบคลุมกว่า 400,000 จุด ทั่วประเทศไทย โดยมีผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง ดังนี้

กลุ่มสุรา
ได้แก่ รวงข้าว แสงโสม แม่โขง หงส์ทอง เบลนด์ 285 คูลอฟ และสตาร์ คูลเลอร์

กลุ่มเบียร์
คือ เบียร์ช้าง เป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในกลุ่มนักดื่มเบียร์ชาวไทย ประกอบด้วย ช้างคลาสสิก เฟเดอร์บรอย แทปเปอร์ และมีแผนวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ ฮันทส์แมน และแบล็ค ดราก้อน ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2561

กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่มีชื่อเสียง
ประกอบด้วย ชาเขียวโออิชิ เครื่องดื่มอัดลมเอส 100 พลัส น้ำดื่มคริสตัล น้ำแร่ธรรมชาติ “ช้าง” และ โซดาร็อคเมาเท็น และ มีแผนวางจำหน่ายชาพรีเมียมโออิชิ โกลด์ ในช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม 2561

กลุ่มอาหาร
ประกอบไปด้วย ร้านอาหารที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจ ดังนี้ OISHI Grand, OISHI Eaterium, OISHI Buffet, Shabushi, OISHI Ramen, Nikuya, Kakashi, Hyde & Seek, Man Fu Yuan, mx cakes & bakery, SO asean Café & Restaurant, Food Street, POT Ministry, Café Chilli, บ้านสุริยาศัย และมีการจัดตั้งบริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหาร KFC ในประเทศไทยจำนวนทั้งหมด 252 สาขา
SALES REVENUE
229,695 MILLION BAHT

NET PROFIT
20,726 MILLION BAHT

NUMBER OF EMPLOYEES
41,551 PERSON

DEBT-TO-EQUITY (D/E)
1.86 TIMES

RETURN ON EQUITY (ROE)
15.18 PERCENT
In the past 19 Years
3,800,000
Blankets
Across 45 provinces and 578 districts have been donated
ThaiBev’s athletic development programs supported more than
150,000
Youths From 54 provinces
ThaiBev has initiated social development projects covering
100%
or all 77 provinces in Thailand

REDUCTION OF ENERGY INTENSITY RATIO BEVERAGE BUSINESS)
18%
COMPARED TO 2014 AS A BASE YEAR

REDUCTION OF GREENHOUSE GAS EMISSION INTENSITY RATIO (BEVERAGE BUSINESS)
16%
COMPARED TO 2014 AS A BASE YEAR

REDUCTION OF WATER INTENSITY RATIO (BEVERAGE BUSINESS)
17%
COMPARED TO 2014 AS A BASE YEAR

REUSED AND RECYCLED WASTE (BEVERAGE BUSINESS)
89%
2018
Total income (annual)
232,598
million baht
October 2017 to September 2018, period of 12 months

Foreign income proportion
25%
Domestic income proportion
75%
2017
Total income (annual)
190,697
million baht
October 2016 to September 2017, period of 12 months

Foreign income proportion
3%
Domestic income proportion
97%

Annual Dividend (million baht)

Employee Benefit Expenses (million baht)

Income Tax Expenses (million baht)


Cost of Sales (million baht)


Note
1. Economic value generated and distributed is defined by Income (refer to GRI201-1: Revenue), Cost of Sales (refer to GRI201-1: Operating cost), Employee Benefit Expenses (refer to GRI201-1: Employee Wages and Benefits), Income Tax Expenses (refer to GRI201-1: Payments to Government), and Annual Dividend (refer to GRI201-1: Payments to Provider of Capital). The scope of this report is limited to operations in Thailand. However, the Economic performance section refers to ThaiBev and subsidiaries and is consistent with the 2018 Annual Report.

2. Employee benefit expenses, which is part of Cost of Sales, was 5,022 million baht during the period of Oct 2017-Sep 2018 and was 3,528 million baht during the period of October 2016 to September 2017. The excise tax paid to the government is also part of Cost of Sales.

3. Geographic income for the Thai Beverage Group according to ThaiBev’s financial statements for the period ended 30 September 2018.

4. Annual dividend to ThaiBev’s shareholder.

รายงาน
การพัฒนาที่ยั่งยืน 2561