ไทยเบฟน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร มาใช้เป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อพัฒนาความยั่งยืน พร้อมทั้งยึดถือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ขององค์การสหประชาชาติ มาประกอบการกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนา เพื่อผลักดันให้องค์กรดำเนินงาน
อย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
การดำเนินธุรกิจควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยคำนึงถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 ประการ
ความพอประมาณ
- อยู่ในวิถีและศักยภาพ
- หลีกเลี่ยงความสุดโต่ง
- มีวินัยทางการเงิน
ความมีเหตุผล
- ประเมินเหตุและผลของทุก การกระทำที่มีต่อผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียทุกฝ่าย
- สร้างคุณค่าที่แท้จริง
การมีภูมิคุ้มกันที่ดี
- การบริหารจัดการความเสี่ยง
- เตรียมพร้อมเพื่อรับผลกระทบ หรือความเปลี่ยนแปลงในอนาคต
โดยปัจจัย 3 ประการนี้จะเกิดขึ้นได้ จะต้องอาศัยความรู้และคุณธรรมเป็นเงื่อนไขพื้นฐาน
ความรู้
|
คุณธรรม
|
กรอบแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบไปด้วยคุณลักษณะ 3 ประการ คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดี หากดำเนินตามหลัก 3 ประการ ควบคู่
ไปกับการสร้างความรู้และคุณธรรม ไทยเบฟจะสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ พร้อมทั้งนำพาองค์กรไปสู่ความก้าวหน้าอย่างสมดุลใน 4 มิติ คือ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม ขณะเดียวกันภายใต้กลยุทธ์การพัฒนาความยั่งยืนขององค์กร ไทยเบฟเชื่อมั่นว่า จะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนและสร้างโอกาสที่ไร้ขีดจำกัดให้แก่ธุรกิจและสังคมโดยรวมได้ต่อไป
หลักการทั้งสองมุ่งเน้นการใช้ความรู้ ประสบการณ์ และความคิดในการสร้างความเจริญก้าวหน้าที่มั่นคง ส่งเสริมการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล นอกจากนี้ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ 2020 ของไทยเบฟ โดยมีจุดมุ่งหมายก้าวสู่การเป็น “ผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มในภูมิภาคอาเซียนอย่างมั่นคงและยั่งยืน” และมุ่งเน้นไปที่การมีส่วนร่วมและการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ยั่งยืนไปพร้อมกับ การเติบโตขององค์กร
หลักการทั้งสองมุ่งเน้นการใช้ความรู้ ประสบการณ์ และความคิดในการสร้างความเจริญก้าวหน้าที่มั่นคง ส่งเสริมการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล นอกจากนี้ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ 2020 ของไทยเบฟ โดยมีจุดมุ่งหมายก้าวสู่การเป็น “ผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มในภูมิภาคอาเซียนอย่างมั่นคงและยั่งยืน” และมุ่งเน้นไปที่การมีส่วนร่วมและการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ยั่งยืนไปพร้อมกับ การเติบโตขององค์กร
โครงสร้างการพัฒนาความยั่งยืนของไทยเบฟ

การบริหารจัดการด้านความยั่งยืน
คณะกรรมการพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจของบริษัทไทยเบฟ รับผิดชอบในการพิจารณา วางแผนกำหนดนโยบาย และดำเนินการด้านการพัฒนาความยั่งยืนให้สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานกลยุทธ์ขององค์กรที่กำหนดโดยคณะกรรมการบริษัทหรือคณะกรรมการบริหาร และมี คณะทำงานพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจ (Sustainability Development Working Team) เป็นผู้ให้การสนับสนุนคณะกรรมการพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจ
ซึ่งคณะทำงานพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจ ประกอบด้วยตัวแทน จากสายงานต่างๆ มีหน้าที่สนับสนุนในการกำหนดดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย กำหนดแผนงานสนับสนุน ติดตามการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน สื่อสารกับคณะกรรมการพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจ รวมถึงมีส่วนร่วมในขั้นตอนกระบวนการประเมินสาระสำคัญด้านความยั่งยืนของบริษัท โดยที่ คณะทำงานพัฒนาความอย่างยั่งยืนทางธุรกิจทำหน้าที่ดำเนินการ ทวนสอบความครบถ้วนของประเด็นสำคัญต่อความยั่งยืนขององค์กร วิเคราะห์และนำเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจ เพื่อพิจารณาเห็นชอบ จากนั้นนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหาร เพื่อพิจารณายืนยันและอนุมัติประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน
ไทยเบฟได้เข้าร่วมการประเมินความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) หรือดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกในกลุ่ม DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 (2560 และ 2561) โดยในปีนี้ไทยเบฟสามารถทำคะแนนขึ้นมาเป็นที่ 1 ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของโลก และได้รับการประเมินให้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม อีกทั้งยังเป็นบริษัทแรกในเอเชียที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในรอบ 11 ปี โดยเป็น 1 ใน 60 บริษัทจาก 24 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับการจัดอันดับเป็น Industry Leader นอกจากนั้นยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกกลุ่ม DJSI Emerging Markets หรือกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ซึ่งคัดกรองผู้ที่มีผลงานด้าน ความยั่งยืนสูงที่สุดร้อยละ 10 ในแต่ละอุตสาหกรรม ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 (2559-2561) ผลความสำเร็จนี้มาจากความพยายามอย่างต่อเนื่องของไทยเบฟที่จะดำเนินธุรกิจบนแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของไทยเบฟมีการพัฒนา อย่างก้าวกระโดด จนได้รับรางวัล Industry Mover 2 ปีซ้อนใน The Sustainability Yearbook ประจำปี 2560 และ 2561 ของ RobecoSAM
คณะกรรมการพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจของบริษัทไทยเบฟ รับผิดชอบในการพิจารณา วางแผนกำหนดนโยบาย และดำเนินการด้านการพัฒนาความยั่งยืนให้สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานกลยุทธ์ขององค์กรที่กำหนดโดยคณะกรรมการบริษัทหรือคณะกรรมการบริหาร และมี คณะทำงานพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจ (Sustainability Development Working Team) เป็นผู้ให้การสนับสนุนคณะกรรมการพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจ
ซึ่งคณะทำงานพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจ ประกอบด้วยตัวแทน จากสายงานต่างๆ มีหน้าที่สนับสนุนในการกำหนดดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย กำหนดแผนงานสนับสนุน ติดตามการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน สื่อสารกับคณะกรรมการพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจ รวมถึงมีส่วนร่วมในขั้นตอนกระบวนการประเมินสาระสำคัญด้านความยั่งยืนของบริษัท โดยที่ คณะทำงานพัฒนาความอย่างยั่งยืนทางธุรกิจทำหน้าที่ดำเนินการ ทวนสอบความครบถ้วนของประเด็นสำคัญต่อความยั่งยืนขององค์กร วิเคราะห์และนำเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจ เพื่อพิจารณาเห็นชอบ จากนั้นนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหาร เพื่อพิจารณายืนยันและอนุมัติประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน
ไทยเบฟได้เข้าร่วมการประเมินความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) หรือดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกในกลุ่ม DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 (2560 และ 2561) โดยในปีนี้ไทยเบฟสามารถทำคะแนนขึ้นมาเป็นที่ 1 ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของโลก และได้รับการประเมินให้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม อีกทั้งยังเป็นบริษัทแรกในเอเชียที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในรอบ 11 ปี โดยเป็น 1 ใน 60 บริษัทจาก 24 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับการจัดอันดับเป็น Industry Leader นอกจากนั้นยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกกลุ่ม DJSI Emerging Markets หรือกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ซึ่งคัดกรองผู้ที่มีผลงานด้าน ความยั่งยืนสูงที่สุดร้อยละ 10 ในแต่ละอุตสาหกรรม ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 (2559-2561) ผลความสำเร็จนี้มาจากความพยายามอย่างต่อเนื่องของไทยเบฟที่จะดำเนินธุรกิจบนแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของไทยเบฟมีการพัฒนา อย่างก้าวกระโดด จนได้รับรางวัล Industry Mover 2 ปีซ้อนใน The Sustainability Yearbook ประจำปี 2560 และ 2561 ของ RobecoSAM
การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ไทยเบฟได้กำหนดแนวทางการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยมุ่งเน้นส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
ผ่านกิจกรรมและช่องทางการสื่อสารต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับฟังความต้องการ ความคิดเห็น ข้อกังวล และข้อเสนอแนะต่างๆ โดยที่ความถี่
ของการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละกลุ่มแตกต่างกันไปตามแผนการดำเนินงานของไทยเบฟ ข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดกลยุทธ์ ทิศทาง แผนการดำเนินงาน และแนวทางในการพัฒนาธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน รวมถึงป้องกันความเสี่ยงหรือผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจ
พนักงาน
แนวทางการมีส่วนร่วม
- ข้อความทาง SMS
- แอปพลิเคชันไลน์ (Line Application): Line @ “We are Thaibev Group”
- เฟซบุ๊ก แฟนเพจ (Facebook Fanpage)
- อินทราเน็ต (Intranet)
- การประชุมประจำปี เช่น การประชุมผู้บริหารประจำปี การประชุมคณะกรรมการลูกจ้าง การประชุมคณะกรรมการสวัสดิการ การประชุมคณะกรรมการความปลอดภัย การประชุมสหภาพแรงงานและการประชุมของหน่วยงาน
- กล่องรับความคิดเห็น
- การเดินสายพบปะพนักงาน เช่น Core Values Roadshow และวิสัยทัศน์ 2020 Roadshow
- การสำรวจประเด็นด้านความยั่งยืนประจำปี
- การสำรวจความพึงพอใจและการมีส่วนร่วม ของพนักงาน
- Beverest Connect application
- Jam application ช่องทางการสื่อสารระหว่างพนักงานในเครือไทยเบฟโดยเฉพาะ
- ความปลอดภัยในการทำงาน
- การอำนวยความสะดวกเรื่องสถานที่ทำงาน
- สวัสดิการพนักงาน
- การจัดทำโครงการที่เป็นประโยชน์ ให้แก่สังคม
- การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ
- การพัฒนาทักษะให้แก่พนักงาน
- ข่าวสารเกี่ยวกับองค์กร
- กิจกรรมที่องค์กรและผู้บริหาร ได้มีส่วนร่วม
- ความสำเร็จ/รางวัล ที่องค์กรได้รับ
- กิจกรรมภายในองค์กร
- รับสมัครอาสาสมัครในงาน และโครงการต่างๆ
- โอกาสไร้ขีดจำกัด
- การส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค
- ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อม ในการทำงาน
- ความยั่งยืนด้านสังคม
คู่ค้า
แนวทางการมีส่วนร่วม
- การจัดประชุมร่วมกับคู่ค้า
- การสำรวจประเด็นด้านความยั่งยืนประจำปี
- กิจกรรมพบปะคู่ค้าประจำปี (Business Partner Conference)
- การมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณคู่ค้า (Supplier Award Program)
- วิสัยทัศน์ของผู้บริหารและแนวทาง การดำเนินธุรกิจ
- แนวทางปฏิบัติสำหรับคู่ค้า (Supplier Code of Practice)
- การรักษามาตรฐานด้านคุณภาพ การส่งมอบ การบริการ และความยั่งยืน ในการดำเนินธุรกิจของคู่ค้า
- การร่วมมือกันระหว่างบริษัท คู่ค้า และคู่ค้าของคู่ค้าในการบริหารจัดการความเสี่ยงตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน
- การพัฒนาศักยภาพของคู่ค้า
- นวัตกรรมและการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
- การกำกับดูแล การบริหารความเสี่ยงและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
- การจัดหาอย่างยั่งยืน
- บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก
- นวัตกรรม
- พลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ลูกค้า
แนวทางการมีส่วนร่วม
- งานนิทรรศการและสัมมนาประจำปี (ThaiBev EXPO 2018)
- การประชุมลูกค้าประจำปี
- การจัดอบรมและให้ความรู้ลูกค้า
- กิจกรรมพัฒนาธุรกิจผ่านการแบ่งปันความรู้และความคิดเห็นระหว่างไทยเบฟและลูกค้า
- กิจกรรม Business Review ประจำปี
- การเยี่ยมชมโรงงานประจำปี
- โครงการ Agent Next Gen
- การสำรวจประเด็นด้านความยั่งยืนประจำปี
- ความปลอดภัยในการบริโภคผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภค
- ความชัดเจนของนโยบายในการดำเนินธุรกิจ
- ความโปร่งใสในการประกอบธุรกิจ
- การรับผิดชอบต่อการบริโภคของผู้บริโภค
- การมีส่วนร่วมในการวางแผนการดำเนินงาน
- การอบรมเพื่อเพิ่มความรู้และทักษะ ในการทำงานของบุคลากร
- การสร้างความร่วมมือและเครือข่าย เพื่อสร้างคุณค่าสู่สังคม
- การประกอบการค้าที่ยืดหยุ่นและตรงตามความต้องการของสภาวะตลาด
- การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า
- การส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค
- การกำกับดูแล การบริหารความเสี่ยงและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
- โอกาสไร้ขีดจำกัด
ผู้บริโภค
แนวทางการมีส่วนร่วม
- กิจกรรมนอกสถานที่และกิจกรรมส่งเสริม การตลาดในช่องทางการขาย
- ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ เช่น facebook fanpage, website, application line
- การสำรวจประเด็นด้านความยั่งยืนประจำปี
- การสำรวจพฤติกรรม และความคิดเห็น ต่อผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภค
- คุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า
- ราคาสินค้าที่เป็นธรรมและเหมาะสม
- การให้บริการและนำเสนอสินค้า อย่างมีความรับผิดชอบ
- ความรับผิดชอบต่อการจัดการสิ่งแวดล้อม
- ความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ
- การจัดทำโครงการที่เป็นประโยชน์ ให้แก่สังคม
- การส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค
- การพิทักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำ
- การจัดการของเสีย
- พลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- การกำกับดูแลความเสี่ยง และการปฏิบัติ ตามกฎระเบียบ
นักลงทุน
แนวทางการมีส่วนร่วม
- การประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี
- การประชุมประจำไตรมาส
- การเข้าเยี่ยมชมโรงงานประจำปี
- การเดินสายพบปะนักลงทุน (Investors Roadshow)
- การสำรวจประเด็นด้านความยั่งยืนประจำปี
- ความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล
- ผลประกอบการของบริษัท
- การให้ข้อมูลด้านธุรกิจของไทยเบฟ และรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องแก่ผู้ถือหุ้น และนักลงทุน
- การบริหารและพัฒนาตราสินค้า
- การกำกับดูแล การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
ชุมชน
แนวทางการมีส่วนร่วม
- กิจกรรมร่วมกับชุมชนรอบพื้นที่ปฏิบัติงาน
- การสัมภาษณ์ตัวแทนจากชุมชน
- ลงพื้นที่และประชุมร่วมกับชุมชน ติดตาม ความคืบหน้าโครงการที่ร่วมมือกันดำเนินการ
- การประชุมร่วมกับตัวแทนชุมชนรายเดือน และรายไตรมาส
- การสำรวจความคิดเห็นโดยใช้แบบสอบถาม
- การสำรวจประเด็นด้านความยั่งยืนประจำปี
- การสร้างงานหรือส่งเสริมอาชีพ ให้แก่ชุมชน
- การส่งเสริมด้านสาธารณสุขและสุขภาพ ให้กับชุมชน
- การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
- การพัฒนาทักษะด้านกีฬา ดนตรี และศิลปะ
- การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม การจัดการและฟื้นฟูแหล่งน้ำ
- การประเมินผลกระทบที่มีต่อชุมชน
- การส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม และดูแล เรื่องสภาพแวดล้อมในชุมชน
- การส่งเสริมการศึกษาให้กับชุมชน
- การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
- ความปลอดภัยในวัด โรงเรียน และชุมชน
- สิทธิมนุษยชน ครอบคลุมไปถึง สิทธิแรงงานและสิทธิผู้บริโภค
- การพัฒนาชุมชนและสังคม
- โครงการประชารัฐรักสามัคคี
- การพัฒนาการศึกษา
- การพัฒนาด้านสาธารณสุข
- การพัฒนาด้านกีฬา
- การส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม
- การพิทักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำ
หน่วยงาน ภาครัฐ
แนวทางการมีส่วนร่วม
- การเข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นและการนำเสนอความคิดเห็นต่อการบังคับใช้กฎหมาย ที่จัดโดยหน่วยงานภาครัฐ
- การเข้ารับการอบรมในหลักสูตรด้านต่างๆ ที่จัดโดยหน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานอื่น ที่รัฐให้การรับรอง
- การสำรวจประเด็นความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
- การมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อร่างกฎหมายฉบับต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
- การบริหารและจัดการด้านภาษี อย่างโปร่งใส
- การดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยด้านแรงงาน
- การดูแลด้านสิทธิมนุษยชนและการใช้แรงงานอย่างถูกกฎหมาย
- การดูแลให้การโฆษณาและการขายสินค้าเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- การบริหารจัดการด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม
- การกำกับดูแล การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
- การส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค
- ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อม ในการทำงาน
- โอกาสไร้ขีดจำกัด
- การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า
- การพิทักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำ
องค์กรพัฒนาเอกชน (NGO)
แนวทางการมีส่วนร่วม
- การสำรวจประเด็นด้านความยั่งยืนประจำปี
- สุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค
- การดำเนินธุรกิจตามกฎหมาย
- ความรับผิดชอบต่อสังคม
- การส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค
- การกำกับดูแล การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
ความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ในปี 2561 บริษัทไทยเบฟทำการสำรวจประเด็นด้านความยั่งยืนประจำปี
กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้ง 8 กลุ่ม โดยให้ผู้เชี่ยวชาญภายนอกดำเนินการสัมภาษณ์
และส่งแบบสอบถามให้กับกลุ่มตัวอย่างของกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม
ซึ่งผลที่ได้จากการสำรวจ Stakeholder engagement survey นี้ ได้นำมาใช้
ในกระบวนการประเมินสาระสำคัญด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กร
บทสัมภาษณ์จากผู้ทรงคุณวุฒิด้านความยั่งยืน

หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์
“การที่บริษัทจะคืนอะไรสักอย่างกลับสู่สังคม ควรจะทำในลักษณะที่สอดคล้องกับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่บริษัทมีอยู่แล้ว เช่น หากบริษัททำกิจการด้านการเกษตร
ก็ควรจะใช้บุคลากร ใช้ห้องทดลองที่จะช่วยในการพัฒนาคุณภาพผักและผลไม้ของเกษตรกร ลดสารเคมีตกค้างในดิน ให้ความรู้เรื่องการทำเกษตรผสมผสาน ให้คำแนะนำด้านเทคนิคและความรู้ใหม่ๆ ที่จะพัฒนาคุณภาพและผลผลิตของเกษตรกรให้ดีขึ้นกว่าเก่า ส่งผลให้เกิดรายได้ที่มากขึ้นและทำให้ชุมชนเกิดความยั่งยืน หากธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องดื่มต่างๆ ก็อาจจะเอาความรู้ของตนไปช่วยในการพัฒนาแหล่งน้ำให้สะอาด ให้ดีขึ้น เพื่อจะนำต้นทุนน้ำเหล่านั้นมาผลิตเป็นเครื่องดื่มที่มีคุณภาพมากกว่าเก่า และ
ส่งเสริมให้ทรัพยากรธรรมชาติดีขึ้นกว่าเดิม และให้ชุมชนมีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นด้วย
ไทยเบฟในฐานะบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ จึงมีบทบาทสำคัญมาโดยตลอด และยังเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน อันจะเห็นได้จากรางวัลอันดับ 1 ของโลกในหมวดธุรกิจประเภทเครื่องดื่มจาก Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) มายืนยันอีกด้วย แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันยาวไกลของผู้บริหาร และความมุ่งมั่นทุ่มเทของพนักงาน โดยผมก็หวังว่าไทยเบฟ จะสามารถช่วยขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงในสังคมและช่วยผลักดันให้บริษัทอื่นๆ มีความรับผิดชอบ และหันมาใส่ใจกับเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้นด้วย”
ไทยเบฟในฐานะบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ จึงมีบทบาทสำคัญมาโดยตลอด และยังเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน อันจะเห็นได้จากรางวัลอันดับ 1 ของโลกในหมวดธุรกิจประเภทเครื่องดื่มจาก Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) มายืนยันอีกด้วย แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันยาวไกลของผู้บริหาร และความมุ่งมั่นทุ่มเทของพนักงาน โดยผมก็หวังว่าไทยเบฟ จะสามารถช่วยขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงในสังคมและช่วยผลักดันให้บริษัทอื่นๆ มีความรับผิดชอบ และหันมาใส่ใจกับเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้นด้วย”

Brendan Edgerton
Director, Circular Economy
World Business Council for Sustainable Development (WBCSD)
“สภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (WBCSD) เป็นศูนย์กลางในการรวมตัวขององค์กรธุรกิจชั้นนำเพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และร่วมมือกันสร้างสรรค์โลกที่ยั่งยืนให้มีทรัพยากรเพียงพอสำหรับประชากร 9 พันล้านคน ความร่วมมือที่เข้มแข็งมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ในการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ไปผสมผสานในห่วงโซ่คุณค่าขององค์กร ซึ่งปัจจุบันเป็นเทรนด์ระดับโลกในด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
ดังนั้น สภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (WBCSD) จึงสนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและองค์กรระดับสากล เช่น เครือข่ายอุตสาหกรรมระดับโลก The Consumer Goods Forum (CGF) และสมาชิกของเครือข่าย ร่วมกันผลักดันให้ทั่วโลกขจัดขยะพลาสติก และเพื่อเป็นการสนับสนุนให้ไทยเบฟนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน มาประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่คุณค่า เราขอแนะนำให้มุ่งเน้นการพัฒนาใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ประเด็นด้านการใช้น้ำและการฟื้นฟูแหล่งน้ำ (Water Consumption and Water Regeneration) ประเด็นด้านเศรษฐกิจฐานชีวภาพ (Bio-Economy) โดยใช้ผลิตผลจากการเกษตรและเศษที่เหลือให้เกิดประโยชน์สูงสุด และประเด็นด้านบรรจุภัณฑ์ (Packaging) ตั้งแต่การออกแบบตลอดไปจนถึงการจัดการหลังการบริโภค โดยสิ่งเหล่านี้ จะเปิดโอกาสให้ไทยเบฟสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในด้าน การพัฒนาอย่างยั่งยืน”
ดังนั้น สภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (WBCSD) จึงสนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและองค์กรระดับสากล เช่น เครือข่ายอุตสาหกรรมระดับโลก The Consumer Goods Forum (CGF) และสมาชิกของเครือข่าย ร่วมกันผลักดันให้ทั่วโลกขจัดขยะพลาสติก และเพื่อเป็นการสนับสนุนให้ไทยเบฟนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน มาประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่คุณค่า เราขอแนะนำให้มุ่งเน้นการพัฒนาใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ประเด็นด้านการใช้น้ำและการฟื้นฟูแหล่งน้ำ (Water Consumption and Water Regeneration) ประเด็นด้านเศรษฐกิจฐานชีวภาพ (Bio-Economy) โดยใช้ผลิตผลจากการเกษตรและเศษที่เหลือให้เกิดประโยชน์สูงสุด และประเด็นด้านบรรจุภัณฑ์ (Packaging) ตั้งแต่การออกแบบตลอดไปจนถึงการจัดการหลังการบริโภค โดยสิ่งเหล่านี้ จะเปิดโอกาสให้ไทยเบฟสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในด้าน การพัฒนาอย่างยั่งยืน”

Ani Kavookjian
Sustainable Business and Finance, Bloomberg L.P.
“คณะกรรมการจัดการบริษัทจำเป็นที่จะต้องมีความเข้าใจในประเด็นด้าน
สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง การปรับตัวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ รวมไปถึงความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ คณะกรรมการจัดการจะต้องมีการบริหารจัดการ
เพื่อให้องค์กรสามารถอยู่รอดและเติบโตในสภาพภูมิอากาศ (Climate scenarios)
หลายรูปแบบ นอกจากนี้ ไทยเบฟควรให้ความสำคัญกับการนำเสนอข้อมูล
ของประเด็นด้านความยั่งยืนในรูปแบบ และหน่วยที่นักลงทุนสามารถเข้าใจ
และนำไปเปรียบเทียบได้
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าบริษัทแสดงการสนับสนุน TCFD (Task Force on Climate-related Financial Disclosure ) ไทยเบฟจะสามารถดึงดูดนักลงทุนที่สนใจ ซึ่งให้ ความสำคัญกับเป้าหมายระยะยาวได้ ปัจจุบันนักลงทุนให้ความสนใจบริษัทใน ตลาดเกิดใหม่/ตลาดกำลังพัฒนา (Emerging Markets) มากขึ้นเรื่อยๆ”
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าบริษัทแสดงการสนับสนุน TCFD (Task Force on Climate-related Financial Disclosure ) ไทยเบฟจะสามารถดึงดูดนักลงทุนที่สนใจ ซึ่งให้ ความสำคัญกับเป้าหมายระยะยาวได้ ปัจจุบันนักลงทุนให้ความสนใจบริษัทใน ตลาดเกิดใหม่/ตลาดกำลังพัฒนา (Emerging Markets) มากขึ้นเรื่อยๆ”
กระบวนการประเมินสาระสำคัญด้านความยั่งยืน
ในปี 2561 ไทยเบฟได้การประเมินสาระสำคัญด้านความยั่งยืน โดยเปรียบเทียบกับ
บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน และพิจารณาจากข้อมูลทิศทางการเปลี่ยนแปลง
ของประเด็นด้านความยั่งยืนของโลก และผลจากการสำรวจพบว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงประเด็นสำคัญจากปี 2560
1. การกำหนดประเด็น
ไทยเบฟคัดเลือกประเด็นด้านความยั่งยืนที่มีความสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ
โดยผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญจากสายงานธุรกิจทุกสายงาน ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ
จากหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนจากภายนอก ในบริบทที่เกี่ยวกับความยั่งยืนของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
โดยศึกษาแนวโน้มและทิศทางการเปลี่ยนแปลงของโลก ประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ตลอดจนสำรวจความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มถึงประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนขององค์กรในปีนี้อีกด้วย
2.การจัดลำดับความสำคัญ
ไทยเบฟนำประเด็นที่ได้จากขั้นตอนการกำหนดประเด็นมาจัดลำดับความสำคัญ
โดยพิจารณาจากผลกระทบที่มีต่อการดำเนินธุรกิจของไทยเบฟ ความคิดเห็น
ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มในด้านความสำคัญและความสนใจที่มีต่อผลกระทบ
ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อกลั่นกรองประเด็นที่มีนัยสำคัญต่อความยั่งยืนขององค์กร
โดยประเด็นที่ถูกจัดลำดับว่าสำคัญมาก โดยทั้งไทยเบฟและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
จะถูกกำหนดเป็นประเด็นที่มีความสำคัญสูงที่สุด
3. การทวนสอบ
คณะทำงานเพื่อความยั่งยืนทางธุรกิจของบริษัทดำเนินการทวนสอบความครบถ้วน
ของประเด็นสำคัญต่อความยั่งยืนขององค์กร และนำเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนา
ความยั่งยืนทางธุรกิจเพื่อพิจารณาเห็นชอบ จากนั้นนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหาร
เพื่อพิจารณายืนยันและอนุมัติประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน
4. การกำหนดขอบเขตการรายงาน
ไทยเบฟกำหนดขอบเขตการรายงานประเด็นสำคัญทั้ง 17 ประเด็น โดยรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ และกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีความเกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าวมากที่สุด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมและครบถ้วน แม่นยำ ตอบโจทย์ทุกประเด็น
ที่เป็นความสนใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของไทยเบฟ
5. การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง
โดยนำมุมมองของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีต่อประเด็นสำคัญ รวมถึงข้อเสนอแนะ
มาใช้ในการพัฒนาแนวปฏิบัติให้สอดคล้องกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน
ที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อไป
สาระสำคัญด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยเบฟ
ด้านเศรษฐกิจ
- นวัตกรรม
- การบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์
- การบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ
- การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน
- การกำกับดูแลองค์กรและ จรรยาบรรณในการดำเนินการ
ด้านสิ่งแวดล้อม
- การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ
- การบริหารจัดการน้ำ และอนุรักษ์แหล่งน้ำ
- การจัดการของเสีย
ด้านสังคม
- การดูแลสุขภาพและความปลอดภัย ของผู้บริโภค
- ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี
- สิทธิมนุษยชน
- การเป็นองค์กรที่ดีของสังคม
- ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่า ทางโภชนาการ
- การพัฒนาบุคลากร และสร้างแรงจูงใจ และรักษาพนักงานที่มีความสามารถ
- การสร้างความร่วมมือและเครือข่าย เพื่อสร้างคุณค่าสู่สังคม
- การบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์
- ฉลากผลิตภัณฑ์และการตลาด
ตารางแผนภูมิความเสี่ยงของไทยเบฟ
ทั้งนี้คณะทำงานพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการประชุมเชิงปฏิบัติการ
กับผู้บริหาร เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจของไทยเบฟให้พิจารณาอนุมัติ ผลจากการดำเนินการ
ทำให้ไทยเบฟได้คัดเลือก 17 ประเด็นที่เป็นสาระสำคัญของไทยเบฟ
สรุปประเด็นสำคัญในการรายงาน