GRI 103-2, GRI 401-1, GRI 403-2, GRI 404-1, GRI 404-2, GRI 404-3 |
- แนวคิดโอกาสไร้ขีดจำกัด (Limitless Opportunities) ของไทยเบฟเกิดขึ้นเพื่อมอบโอกาส ให้พนักงานได้ก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Opportunities) พร้อมสร้างเครือข่ายและ ความสัมพันธ์อันเข้มแข็ง (Connectivity Opportunities) และทำประโยชน์ให้ชุมชนและสังคม (Contribution Opportunities) โดยพนักงานจะเติบโตไปพร้อมกับองค์กร พร้อมทั้งได้รับโอกาสเรียนรู้ พัฒนาทักษะ เสริมสร้างสมรรถนะเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน
- ไทยเบฟกำหนด 7 ยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการบุคลากร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้าง ความแข็งแกร่งของบุคลากรและรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ ควบคู่ไปกับการ สร้างความเป็นหนึ่งเดียวภายในองค์กร และเตรียมความพร้อมให้พนักงานก้าวหน้าไปพร้อม การเปลี่ยนแปลง
ค่านิยมกลุ่มไทยเบฟ หรือ Global Values ประกอบด้วยหลักสำคัญ 3 ประการที่ไทยเบฟคาดหวังให้พนักงานทุกระดับยึดถือและลงมือปฏิบัติด้วยความสม่ำเสมอ นั่นคือ
- การจัดโครงสร้างองค์กรเป็นการกำหนดหน้าที่การทำงานของพนักงานแต่ละคนให้ชัดเจน รวมไปถึงเชื่อมโยงการประสานงาน ทั้งในระดับบุคคล ระหว่างทีมงาน แผนก และฝ่ายงานต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังเป็นกลไกรองรับ การปฏิบัติงานตามแผนกลยุทธ์ของแต่ละสายงานเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ
- การจัดโครงสร้างองค์กรเปรียบเสมือนการจัดทัพให้มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยเสริมสร้างจุดแข็งและตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจ อีกทั้งนำองค์กรไปสู่ชัยชนะในการแข่งขัน โดยไทยเบฟยึดโครงสร้างองค์กรในรูปแบบกลุ่มธุรกิจ (Product Group) กลุ่มงานสนับสนุนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Support Group) และกลุ่มงานสนับสนุนการบริหารองค์กร (Corporate Functions Group) ซึ่งครอบคลุมบริษัทในกลุ่มทั้งภายในและต่างประเทศ เมื่อผสานพลังทั้งหมดจึงเกิด ความเชี่ยวชาญในการสร้างความหลากหลายทางธุรกิจ ตราสินค้า และการตลาด การกระจายสินค้า และความเป็น มืออาชีพ เพื่อยกระดับความสามารถของไทยเบฟ
- โครงสร้างองค์กรเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการทางธุรกิจ มีการเพิ่มจำนวนพนักงาน และหน้าที่การทำงาน ซึ่งการเติบโตอย่างรวดเร็วส่วนหนึ่งเกิดจากการควบรวมกิจการและการร่วมทุน ส่งผลให้เกิดความซ้ำซ้อนและต้นทุนการบริหารเพิ่มขึ้น ดังนั้นการทบทวนการออกแบบโครงสร้างองค์กรและบทบาทการบริหารจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และทำให้ไทยเบฟบรรลุเป้าหมายวิสัยทัศน์ปี 2020
แบ่งปันคุณค่า
คุณภาณุพงศ์ เพชรบูรณ์
|
เดิมผมเคยเห็นเพียงโอกาสการเติบโตในหน่วยงานตัวเองเท่านั้น แต่เมื่อผมได้เข้าร่วมกิจกรรมสัมมนาของไทยเบฟ ผมได้เห็นโครงสร้างองค์กรและโอกาสที่เปิดกว้างมากขึ้น ที่สำคัญผมได้พบว่าผู้บริหารระดับสูง โดยเฉพาะคุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ให้ความสำคัญจริงๆ ในการส่งเสริมให้พวกเราเห็นเป้าหมายในอนาคตและใช้ชีวิตให้คุ้มค่าแบบท้าทาย ถึงแม้ผมเป็นสมาชิกใหม่ของไทยเบฟ ผมรู้สึกมีแรงบันดาลใจที่จะศึกษาโอกาสต่างๆ ในไทยเบฟและมุ่งมั่น ที่จะลงมือทำอย่างเต็มที่
ภารกิจสำคัญ |
- ไทยเบฟบริหารค่าตอบแทนให้เป็นไปอย่างยุติธรรม สามารถ เทียบเคียงได้กับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยร่วมงาน กับบริษัทชั้นนำระดับโลกในการวางระบบบริหารค่าตอบแทน และสวัสดิการให้เทียบเคียงได้กับจุดอ้างอิงที่เหมาะสมกับตลาดและสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของไทยเบฟ
- ไทยเบฟมีการจัดสรรสวัสดิการให้กับพนักงานเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและคุ้มครองสวัสดิภาพของพนักงาน เช่น ค่ารักษาพยาบาล การตรวจสุขภาพประจำปี การประกันอุบัติเหตุ และการประกันชีวิตให้กับพนักงาน
- ไทยเบฟยังได้วางระบบประเมินค่างาน (Job Evaluation) ภายใต้โครงสร้างองค์กรตามหลักการวัดค่างานสากล ซึ่งสามารถนำไปอ้างอิงกับข้อมูลค่าตอบแทนในตลาดได้อย่างเป็นระบบ
- มีการสร้างแรงจูงใจสำหรับบุคลากรที่มีความตั้งใจ มุ่งมั่น และทุ่มเทในการทำงาน โดยการให้รางวัลตอบแทนอย่างเหมาะสม ตามความสามารถและผลการปฏิบัติงานรายบุคคล รวมถึง โครงการค่าตอบแทนจูงใจระยะยาว หรือ Long Term Incentive Plan (LTIP) ที่ให้ผู้บริหารมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของกิจการในรูปแบบหุ้นบริษัทเพื่อส่งเสริมการทุ่มเทในการทำงานอย่างต่อเนื่องและรักษาบุคลากรที่มีคุณค่าให้ปฏิบัติงานกับไทยเบฟต่อไปในระยะยาว ซึ่งเป็นผลดีในการดำเนินธุรกิจ
- มีสิทธิพิเศษอื่นๆ สำหรับพนักงานเพื่อเสริมสร้างความภาคภูมิใจในไทยเบฟ เช่น ส่วนลดร้านอาหารในเครือ ส่วนลดค่าพักโรงแรม ส่วนลดค่ารักษาพยาบาล และส่วนลดผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายใน ไทยเบฟ
แบ่งปันคุณค่า
ดร.เอกพล ณ สงขลา
|
ไทยเบฟมุ่งหวังที่จะเป็นองค์กรซึ่งเป็นที่ชื่นชมและมีความมั่นคงยั่งยืน ดังนั้นปรัชญาด้านระบบบริหารค่าตอบแทนและสวัสดิการจึงสะท้อนถึงคุณค่าของงานในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งมีอยู่หลากหลาย ตั้งแต่พนักงานระดับปฏิบัติการซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ไปจนถึงพนักงานรุ่นใหม่ซึ่งมีค่านิยมและการใช้ชีวิตสะท้อนการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของสังคม รวมทั้งกลุ่มพนักงานระดับผู้จัดการและผู้บริหารซึ่งมีความท้าทายในการบริหารธุรกิจข้ามชาติ โดยระบบบริหารค่าตอบแทนและสวัสดิการของกลุ่มไทยเบฟได้ออกแบบและปรับให้มีความสอดคล้องกับแต่ละระดับงานในแต่ละบริษัทซึ่งอาจทำธุรกิจแตกต่างกันไป
และสะท้อนถึงสภาวะการจ้างงานในแต่ละประเทศที่ไทยเบฟ
ดำเนินธุรกิจอยู่
ขณะเดียวกัน ไทยเบฟให้ความสำคัญในการส่งเสริมการเติบโต
ของพนักงานและความผูกพันกับองค์กรในระยะยาว ควบคู่ไปกับความสามารถในการแข่งขัน ไทยเบฟใส่ใจในการเติบโตของพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งเสริมการเติบโตในสายอาชีพ
ช่วยทำให้เราสามารถขยายธุรกิจโดยมีความมั่นคงในด้านบุคลากร และเพิ่มพูนความสามารถในการแข่งขันระดับภูมิภาคอาเซียน
- ในการบริหารผลการปฏิบัติงาน ไทยเบฟได้พัฒนาแนวทางในการตั้งเป้าหมายและการประเมินผลการปฏิบัติงานไว้อย่างเป็นระบบและดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการตั้งเป้าหมายทั้งด้านตัวเลขทางการเงินและผลลัพธ์ทางธุรกิจซึ่งสอดคล้องกับ
เป้าหมายของไทยเบฟ อีกทั้งยังมีการประเมินในด้านอื่นๆ ได้แก่
- ด้านการปรับปรุงกระบวนการทำงาน เพื่อให้พนักงานและไทยเบฟสามารถเดินหน้าพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- ด้านความยั่งยืน เพื่อให้การทำงานและผลลัพธ์ทางธุรกิจสอดคล้องกัน และด้านการพัฒนาบุคลากร เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพนักงานมีความสามารถที่จะถ่ายทอดความรู้ความสามารถให้ ผู้อื่น และก่อให้เกิดการแบ่งปันความรู้ (Knowledge Sharing) ภายในไทยเบฟ ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่มีผลลัพธ์สูง (High Performance Culture)
- นอกจากสนับสนุนการดำเนินการตามเป้าหมาย ไทยเบฟยังให้ความสำคัญกับคุณค่าองค์กรหรือพฤติกรรมที่ต้องการสร้างวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันเพื่อทำให้เป้าหมายสำเร็จ ดังนั้น ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน ไทยเบฟจึงนำค่านิยมกลุ่มไทยเบฟ หรือ ThaiBev Global Values มาใช้ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้พนักงานเกิดความเป็นหนึ่งเดียว ส่งเสริมและสนับสนุนช่วยกันสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ทำให้ไทยเบฟมั่นคงและยั่งยืน
- ไทยเบฟได้พัฒนาระบบ Beverest ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการ ด้านทรัพยากรบุคคลแบบครบวงจร เพื่อใช้บันทึกและบริหารข้อมูลพนักงาน ดำเนินการขั้นตอนด้านบุคคล และวิเคราะห์ข้อมูลพนักงานสำหรับการวางแผนกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคลในอนาคต และยังสามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยผ่านอุปกรณ์สื่อสาร เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบและติดตามผลระหว่างหัวหน้าและพนักงาน
- ไทยเบฟได้กำหนด Balanced Scorecard เป็นเครื่องมือในการบริหารผลการปฏิบัติงานเพื่อวัดประสิทธิภาพและศักยภาพของไทยเบฟ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการเงิน (Financial Perspective) ด้านลูกค้า (Customer Perspective) ด้านกระบวนการทางธุรกิจ/ระบบปฏิบัติการภายในองค์กร (Business Process/Internal Operations Perspective) และด้านการเรียนรู้และเติบโต (Learning and Growth Perspective) นอกจากนี้ ยังใช้ในการกำหนดน้ำหนักของเป้าหมายในแต่ละด้าน ให้ครอบคลุมเป้าหมายที่สำคัญของไทยเบฟ
แบ่งปันคุณค่า
คุณนพดล เลิศมงคลธรรม
|
หลังจากไทยเบฟได้ขยายการใช้งานระบบบริหารผลการปฏิบัติงาน ทำให้ผมได้ใช้งานฟังก์ชันเป้าหมายการปฏิบัติงาน และผลการปฏิบัติงานบนระบบ Beverest ความรู้สึกที่ได้ใช้ต้องยอมรับว่ารู้สึกไม่ชินในตอนแรก และการแสดงผลต่างๆ ผมไม่คุ้นเคย แต่ไทยเบฟมีการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ ในระบบมีการเพิ่มวิดีโอการใช้งานในแต่ละ ฟังก์ชัน มีการจัดอบรมการใช้งานโดยทีมกลุ่มทรัพยากรบุคคล ทำให้ผมเข้าใจมากขึ้น ประกอบกับการต้องเข้าไปใช้งานค่อนข้างบ่อยในช่วงการตั้งเป้าหมาย ทำให้ผม เริ่มคุ้นเคยกับการใช้งานระบบ หากติดขัดตรงไหน ผมสามารถถามหัวหน้างานหรือโทรศัพท์หา HC Helpdesk ซึ่งเปรียบเสมือนคอลเซ็นเตอร์ของกลุ่มทรัพยากรบุคคล เพื่อช่วยผมให้ทำงานบนระบบต่อไปได้ครับ ปัจจุบัน สามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน บนสมาร์ตโฟน ทำให้ผมได้รับความสะดวก สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาตามที่ผมต้องการ
คุณกัญชลิกา อาจวิชัย
|
ระบบ Beverest เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ทำให้สามารถเข้าไปถึงโครงสร้างของไทยเบฟได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ทำให้รู้ว่าเราอยู่จุดไหนของไทยเบฟ สิ่งที่ประทับใจคือ พนักงานใหม่ที่เข้ามาใช้จะได้รู้ว่าตนเองอยู่ภายใต้กลุ่มไหน ทีมงานไหนที่จะต้องทำงานด้วย รู้สึกว่าเรื่องของโครงสร้างองค์กร มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ถ้า KPI ข้อไหนที่ตั้งไว้ใกล้ที่จะบรรลุเป้าหมายแล้ว จะได้รู้ตัวว่าใกล้ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าประเมินผลงานแล้วพบว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ เราต้องกระตุ้นตัวเอง เพื่อไปให้ถึงจุดนั้น
ภารกิจสำคัญ | หลักการ WOW (Way of Work) |
- ระบบการพัฒนาความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Development System)
- โครงการพัฒนาบุคลากรศักยภาพสูง (Talent Development Program)
ในปี 2561
จำนวนชั่วโมงอบรมเฉลี่ย ของพนักงานเท่ากับ
ชั่วโมงต่อคนต่อปี
ในปี 2561 ไทยเบฟใช้งบประมาณกว่า
155
ล้านบาท
ในการพัฒนาศักยภาพ ของพนักงาน
- ไทยเบฟได้ออกแบบเส้นทางอาชีพ (Career Path) และสมรรถนะตามสายงาน (Functional Competency) เพื่อให้พนักงานวางแผนเส้นทางอาชีพของตนเองในไทยเบฟ รวมถึงพัฒนาศักยภาพและความก้าวหน้าในสายงาน โดยใช้แผนการพัฒนารายบุคคล (Individual Development Plan: IDP) เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตในไทยเบฟอย่างไร้ขีดจำกัด
- ในแผนการพัฒนารายบุคคล (Individual Development Plan: IDP) ไทยเบฟใช้หลักการพัฒนาศักยภาพของพนักงานในรูปแบบ 70:20:10 คือ
- 70% คือการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติ เช่น การรับผิดชอบงานใหม่ๆ การทำงานโครงการพิเศษ การเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริง
- 20% คือการเรียนรู้จากบุคคลอื่น เช่น การโค้ช การสอนงานโดยผู้เชี่ยวชาญ การเข้าร่วมสมาชิกชมรม การรับฟังข้อคิดเห็นและคำแนะนำจากผู้อื่น การเรียนรู้จากการทำงานของผู้บริหาร
- 10% คือการเรียนรู้จากการเข้าอบรมอย่างเป็นทางการ เช่น เข้าเรียนตามโปรแกรมฝึกอบรม การเรียนผ่านบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) หรือเข้าเรียนในโปรแกรมพัฒนาบุคลากรระยะสั้น
- ในการจัดทำแผนพัฒนารายบุคคลของพนักงานในกลุ่มสายงานดังกล่าวข้างต้น มีขั้นตอนดังนี้
- 1. เริ่มจากการศึกษาเส้นทางสายอาชีพและสมรรถนะตามสายงานที่ได้กำหนดไว้
- 2. จากนั้นทำการประเมินสมรรถนะตามสายอาชีพ เพื่อระบุช่องว่างการพัฒนา (Competency Gap)
- 3. จัดทำแผนการพัฒนารายบุคคลตามผลการประเมินรวมถึงเป้าหมายในสายอาชีพที่พนักงานวางไว้ผ่านระบบ Beverest ซึ่งเป็นระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรบุคคลของไทยเบฟ
- สำหรับพนักงานทุกระดับในกลุ่มงานอื่นๆ ได้มีการจัดทำแผนพัฒนารายบุคคลเช่นกัน โดยให้ระดับหัวหน้าได้จัดทำแผนพัฒนารายบุคคลในระบบ Beverest ทำให้สามารถติดตามและตรวจสอบ ความก้าวหน้าของแผนพัฒนาได้
เส้นทางอาชีพที่คุณออกแบบได้ Craft Your Career Journey
- กลุ่มงานไทยเบฟ
- สมรรถนะในการทำงาน
- ลักษณะเส้นทางการเติบโต ในสายอาชีพ
- ค่านิยมกลุ่มไทยเบฟ
- สมรรถนะความเป็นผู้นำ
- สมรรถนะในการทำงาน
- รูปแบบการเรียนรู้ 70:20:10
- โปรแกรมการเรียนรู้ และพัฒนาต่างๆ
- ทุนการศึกษา
แบ่งปันคุณค่า
คุณสมชัย สมทอง
|
ผมเริ่มต้นอาชีพการขายกับไทยเบฟครั้งแรกใน พ.ศ. 2554 โดยเริ่มจากการเป็นพนักงานขายรถเร่ (Cash Van) ตั้งแต่ยังไม่มีอุปกรณ์แท็บเล็ตเข้ามาช่วยในการขาย จนถึงปัจจุบันผมได้เป็นผู้จัดการ Customer Management ผมเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งกับไทยเบฟ คู่แข่ง และตัวเอง ซึ่งผมได้ตั้งเป้าหมายในการทำงานตั้งแต่ วันแรกว่า เราทุกคนทำเพื่อไทยเบฟ ทุกอย่างต้องทำได้ และจะทำงานมากกว่าตำแหน่งที่ได้รับเสมอ เพื่อที่จะมีโอกาสเติบโตควบคู่ไปกับการพัฒนาความรู้และทักษะในการขาย โดยปรึกษาหารือกับหัวหน้างานอย่างสม่ำเสมอในเป้าหมายที่คาดหวังไว้ โดยมีแผนพัฒนารายบุคคล หรือ IDP เป็นเครื่องมือและแนวทางที่ใช้จัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำและสิ่งที่ผมต้องพัฒนาเพื่อให้เติบโตตามที่ตั้งใจไว้ นอกจากนั้นผมมุ่งมั่น ที่จะสร้างทีมงานขายที่แข็งแกร่งและส่งต่อความสำเร็จให้กับทีมขายไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใดก็ตาม อันจะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ยอดขายเป็นไปตามที่ไทยเบฟตั้งเป้าไว้
คุณรัชนันท์ ดีแสน
|
จากจุดเริ่มต้นในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทรัพยากรบุคคลที่ดูแลด้านการพัฒนาบุคลากร ที่บริษัท โมเดิร์นเทรดแมเนจเม้นท์ จำกัด จนถึงวันนี้ที่บริษัทได้มอบโอกาสให้ดูแลงานด้านทรัพยากรบุคคลให้กับบริษัท SABECO ที่เวียดนาม ซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ต้องทำงานในสภาพแวดล้อม วัฒนธรรม และเชื้อชาติที่แตกต่าง โดยส่วนตัวมีความเชื่อเสมอว่า การเรียนรู้ที่จะทำให้เราเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วที่สุดคือการลงมือทำ ซึ่งจากประสบการณ์ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญที่ทำให้เข้าใจกิจกรรมการเรียนรู้ 70:20:10 ที่ได้ผ่านการปรึกษากับผู้บังคับบัญชาในการจัดทำ IDP เพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเอง ให้พร้อมเติบโตในสายงานและคว้าโอกาส ที่ไทยเบฟมอบให้ตามศักยภาพและความเหมาะสม ดังนั้นการทำงานที่เวียดนาม จึงถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ (70) และการปรึกษาหารือ กับผู้ใหญ่ที่มากประสบการณ์ (20) ที่จะทำให้สามารถพัฒนาตนเองไปอีกขั้น ที่พร้อมจะเติบโตในสายงานตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้
- โปรแกรมการพัฒนาศักยภาพรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มเติมความรู้ ทางธุรกิจและส่งเสริมภาวะความเป็นผู้นำให้พนักงานมีทักษะในการทำงานเพิ่มมากขึ้น โดยใช้หลักการพัฒนาศักยภาพในรูปแบบ 70:20:10 และการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำด้วยการนำเสนอโปรเจกต์ที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจ (Action-Learning Project) ซึ่งเป็นเวทีให้พนักงานได้นำเสนอไอเดียที่จะส่งเสริมธุรกิจให้บรรลุวิสัยทัศน์ของไทยเบฟ ตลอดจนทำให้ผู้บริหารระดับสูงเห็นศักยภาพของพนักงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการเรียนรู้ในห้องเรียนแต่เพียงอย่างเดียว
- โปรแกรมการพัฒนาได้รับการออกแบบโดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและต่อยอดให้บุคลากรในแต่ละระดับได้เติบโตในไทยเบฟ โดยการ ยึดหลักพนักงานหรือผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Learner Centric)
- ไทยเบฟได้พัฒนาคู่มือการพัฒนาสมรรถนะความเป็นผู้นำ (Leadership Competency Development Guidebook) ให้กับพนักงานเพื่อช่วยในการคัดเลือกกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาศักยภาพแบบ 70:20:10 ขณะเดียวกันช่วยสนับสนุน การจัดทำแผนการพัฒนารายบุคคล (IDP)
แบ่งปันคุณค่า
คุณสุภรณ์ เด่นไพศาล
|
จากประสบการณ์ทำงานกับไทยเบฟในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา นับว่าดิฉันโชคดีมากเพราะได้รับโอกาสในการพัฒนาและเติบโตจากทั้งหัวหน้างานและผู้บริหาร ผ่านการเรียนรู้จากการทำงาน (On the Job Training) การเข้าอบรมหลักสูตรต่างๆ และการวางแผนเป้าหมายและการพัฒนาตนเอง (IDP) ดิฉันได้รับ มอบหมายให้หมุนเวียนทำงานดูแลแบรนด์ต่างๆ เช่น โออิชิ เอส 100 พลัส และล่าสุดได้รับมอบหมายให้ดูแลตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นโอกาสได้เรียนรู้การทำ การตลาดหลากหลายแบรนด์ ได้พัฒนาทักษะการวางแผน การต่อรอง และ การเป็นผู้นำ นอกจากนี้ยังได้เข้าอบรมหลักสูตรต่างๆ เช่น SEDP ทำให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับไทยเบฟ การบริหาร และได้โอกาสในการทำงานร่วมกับผู้บริหาร ในหน่วยงานต่างๆ ความประทับใจล่าสุดคือการที่คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี CEO ของบริษัท สละเวลามาฟังแผนและเป้าหมายการพัฒนาตนเองของพนักงาน ด้วยตัวเอง แสดงให้เห็นว่าท่านให้ความสำคัญกับการพัฒนาของเราในองค์กร อย่างมาก
คุณกฤษณ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา
|
ผมรู้สึกดีใจมากที่ไทยเบฟและผู้บริหารระดับสูงมองเห็นศักยภาพและพร้อมที่จะให้โอกาสสนับสนุนพนักงานรุ่นใหม่อย่างตัวผมที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะเติบโตในไทยเบฟ โดยใช้ความสามารถและพลังที่มีเพื่อจะผลักดันไทยเบฟ ให้ประสบความสำเร็จตามความคาดหมาย การไปเรียนครั้งนี้ ผมคาดหวังว่า จะนำสิ่งที่เรียนมาเพิ่มความมั่นใจให้กับไทยเบฟ และจะนำประสบการณ์จากการทำงานที่ผ่านมาทั้งหมดบวกกับด้านวิชาการ ไปวางแผนและต่อยอดในการบริหารและดำเนินธุรกิจของไทยเบฟต่อไป
93%
ของตำแหน่งทั้งหมด ที่กำหนดในแผนการสืบทอด
- เพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจในการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งแทนพนักงานระดับผู้บริหารระดับสูง
ที่ใกล้เกษียณ ไทยเบฟวางแผนการสรรหาผู้สืบทอดตำแหน่ง (Succession Plan) เพื่อให้ธุรกิจ
เดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ตามพันธกิจและคำมั่นสัญญาของไทยเบฟที่มีต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ลูกค้า และสังคม รวมถึงรักษาวัฒนธรรมการบริหารจัดการที่ดี โดยจัดทำแผนทดแทนตำแหน่งงาน ดังนี้
- (1) กำหนดตำแหน่งงานหลัก (Critical Position) เพื่อจัดทำแผนทดแทนตำแหน่งงาน
- (2) กำหนดคุณลักษณะของผู้นำที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานหลัก เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือก
- (3) ประเมินความพร้อมของผู้บริหารที่ได้รับการพิจารณาเพื่อทดแทนตำแหน่งงาน โดยใช้กรอบ WAR ในการประเมิน คือ ความมุ่งมั่น (Willing) มีความสามารถ (Able) และมีความพร้อม (Ready)
- (4) จัดทำแผนพัฒนารายบุคคล (IDP) และมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
- ไทยเบฟสามารถจัดหาพนักงานที่จะดำรงตำแหน่งผู้สืบทอดได้คิดเป็นร้อยละ 93 จากทั้งหมด 121 ตำแหน่งที่กำหนดในแผนการสืบทอดของตำแหน่งหลัก (Critical Position)
ภารกิจสำคัญ |
- ระบบและกระบวนการในการประเมินพนักงานที่มีศักยภาพสูง (Talent Assessment) จากทุกสายงาน เพื่อค้นหา Global Talent Pool หรือพนักงานที่มีศักยภาพในการเติบโตเป็นผู้นำ ไทยเบฟในอนาคต ซึ่งจะเชื่อมต่อกับการจัดทำแผนทดแทนตำแหน่งงานได้อย่างต่อเนื่อง
- การกำหนดตำแหน่งงานหลัก (Critical Position) เพื่อจัดทำแผนทดแทนตำแหน่งงาน รวมถึงหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกเพื่อใช้ในการคัดเลือกและประเมินความพร้อมของผู้บริหารที่ได้รับการพิจารณาเพื่อทดแทนตำแหน่งงาน
- การจัดทำแผนพัฒนารายบุคคล (Individual Development Plan) และมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่ตำแหน่งงานหลัก (Critical Position) ผ่านรูปแบบการเรียนรู้จากประสบการณ์ (Experiential Learning) รวมถึง ระบบสนับสนุนโอกาสการทำงานต่างประเทศ (Global Mobility Platform) เพื่อพัฒนาความพร้อมในระยะเวลาอันรวดเร็วและรองรับแผนการขยายธุรกิจในต่างประเทศของไทยเบฟอีกด้วย
Applying WAR Model to assess readiness of the candidates.
- การรับสมัครงานผ่านเว็บไซต์สมัครงานของไทยเบฟ ซึ่งมีตำแหน่งงานว่างครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเว็บไซต์หางานภายนอก หรือช่องทางอื่นๆ เช่น Job Fair, Campus Recruitment และ Recruitment Road Show ซึ่งจัดขึ้นตามมหาวิทยาลัยของรัฐบาลและเอกชนเพื่อให้ครอบคลุมเข้าถึงผู้มีศักยภาพในทุกๆ กลุ่ม
- ใช้ระบบ Beverest โดยบุคคลภายนอกทั่วไปที่สนใจ สามารถสมัครงานกับทางไทยเบฟได้อย่างง่ายดาย เช่น สามารถตรวจสอบตำแหน่ง ว่างงานทั้งหมดในระบบ และสามารถฝากประวัติการสมัครผ่านระบบได้โดยกรอกข้อมูลส่วนตัวในระบบและแนบประวัติการทำงาน นอกจากนี้ยังมีกระบวนการเตรียมความพร้อมสำหรับพนักงานใหม่ โดยต้นสังกัดสามารถเข้าไปดูแลผู้สมัครผ่านระบบนี้ เช่น การเขียนข้อความต้อนรับ การแนะนำข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ การแนะนำเจ้าหน้าที่ ที่พนักงานใหม่จะต้องติดต่อเกี่ยวข้อง และการเตรียมอุปกรณ์ เบื้องต้นสำหรับพนักงานใหม่
- ไทยเบฟยังเปิดโอกาสให้พนักงานสมัครงานภายใน (Internal Recruitment Program) ผ่านระบบ Beverest และยังมีทีม Talent Acquisition ช่วยให้คำแนะนำพนักงานเกี่ยวกับตำแหน่งงานต่างๆ ที่กำลังเปิดรับอีกด้วย
แบ่งปันคุณค่า
คุณสุชลทิพย์ ตรีสุชน
|
เพื่อสรรหาบุคลากรที่เป็น “คนดีและคนเก่ง” ไทยเบฟจึงช่วยพัฒนาทรัพยากรบุคคลของประเทศให้มีองค์ความรู้ ทักษะ ความชำนาญและความเข้าใจในสายวิชาชีพของตนเองอย่างแท้จริง ดังนั้นไทยเบฟจึงจัดโครงการฝึกงานภาคฤดูร้อน “ช้างจูเนียร์” ขึ้นเพื่อรับนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆ เข้าฝึกงานกับไทยเบฟ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมโดยเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้เรียนรู้ขั้นตอนและวิธีการทำงาน รวมถึงวัฒนธรรมในการทำงานเพื่อสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมการทำงานจริงได้ นอกจากนี้ โครงการนี้ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันการศึกษา ซึ่งส่งผลต่อการสรรหาบุคลากรที่ดี มีศักยภาพและเหมาะสม กับไทยเบฟในอนาคต
ภารกิจสำคัญ | CAREER DAY |
ประโยชน์กับไทยเบฟ : พนักงานที่รับหน้าที่พี่เลี้ยงให้แก่นักศึกษาได้ฝึกทักษะในการเป็นผู้นำและการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร และยังถือเป็นการสร้างเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของไทยเบฟ ต่อสังคมภายนอก
ประโยชน์กับนิสิตนักศึกษา : นักศึกษาจะได้รับประสบการณ์วิชาชีพตามสาขาวิชาที่เรียน ได้พัฒนาความรู้ มีความมั่นใจ ในตัวเองมากขึ้น รวมถึงได้ทักษะการสื่อสารและการทำงาน ในองค์กร เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนก้าวเข้าสู่โลกของการทำงานจริง นอกจากนี้ นักศึกษายังมีข้อมูลในการเลือกสายงานอาชีพได้ถูกต้อง โดยค้นพบตนเองก่อนเรียนจบ และบางคนอาจได้รับการเสนองานก่อนสำเร็จการศึกษาอีกด้วย จากผลการสำรวจนักศึกษามหาวิทยาลัยในประเทศไทยประจำปี 2018 โดย Universum ชี้ให้เห็นว่าปัจจัยที่จะเป็นแรงจูงใจให้สมัครงานกับบริษัทต่างๆ นั้นมีหลายประการ เช่น เส้นทางอาชีพเพื่อความก้าวหน้า ผู้บริหารที่สนับสนุนการพัฒนาของพนักงาน ความสำเร็จขององค์กร ความรับผิดชอบต่อสังคม หรือโอกาส ในการทำงานในต่างประเทศ ซึ่งไทยเบฟมีปัจจัยดังกล่าวครบถ้วน
- เพื่อเสริมสร้างให้พนักงานมีความรู้สึกเป็นเจ้าของหรือมี ส่วนร่วมในไทยเบฟสูงขึ้น ไทยเบฟจึงทำการสำรวจความผูกพันของพนักงาน เพื่อวัดปัจจัยที่มีผลต่อความผูกพัน ของพนักงานต่อองค์กร
- ไทยเบฟได้นำผลสำรวจไปวิเคราะห์เชิงลึก โดยผู้บริหารของไทยเบฟได้มีส่วนร่วมวิเคราะห์ เพื่อจัดทำแผนการปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อเพิ่มระดับความผูกพันของพนักงานต่อไทยเบฟ โดยเน้นปัจจัยหลักๆ ได้แก่ สวัสดิการของพนักงาน สภาพความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในสถานที่ทำงาน ค่าตอบแทนของพนักงาน บทบาทหน้าที่ในองค์กร และการชื่นชมผลการดำเนินงานของพนักงาน
- เพื่อเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมในการทำงาน ไทยเบฟได้นำ ค่านิยมกลุ่มไทยเบฟ หรือ ThaiBev Global Values มาเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินผลการดำเนินการของพนักงาน
- ไทยเบฟได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความผูกพันต่อองค์กร โดยปรับรูปแบบและเพิ่มความหลากหลายของกิจกรรม พื้นที่การจัดกิจกรรม เพื่อเพิ่มโอกาสการมีส่วนร่วมของพนักงานให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เช่น ริเริ่มโครงการ WOW Awards ซึ่งเป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้พนักงานนำหลักการ WOW (Way of Work) มาใช้ในการทำงาน โดยมีการตัดสินและมอบรางวัลสำหรับโครงการที่มีผลสำเร็จและนำไปต่อยอดได้
แบ่งปันคุณค่า
คุณนงนุช บูรณะเศรษฐกุล
|
คนทุกคนย่อมมีคุณค่าที่ตัวเองยึดถือและปฏิบัติ ดิฉันมองว่าทุกคนเกิดมาจากต่างครอบครัว เพราะฉะนั้นการมาอยู่รวมกันจำเป็นต้องมีพื้นฐานในการอยู่ร่วมกัน เพื่อให้เรามองไปในเป้าหมายเดียวกัน และเนื่องจากไทยเบฟเป็นบริษัทสัญชาติไทย ดังนั้นคุณค่าพื้นฐานของคนไทยจะเป็นรูปแบบหนึ่ง แต่ปัจจุบันไทยเบฟเติบโตจากเดิมเยอะมาก มีการควบรวมธุรกิจต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศมากมาย เพราะฉะนั้นการมีค่านิยมกลุ่มไทยเบฟ หรือ ThaiBev Global Values จะทำให้ ทุกคนให้ความสำคัญและยึดถือปฏิบัติในคุณค่าแบบเดียวกัน ถ้าทุกคนมองและเดินไปในทิศทางเดียวกัน ไทยเบฟจะเคลื่อนที่ไปได้เร็ว ไม่ใช่ต่างคนต่างไป ช่วยให้ทุกธุรกิจเดินไปด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภารกิจสำคัญ | โครงการ WOW Awards 2018 |
- 1) WOW Project คือ โครงการที่พนักงานได้คิดและลงมือปฏิบัติจนเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมแล้ว
- 2) WOW Idea คือ การคิดและนำเสนอหลักการหรือแนวความคิดเพื่อให้เกิดผลลัพธ์หรือนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ธุรกิจมากขึ้น
ในปี 2561 ไทยเบฟได้จัดตั้งทีมบริหารด้านแรงงานสัมพันธ์ เพื่อควบคุมดูแลและบริหาร ความเสี่ยงไม่ให้มีผลกระทบหรือการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับข้อกฎหมาย เช่น การจ้างงานลูกจ้างรับเหมาค่าแรง การจ้างงานผู้พิการ การจ้างแรงงานต่างด้าวตามข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU นอกจากนี้ไทยเบฟยังได้ดำเนินการด้านเกษียณอายุพนักงานเมื่อพนักงานมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ให้ได้รับเงินตามกฎหมาย โดยไทยเบฟได้พิจารณาทำสัญญาจ้างพนักงานที่เกษียณอายุงานใหม่เป็นรายบุคคล เป็นการตอบรับนโยบายของรัฐในการจ้างงานผู้สูงอายุให้ใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพและมีรายได้
โครงสร้างและบทบาทที่ชัดเจน
- ทบทวนโครงสร้างองค์กรเพื่อหาโอกาสปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มความสามารถของไทยเบฟ อย่างต่อเนื่อง
- ขยายการพัฒนาสมรรถนะ (Competency) และเส้นทางอาชีพ (Career Path) ในกลุ่มงาน (Job Family) ให้สอดคล้องกับการออกแบบโครงสร้างและบทบาทการบริหารของไทยเบฟ
ค่าตอบแทนและ สวัสดิการที่แข่งขันได้กับตลา
- บริหารและวิเคราะห์ค่าจ้าง ค่าตอบแทน และสวัสดิการ ให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน และความต้องการของบุคลากรในแต่ละรุ่นอย่างต่อเนื่อง
- ให้สิทธิพิเศษกับพนักงานไทยเบฟเพื่อให้พนักงานรู้จักและ มีความผูกพันกับสินค้าของไทยเบฟมากขึ้น และเป็นตัวแทน ในการสร้างแบรนด์ของสินค้านั้นๆ ต่อไป
การบริหาร ผลการดำเนินงานที่โดดเด่น
- ขยายช่องทางการเข้าใช้งานผ่านอุปกรณ์สื่อสาร เพื่อตอบโจทย์พนักงานรุ่นใหม่และสามารถเข้าใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา
- วางแผนพัฒนาศักยภาพพนักงานที่เป็นระดับผู้จัดการ ให้มีความรู้และทักษะด้านการเป็นโค้ช เพื่อส่งต่อความรู้ ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างมีประสิทธิภาพ
การพัฒนาพนักงาน ที่มีศักยภาพสูงแบบองค์รว
- ส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมการเรียนรู้เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ตลอดชีวิต (Lifelong Development) โดยจะเพิ่มเติมการเรียนรู้ รูปแบบ 70:20:10 ที่สนับสนุนพนักงานในการเรียนรู้ด้วยตนเองจากสื่อต่างๆ เช่น Digital Learning, Digital Library
- ต่อยอดการพัฒนาพนักงานที่มีศักยภาพสูงโดยใช้แผนการพัฒนารายบุคคล (IDP) และ Mentoring Program เพื่อติดตามความก้าวหน้าทางอาชีพของพนักงาน
การบริหารผู้สืบทอด ตำแหน่งและบุคลากรเชิงรุ
- ยกระดับการเตรียมความพร้อมเพื่อให้พนักงานและผู้บริหาร ในการสืบทอดตำแหน่งมีความพร้อม (Ready) ซึ่งเป็น องค์ประกอบสำคัญในการเป็น WAR Team (Willing ความมุ่งมั่น -Able ความสามารถ -Ready ความพร้อม)
- ขยายการจัดทำแผนการสืบทอดตำแหน่งไปยังตำแหน่งพนักงานในระดับอื่นๆ ต่อไป
การสรรหาพนักงาน ที่มีศักยภาพและดูแลพนักงานใหม่
- เพิ่มโครงการใหม่ๆ เพื่อดึงดูดผู้ร่วมงานที่มีศักยภาพสูงและ ยกระดับโครงการช้างจูเนียร์โดยคัดเลือกนักศึกษาที่มีศักยภาพสูงขึ้นจากเดิมรับนักศึกษาที่มีเกรดเฉลี่ย 2.75 ขึ้นไป เป็นเกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป
- ปรับเพิ่มการสื่อสารผ่านช่องทาง social media เพื่อให้บุคคลทั่วไปและผู้สนใจบริษัทรู้จักบริษัทไทยเบฟในฐานะนายจ้างดีเด่นมากยิ่งขึ้น
การส่งเสริมวัฒนธรรม ที่สร้างความผูกพันต่อองค์กร
- เสริมสร้างความเป็นหนึ่งเดียว (Oneness) ผ่านค่านิยมกลุ่ม ไทยเบฟ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในไทยเบฟ
- ปลูกฝังกระบวนการทางความคิดที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลง (Transformation Mindset) เพื่อให้ทุกคนพร้อมสำหรับความเปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างขีดความสามารถในระดับภูมิภาคอาเซียน เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนพร้อมกัน