รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี 2561
หน้าแรก / รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน 2561 / สร้างสรรค์และแบ่งปัน นวัตกรรม
GRI 103-1, GRI 103-2

  • ศูนย์วิจัยและพัฒนาของไทยเบฟเปิดรับแนวคิด ความรู้ และส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพทั้งสินค้า และบริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ บริการ และกระบวนการใหม่ๆ โดยส่งเสริมให้มีการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต รวมทั้งมีการสร้างผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น ในตลาด
  • ไทยเบฟให้ความสำคัญในการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่เพื่อให้เกิดความหลากหลาย ในเชิงธุรกิจ เพื่อตอบสนองความต้องการและการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคทุกช่วงวัย ในทุกช่วงเวลา
  • นวัตกรรมมีผลต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและการให้บริการแก่ลูกค้า พนักงาน และผู้บริโภค รวมถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและปลอดภัยต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม

แบ่งปันคุณค่า

ดร.พิษณุ วิเชียรสรรค์
กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มเทคโนโลยีและวิศวกรรม

นวัตกรรมมีความสำคัญในการเติบโตของไทยเบฟอย่างไร
นวัตกรรมเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จของธุรกิจในระยะยาว และทำให้เราเป็นผู้นำทางธุรกิจอย่างยั่งยืนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคที่สถานการณ์ทางธุรกิจมีความผันผวนทั้งจากพฤติกรรม ผู้บริโภค มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีการแข่งขันในระดับสูง นวัตกรรมเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างและเป็นทางเลือกให้กับ ผู้บริโภค ในขณะเดียวกันไทยเบฟได้นำนวัตกรรมมาพัฒนากระบวนการผลิตเพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน รวมถึงส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมการทำงานของพนักงาน นอกจากนั้นยังเป็น การพัฒนานวัตกรรมเพื่อลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและสังคม
ไทยเบฟมีการสร้างวัฒนธรรมทางด้านนวัตกรรมขององค์กรอย่างไร
ปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาองค์กรคือ บุคลากร องค์กรจึงได้เปิดโอกาสในพนักงานเสนอความคิดเห็นที่แปลกใหม่และให้ลงมือปฏิบัติงานจริง พร้อมทั้งสนับสนุนในการเรียนรู้และปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างให้กลายเป็นวัฒนธรรมขององค์กร จึงเป็นที่มาของการเปิดเวที WOW Awards 2018 เพื่อค้นหาสุดยอดผลงานและไอเดียสร้างสรรค์จากพนักงานในกลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจทั่วโลก อันเกิดจากวิถีการทำงานด้วยความรู้ ความชำนาญ และความเชี่ยวชาญ ในกระบวนการภายในและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดแนวทาง (ThaiBev Way of Work) หรือนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างสร้างสรรค์ และสามารถเป็นแบบอย่างให้เกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน นำไป ต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ธุรกิจ
นวัตกรรมและความยั่งยืนมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร
นวัตกรรมจะส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืน ทั้งด้านทรัพยากรที่มีความผันผวนทั้งในแง่ของราคาและปริมาณ รวมถึงทรัพยากรที่มีการ ใช้แล้วหมดไป นวัตกรรมจะทำให้การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ทรัพยากรให้น้อยเพื่อได้ประโยชน์ที่มากขึ้น อาทิ โครงการการลดการใช้ทรัพยากรให้น้อยที่สุดอย่างมีประสิทธิภาพ (Less is More) ที่แสดงให้เห็นว่าการใช้ทรัพยากรเม็ดพลาสติก (PET Resin) โดยปรับลดน้ำหนักพลาสติกของขวด 15.5 กรัม เป็น 13.5 กรัม และ ใช้กระบวนการออกแบบนวัตกรรม เพื่อให้ยังคงได้คุณภาพที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกของบุคลากรให้มีการพัฒนา อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความยั่งยืน
เบฟเทค
ไทยเบฟได้จัดตั้ง บริษัท เบฟเทค จำกัด เพื่อเป็นบริษัทที่เป็นศูนย์กลางทางด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรม โดยหนึ่งในเป้าหมายคือการพัฒนาเครื่องจักรหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ (Mechanization and Automation) ซึ่งมีการคัดเลือกทีมวิศวกร และนักวิทยาศาสตร์ ที่มีความเชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตอุปกรณ์เครื่องจักรและหุ่นยนต์ เพื่อนำระบบ “อัตโนมัติ” และหุ่นยนต์มาใช้ในโรงงานของกลุ่มธุรกิจต่างๆ มากขึ้น โดยมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับกลุ่มธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพในการผลิต

รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานของพนักงาน ลดความเสี่ยงในการขาดแคลนแรงงาน และที่สำคัญคือลดการเกิดของเสียและลดการใช้พลังงาน ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันมีการใช้เครื่องจักร ในกระบวนการผลิตหลายอย่าง เช่น แขนหุ่นยนต์จัดเรียงสินค้า บนพาเลต เครื่องใส่ไส้กล่องแบบอัตโนมัติ และเครื่องคัดแยกขวดเก่าแบบอัตโนมัติ อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกของบุคลากร เพื่อให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการพัฒนาทางด้านนวัตกรรมอย่างยั่งยืน

ระบบสายพานคัดขวดอัตโนมัติ
บริษัท เบฟเทค จำกัด ได้ร่วมมือกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ รีไซเคิล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำหน้าที่ในการดูแล จัดซื้อจัดหาและขนส่ง รวมทั้งเพิ่มมูลค่าให้แก่บรรจุภัณฑ์ จัดสร้างระบบสายพานคัดขวดอัตโนมัติที่มีการใช้ระบบเครื่องจักรและหุ่นยนต์ใช้งานแทน การทำงานเดิมโดยแรงงานคน สิ่งที่ได้รับในทันทีคือ
  • ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงานของพนักงาน ให้ดีขึ้น
  • ส่งเสริมสมรรถนะการทำงานจากการใช้แรงงานในการควบคุมเครื่องจักร สามารถลดการใช้แรงงานคนได้กว่าร้อยละ 60
  • ส่งเสริมด้านคุณภาพของขวดที่ดีขึ้น โดยมีความสามารถในการตรวจจับสิ่งแปลกปลอมทั้งชิ้นใหญ่และชิ้นเล็กด้วยระบบ Vision Inspector (VI) ซึ่งเป็นการติดตั้งเซนเซอร์ตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมด้วยการถ่ายภาพ และประมวลผลส่งสัญญาณเพื่อให้เครื่องจักรแยกขวดที่ไม่ได้คุณภาพออกจากกระบวนการ ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นทางด้านคุณภาพของขวดที่มีการนำมาใช้งานในกระบวนการผลิต
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแขนกล ที่สามารถหยิบกล่อง ลงจากพาเลต หยิบขวดออกจากสายพาน นำมาลงลัง เพื่อเตรียมการใช้งานได้ และยังสามารถเรียงลังบนพาเลตได้ ซึ่งโครงการนี้ได้รับรางวัล The Winner และรางวัล Spark Inspirations จากโครงการ WOW Awards 2018 เวทีค้นหาสุดยอดผลงานและไอเดียสร้างสรรค์จากพนักงานในกลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จากผลงานเข้าร่วมประกวด ทั้งสิ้น 84 โครงการ ซึ่งรางวัลดังกล่าว เป็นรางวัลที่แสดงถึงผลงานที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพจากการใช้งาน และสามารถสร้างทรัพย์สินทางปัญญาให้กับองค์กร พร้อมทั้งเพิ่มคุณภาพชีวิตในการทำงานให้ดีขึ้น และเป็นการพัฒนาศักยภาพการทำงานของพนักงานให้มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรจนสามารถยกระดับจากพนักงาน ที่ใช้แรงงานเป็นพนักงานที่ใช้ทักษะในการทำงานได้
ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากน้ำนมข้าว
“น้ำนมข้าว” ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมจากแหล่งกำเนิดที่ดีทั่วประเทศไทย ได้แก่
  • ข้าวกล้องหอมมะลิ จากแหล่งเพาะปลูกจังหวัดร้อยเอ็ด หนึ่งในพื้นที่เขต “ทุ่งกุลาร้องไห้” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการส่งเสริมให้ทำ การผลิตข้าวหอมมะลิมาตรฐานเพื่อการส่งออกของกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยผลิตผลข้าวหอมมะลิจากแหล่งเพาะปลูกดังกล่าว จะให้ความหอมมากกว่าข้าวหอมมะลิจากแหล่งอื่นๆ เนื่องจาก มีสภาพภูมิประเทศ สภาพอากาศ และอาหารในดินที่ส่งผล ต่อการหลั่งสารหอม (2AP)
  • ข้าวหอมมะลิตราจันกะผัก เป็นพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 ผลิตผลจากโครงการศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ มูลนิธิชัยพัฒนา ที่มีการควบคุมคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าวและขั้นตอนการผลิตที่ประณีต ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมแปลงนาจนถึงการเก็บเกี่ยว โดยการปลูกด้วยวิธีปักดำเท่านั้น และต้องเก็บเกี่ยวด้วยมือหรือรถเกี่ยวข้าวที่สะอาด เพื่อป้องกันการปน ของข้าวพันธุ์อื่นหรือข้าวเมล็ดแดง
น้ำนมข้าวให้พลังงานและโปรตีน ซึ่งน้ำนมข้าวสามารถย่อยและ ดูดซึมได้ง่าย ทั้งยังไม่มีคอเลสเตอรอล เพราะไม่มีส่วนประกอบของไขมันสัตว์ แต่มีส่วนประกอบของไขมันพืช ซึ่งเป็นไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อสุขภาพ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
ทิศทางการดำเนินงาน
ผลจากการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไทยเบฟได้ดำเนินการ จดลิขสิทธิ์ทางปัญญากับกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้เกิด ความคิดสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน และสามารถนำความคิดนั้นมาพัฒนา ต่อยอด และนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไทยเบฟได้ยื่นจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา จนถึงปัจจุบันมีจำนวน
130
รายการ

รายงาน
การพัฒนาที่ยั่งยืน 2561