หน้าแรก / การพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยเบฟ
การส่งเสริมความผาสุกของพนักงาน
พนักงานคือกำลังสำคัญที่เป็นแรงผลักดันความสำเร็จขององค์กร การบริหารจัดการพนักงานที่ดี การจัดสวัสดิการและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลประกอบการ รวมทั้งยังช่วยส่งเสริมชื่อเสียง และเสริมสร้างขวัญกำลังใจภายในองค์กรอีกด้วย

ไทยเบฟตระหนักดีว่าความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็น สิทธิขั้นพื้นฐาน จึงได้จัดทำแนวทางและวางระบบการจัดการเพื่อให้มั่นใจว่าเราได้ปฏิบัติ ตามมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน อันรวมถึงมาตรการป้องกันความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ การบาดเจ็บและการเจ็บป่วย จากการปฏิบัติงาน ตลอดจนการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ส่งเสริม สุขภาวะทางกายและใจของพนักงาน
แนวทางการบริหารจัดการ
“นโยบายอาชีวอนามัยและความปลอดภัยขององค์กร” ที่ได้รับ อนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท เป็นแนวทางด้านสภาพแวดล้อม การทำงานที่ถูกสุขลักษณะและปลอดภัย เป็นแนวทางการปฏิบัติ สำหรับกรรมการ พนักงาน และทุกคน ในสถานที่ทำงานของ ไทยเบฟ นโยบายและคำชี้แจงฉบับเต็มเปิดเผยต่อสาธารณะ บนเว็บไซต์ของเราที่ our website

ทีมงานโครงข่ายอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ซึ่งนำโดย ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานทรัพยากรบุคคล และสมรรถนะองค์กร คือกลุ่มผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ ในระดับปฏิบัติการจากทุกหน่วยธุรกิจของไทยเบฟ เป็นทีมที่ รับผิดชอบในการกำกับดูแลและสร้างมาตรฐานกระบวนการและ กิจกรรมการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของบริษัท ซึ่งรวมถึงบ่งชี้และวิเคราะห์ถึงอันตรายที่เกี่ยวข้องกับงาน ตลอดจนจัดการประชุมเพื่อหารือและตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพ ความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของพนักงาน นอกจากนี้ ทีมงานโครงข่ายยังให้คำปรึกษาและให้พนักงานมีส่วนร่วม ในการพัฒนา การปฏิบัติ และประเมินกระบวนการจัดการ อาชีวอนามัยและความปลอดภัย

นอกเหนือจากการสร้างความมั่นใจว่าพนักงานทุกคนทำงาน ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพตามกฎหมาย และมาตรฐานสากลแล้ว ทีมงานโครงข่ายอาชีวอนามัยและ ความปลอดภัยยังสนับสนุนการแบ่งปันความรู้ แนวปฏิบัติ และความเชี่ยวชาญเพื่อนำไปปรับปรุงการปฏิบัติด้านความ ปลอดภัยและอาชีวอนามัยของบริษัท โดยเป้าหมายระยะยาว คือ การสร้างสถานที่ทำงานที่ดีต่อสุขภาพอย่างยั่งยืน
กระบวนการบริหารจัดการ
ไทยเบฟมีเป้าหมายในการควบคุมจัดการและขจัดอันตราย รวมถึง ลดความเสี่ยงในงานประจำวันและงานที่ไม่ใช่งานประจำ จึงจัดให้มี การบ่งชี้อันตรายและการประเมินความเสี่ยงปีละหนึ่งครั้งสำหรับ ทุกกิจกรรม ทุกพื้นที่ และทุกการบริการ โดยประเมินความเสี่ยง ตามความรุนแรงและโอกาสที่อาจเกิด ตามขั้นตอนการวิเคราะห์ อันตรายเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน (Job Safety Analysis: JSA) ตามระบบมาตรฐาน ISO 45001:2018

หลังจากตรวจพบความเสี่ยงจะดำเนินการสร้างแผนลดความ เสี่ยงและกำหนดมาตรฐานวิธีการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย (Safety Standard Operation Procedure: SSOP) โดยคำนึงถึง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายตลอดห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ ไทยเบฟคาดหวังให้คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจทุกรายจัดทำ แผนบรรเทาผลกระทบในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อลดความสูญเสีย จากการบาดเจ็บและการเสียชีวิตที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งต้องปฏิบัติตาม กฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

ไทยเบฟกำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานทำงานตามมาตรฐานระบบ การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ISO 45001 และพระราชบัญญัติอาชีวอนามัยและความปลอดภัย พ.ศ. 2554

โครงการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยขององค์กร (Occupational Health and Safety: OHS) มุ่งหวังที่จะจัดให้มี อาชีวอนามัย ความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ที่เหมาะสมสำหรับพนักงานทุกคนที่ทำงานในสถานประกอบการ ของไทยเบฟ โดยมีหลักปฏิบัติดังต่อไปนี้
  • การระบุอันตรายและการประเมินความเสี่ยงต้องกำหนดขอบเขต ระบุขั้นตอนการปฏิบัติงาน ระบุผลกระทบที่สำคัญที่อาจส่งผล ต่อบุคคล ชุมชน สิ่งแวดล้อม และทรัพย์สิน ตลอดจนกำหนด มาตรการควบคุมที่เหมาะสม และจัดลำดับความสำคัญของแผน ปฏิบัติการเพื่อลดความรุนแรงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้
  • แผนการจัดการเหตุฉุกเฉินและภาวะวิกฤต ไทยเบฟบูรณาการ แผนฉุกเฉินและดูแลให้องค์กรเตรียมพร้อมรับมือกับ สถานการณ์ฉุกเฉินและภาวะวิกฤต ตลอดจนป้องกันและลด ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพ และความปลอดภัย ในการทำงาน
  • การตรวจสอบภายในและภายนอก เพื่อประเมินความสำเร็จ ของการดำเนินงานและความคืบหน้าร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่เกี่ยวข้องในการลดความเสี่ยงด้านสุขภาพและความปลอดภัย ตามที่ระบุเอาไว้
  • การตรวจสอบการบาดเจ็บ การเจ็บป่วย โรคหรือเหตุการณ์ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน โดยระบุสาเหตุที่แท้จริงเพื่อนำไปสู่ การปรับปรุงมาตรการควบคุมและป้องกันที่มีประสิทธิภาพต่อไป
  • การแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญภายในองค์กรและผู้ฝึกสอนด้าน ความปลอดภัย เพื่อสนับสนุนโครงการการจัดการความเสี่ยง จากภัยพิบัติในชุมชน (CBDRM) ซึ่งทำให้มั่นใจว่ามีการฝึกอบรม ด้านความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพแก่พนักงานภายในองค์กร ทุกระดับรวมถึงชุมชนโดยรอบ
  • กำหนดมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้างด้วยเกณฑ์อาชีวอนามัยและ ความปลอดภัย เพื่อประเมินความสามารถของคู่ค้าในการปฏิบัติ ตามมาตรฐานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยขององค์กร

เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานทางกฎหมายและมาตรฐานภายในไทยเบฟกำหนดแนวทางการบริหารจัดการ 4 ด้าน ดังนี้

ด้านความปลอดภัย
ไทยเบฟนำระบบการจัดการความปลอดภัยคุณภาพสูงมาใช้ ขณะนี้โรงงาน 27 แห่งได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 45001 โดยฝ่ายดูแลความปลอดภัยขององค์กรยังคงดำเนินการตรวจสอบ ความปลอดภัยในโรงงานทุกแห่งทั้งในและต่างประเทศเป็นระยะ

ไทยเบฟจัดตั้งคลินิกความปลอดภัยร่วมกับทีมอาสาสมัครเพื่อ สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยภายในองค์กร มีช่องทางสื่อสาร เกี่ยวกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัยผ่านระบบการร้องเรียน ทางเอกสาร โทรศัพท์และอีเมล เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถ ร้องเรียนได้ทุกช่องทาง นอกจากนี้ยังสร้างช่องทางการสื่อสาร บนแอปพลิเคชัน LINE ซึ่งพนักงานสามารถรับข้อมูลข่าวสาร ได้อย่างสะดวกรวดเร็วและสามารถโต้ตอบได้ มีการประเมิน ประสิทธิภาพของการสื่อสารโดยให้กลุ่มเป้าหมายของแต่ละ กิจกรรม ทำแบบสอบถามเชิงรุกออนไลน์ เพื่อวัดระดับความเข้าใจ ก่อนและหลังการทำกิจกรรม ซึ่งพนักงานทุกคนให้ความร่วมมือ เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ยังมีการจัดประชุมด้านความปลอดภัยรายเดือน ในแต่ละสถานประกอบการ โดยมีผู้บริหารและพนักงานเข้าร่วมด้วย เพื่อกำหนดกิจกรรมด้านความปลอดภัย รวมถึงการพิจารณา ข้อร้องเรียนหรือข้อเสนอแนะจากพนักงาน คณะกรรมการประชุม จะอภิปรายและกำหนดมาตรการแก้ไขและติดตามการดำเนินการใด ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

ไทยเบฟจัดการฝึกอบรมแบบบูรณาการเพื่อเตรียมความพร้อม รับมือสถานการณ์ฉุกเฉินในกรณีต่าง ๆ เช่น การดับเพลิง การทำงานในที่อับอากาศ การขับรถยก การแผ่รังสี การรั่วไหล แผนฉุกเฉินเพื่อป้องกันน้ำท่วม การจัดการของเสีย การระเบิด ของหม้อไอน้ำ ก๊าซคลอรีนรั่วไหล ก๊าซแอมโมเนียรั่วไหล และน้ำมันรั่วไหล

เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัย ไทยเบฟจัดอบรมภาคบังคับ ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ เช่น ความรู้พื้นฐานด้านความปลอดภัย กฎระเบียบและกฎหมายด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง ความปลอดภัย จากอัคคีภัย ความปลอดภัยทางถนน และการฝึกอบรมมาตรฐาน อาชีวอนามัยและความปลอดภัย ISO 45001 เพื่อรักษามาตรฐาน ด้านความปลอดภัยในระดับสูง ไทยเบฟจัดให้มีการบรรยายสรุป ด้านความปลอดภัยรายวันทุกเช้าวันทำงาน ในโรงงานทุกแห่ง นอกจากนี้ยังมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในทุกหน่วย ธุรกิจเพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ สร้างความมั่นใจในระบบการจัดการ ด้านความปลอดภัย
ด้านอาชีวอนามัย
  • ความใส่ใจ:
    ไทยเบฟดูแลสุขภาพของพนักงานโดยจัดให้มีบริการ ทางการแพทย์และพยาบาลในสถานที่ทำงาน ทีมส่งเสริม ความผาสุกของพนักงานได้ร่วมมือกับคลินิกชื่อดังเพื่อให้บริการ การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ให้พนักงานรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ พนักงานประจำ ทุกคนได้รับความคุ้มครองจากการประกันชีวิต โดยบริษัทจะจ่าย ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดและค่าชดเชยการบาดเจ็บและทุพพลภาพ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานตามความเหมาะสม
  • การป้องกัน:
    ไทยเบฟบังคับใช้มาตรการด้านสุขภาพและ ความปลอดภัยที่เข้มงวด รวมถึงการใช้งานอุปกรณ์ป้องกัน ส่วนบุคคล (PPE) พร้อมคู่มือการปฏิบัติงานในทุกโรงงาน นอกจากนี้บริษัทยังดำเนินการประเมินสุขภาพก่อนการจ้างงาน และตรวจสุขภาพประจำปีอย่างละเอียดถี่ถ้วน พร้อมทั้งการ ติดป้ายสัญญาณเตือนอย่างเด่นชัดในพื้นที่อันตราย
  • การรักษา:
    Tไทยเบฟยังจัดให้มีความคุ้มครองการรักษาพยาบาล ที่ครอบคลุมแก่พนักงาน ซึ่งรวมถึงค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก การประกันอุบัติเหตุ และการประกันการเจ็บป่วยของผู้ป่วยใน
  • ตรวจสุขภาพ:
    ไทยเบฟให้บริการตรวจสุขภาพที่มีคุณภาพและ ราคาเหมาะสมแก่พนักงาน รวมถึงบริการทันตกรรมเคลื่อนที่ และพนักงานสามารถเข้าถึงรายงานการตรวจสุขภาพด้วย แอปพลิเคชัน Beverest Life ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้พนักงานหญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ยังได้รับการตรวจ คัดกรองมะเร็งปากมดลูกฟรี และพนักงานหญิงทุกคนรับการ ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมเคลื่อนที่ ในราคาพิเศษ
  • ด้านการศึกษา:
    ไทยเบฟจัดหาสื่อการศึกษาและฝึกอบรมเกี่ยวกับ การดูแลสุขภาพทั่วไปในรูปแบบออนไลน์ เช่น อาการออฟฟิศซินโดรม และวิธีลดความเครียด อีกทั้งยังมีการฝึกอบรมทักษะการช่วยชีวิต ขั้นพื้นฐานและหลักสูตรการฝึกอบรม AED การปฐมพยาบาล เบื้องต้นสำหรับพนักงานและสมาชิกในครอบครัว
ด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน
เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัย ประสิทธิภาพของพื้นที่สำนักงาน ของไทยเบฟ จึงมีการจัดตั้งทีมตรวจสอบภายในเมื่อปี 2563 เพื่อดำเนินการตรวจสอบครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ ในอาคาร ภายใต้การดูแลของสำนักบริหารจัดการทรัพย์สินและการบริการ (ASM) โดยเน้นตรวจสอบด้านวิศวกรรม ความปลอดภัย และระบบอำนวยความสะดวกในอาคารเป็นหลัก

หน้าที่ความรับผิดชอบที่สำคัญ ได้แก่:
  • การบำรุงรักษาอาคาร:ดูแลโครงการก่อสร้าง ปรับปรุง และบำรุงรักษา
  • การจัดการโครงสร้างพื้นฐาน: ดูแลระบบไอที การจัดการ การใช้พลังงาน และการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
  • ความปลอดภัยและสุขอนามัย:การปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย รวมถึงการจัดการของเสีย
  • การตรวจสอบภายใน:ดำเนินการตรวจสอบเพื่อระบุปัญหาและเสนอแนะการปรับปรุง
ฝ่ายวิศวกรรมกลางและโครงการพิเศษทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้า ระบบประปา เครื่องปรับอากาศ ระบบสุขาภิบาล การป้องกันอัคคีภัย และความเหมาะสมของสภาพแวดล้อม พร้อมทั้งจัดทำรายงาน การตรวจสอบอย่างละเอียดโดยมีภาพถ่ายและคำแนะนำส่งให้กับ ผู้จัดการอาคารเพื่อการบำรุงรักษาและปรับปรุงตามความเหมาะสม
โครงการสนับสนุนความผาสุกของพนักงาน
ชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น ไทยเบฟมีชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น ให้กับพนักงานในตำแหน่งงานต่าง ๆ เช่น ตัวแทนฝ่ายขายซึ่งมี การปฏิบัติงานที่มุ่งเน้นผลลัพธ์เพื่ออำนวยความสะดวกใน การบริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิผล สำหรับพนักงานส่วนอื่น ๆ สามารถใช้นโยบายชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น เมื่อมีการรับรองจาก หัวหน้างาน นอกจากนี้ยังจัดให้มีการทำงานบนแพลตฟอร์ม เสมือนจริงเพื่อรองรับการทำงานจากสถานที่อื่นๆ โดยไม่จำเป็น ต้องทำงานที่สำนักงาน

การทำงานที่บ้าน (Work from Home) การทำงานที่บ้านจะช่วย เพิ่มผลผลิต สร้างขวัญกำลังใจ ความคล่องตัว พร้อมทั้งช่วย ปกป้องสุขภาพพนักงาน ไทยเบฟเสนอทางเลือกในการทำงาน ที่ยืดหยุ่นซึ่งรวมถึงการทำงานนอกสถานที่ โดยมีการสนับสนุน ในการฝึกอบรมพนักงาน จัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือที่จำเป็น รวมถึงการปรับโปรแกรมสุขภาพเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกาย และการจัดการกับความเครียด นอกจากนี้ ยังให้การสนับสนุน พนักงานที่พิการ โดยเสนอสถานที่ทำงานทางเลือกด้วย แพลตฟอร์มดิจิทัล การทำงานจากนอกสถานที่จึงราบรื่น ทั้งในและต่างประเทศ ช่วยเพิ่มศักยภาพให้พนักงานสามารถ ทำงานได้จากทุกที่

ตัวเลือกการทำงานไม่เต็มเวลา ไทยเบฟเสนอทางเลือกในการ จ้างงานไม่เต็มเวลา โดยกำหนดให้พนักงานและหัวหน้างานสามารถ กำหนดตารางเวลาและเงื่อนไขได้ด้วยตนเอง ซึ่งพนักงานทุกคน สามารถขออนุมัติการทำงานไม่เต็มเวลาผ่านระบบบริหารเวลา ในแอปพลิเคชัน Beverest Life ซึ่งเป็นเรื่องปกติในหมู่พนักงาน หน้าร้าน เช่น พนักงานที่ QSA (KFC) และร้านอาหารโออิชิ

นโยบายเกี่ยวกับครอบครัว ไทยเบฟเสนอแนวคิดเพื่อสร้าง สภาพแวดล้อมการทำงานที่สนับสนุนความสัมพันธ์อันดีภายใน ครอบครัว ได้แก่:
  • จัดให้มีสนามเด็กเล่นในโรงงานสำหรับเด็ก ๆ ที่มากับ ผู้ปกครองหรือรอผู้ปกครองทำงาน
  • มีห้องให้นมบุตรส่วนตัวในสำนักงานและโรงงานผลิตทุกแห่ง
  • สถานที่รับเลี้ยงดูแลเด็ก โดยจัดให้มีกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ รวมถึงการเรียนการสอนในช่วงปิดเทอม
  • จัดงานวันเด็กประจำปีโดยนำเด็ก ๆ และผู้ปกครอง มาทำกิจกรรมพิเศษ ทัศนศึกษา และกิจกรรมเพื่อสังคม
ไทยเบฟสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานที่เป็นผู้ดูแลหลัก โดยสามารถลาพักโดยได้รับค่าจ้างสูงสุดถึง 33 สัปดาห์ (รวมลาคลอดสำหรับการดูแลก่อนคลอดและหลังคลอด) และสูงสุด 13 สัปดาห์สำหรับผู้ดูแลที่ไม่ใช่ผู้ดูแลหลัก ในคู่มือ พนักงานยังระบุถึงข้อกำหนดการลาพักเพิ่มเติมเพื่อดูแลสมาชิก ในครอบครัวที่ป่วยหรือเสียชีวิต โดยต้องผ่านการอนุมัติจาก หัวหน้างาน นอกจากนี้ พนักงานยังมีสิทธิ์ลาอื่นๆ เช่น ลาเพื่อทำหมัน การเกณฑ์ทหาร การฝึกอบรมหรือพัฒนาความรู้ การอุปสมบท และลาไม่รับเงินเดือน

ไทยเบฟให้ความสำคัญกับการศึกษาของบุตรพนักงาน โดยมี การมอบทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนทุกระดับการศึกษาจนถึง มหาวิทยาลัย ทั้งนี้ ในปี 2567 ไทยเบฟมอบทุนการศึกษาจำนวน 1,035 ทุน มูลค่า 7 ล้านบาท แก่บุตรพนักงาน เพื่อช่วยแบ่งเบา ภาระทางการเงินของพนักงาน โดยในตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ไทยเบฟมอบทุนการศึกษารวมทั้งสิ้น 15,915 ทุน มูลค่ารวมกว่า 99.9 ล้านบาท

การลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร ชาย หญิง
จำนวนพนักงานที่ได้รับสิทธิ์ลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร 18,277 14,184
จำนวนพนักงานที่ลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร 125 351
จำนวนพนักงานที่กลับมาทำงานในรอบระยะเวลาหลังจากสิ้นสุดการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร 109 291
จำนวนพนักงานที่กลับมาทำงานหลังเวลาลาหยุดเลี้ยงดูบุตรสิ้นสุดลง และยังคงทำงานต่อไปเป็นเวลา 12 เดือน 107 280
อัตราการกลับเข้าทำงานของพนักงานที่ลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร 87.2% 82.9%
โครงการสำคัญ
Beverest Life
Beverest Life เป็นแอปพลิเคชันมือถือที่ใช้งานง่ายและครอบคลุม ช่วยเสริมศักยภาพและประสิทธิภาพในการทำงานและสร้าง ความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพนักงาน โดยตั้งแต่ปี 2563 แอปพลิเคชัน ยังคงพัฒนาให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องโดยนำเสนอบริการและ ข้อมูลที่หลากหลาย
  • แจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ได้รับการแจ้งเตือนทันทีเกี่ยวกับ ข่าวสาร การเตือนภัย และเหตุฉุกเฉิน
  • สิทธิประโยชน์สำหรับพนักงาน: เข้าถึงสิทธิพิเศษต่าง ๆ โปรโมชัน และส่วนลดผลิตภัณฑ์ของบริษัท
  • บริการด้านทรัพยากรบุคคล: ชุดเครื่องมือออนไลน์ที่ช่วยลด ความซับซ้อนของขั้นตอนและเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้พนักงาน โดยพนักงานสามารถดูสลิปเงินเดือน เอกสารภาษี เรียนรู้ หลักสูตรต่าง ๆ ด้วยตนเอง และจัดการกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ ทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ แพลตฟอร์มนี้ ยังรองรับแอปพลิเคชันการสมัครงานภายใน การตรวจสุขภาพ การจัดการเวลา และแบบสำรวจความผูกพันของพนักงาน พร้อมตัวเลือกการลงเวลาเข้างานและออกงานแบบไร้สัมผัส
  • New features:
    • My Booking: ช่วยให้พนักงานกำหนดเวลานัดหมายสำหรับ บริการต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพ หรือกิจกรรมทางสังคม
    • แบบสำรวจข้อมูลที่อยู่อาศัย: ช่วยให้พนักงานสามารถ อัปเดตข้อมูลที่อยู่อาศัยของตนได้ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับ ความช่วยเหลือทันท่วงทีในกรณีฉุกเฉิน
การบรรเทาทุกข์ภัยพิบัติสำหรับพนักงาน
ไทยเบฟมุ่งมั่นดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของ พนักงานในกรณีเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ และ PM2.5 โดยบริษัทฯ ได้จัดทำระบบสนับสนุนที่ครอบคลุมเพื่อ ช่วยเหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบ เช่น มอบชุดบรรเทาทุกข์ ฉุกเฉิน ความช่วยเหลือด้านการเงินสำหรับการซ่อมแซมบ้านและ สิ่งของจำเป็น รับบริจาคจากเพื่อนพนักงาน และเสนอสินเชื่อ ปลอดดอกเบี้ย เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ เมื่อไม่นานนี้ พนักงานกว่า 800 คนได้รับความช่วยเหลือ และพนักงาน 93 คนได้รับประโยชน์จากโครงการสินเชื่อ ปลอดดอกเบี้ย
โครงการเตรียมความพร้อมพนักงานเพื่อชีวิตหลังเกษียณประจำปี 2567
ไทยเบฟจัดโครงการฝึกอบรมประจำปีและพิธีเกษียณอายุเพื่อ แสดงความขอบคุณต่อพนักงานเกษียณอายุที่ทำงานมายาวนาน ในปี 2567 โครงการนี้ครอบคลุมเนื้อหาดังต่อไปนี้:
  • สิทธิประโยชน์การเกษียณอายุ: ภาพรวมที่ครอบคลุม เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของบริษัทและหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงประกันสังคม
  • การวางแผนทางการเงิน: กลยุทธ์ในการจัดการเงินออม เพื่อการเกษียณอายุและสร้างหลักประกันทางการเงิน
  • ชุมชนและการสนับสนุน: โอกาสในการเชื่อมต่อกับผู้เกษียณอายุ ด้วยกันผ่านกลุ่ม LINE เพื่อสร้างความรู้สึกมีส่วนร่วม และมิตรภาพ
  • สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี: คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เรื่อง การดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจ รวมถึงการออกกำลังกาย โภชนาการ และการจัดการความเครียด
ทั้งนี้มีพนักงานอาวุโสจำนวน 421 คน จากบริษัทไทยเบฟ และบริษัทในเครือทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการนี้ซึ่งปิดท้ายด้วย พิธีอำลาพนักงานเกษียณอายุ พร้อมมอบประกาศนียบัตร และเข็มกลัดทองคำเป็นที่ระลึกจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ชมรมพนักงานไทยเบฟ
เป็นเวลากว่าทศวรรษที่ไทยเบฟได้สร้างวัฒนธรรมองค์กร ที่เข้มแข็งโดยมีชมรมพนักงานที่ส่งเสริมมิตรภาพ การทำงาน เป็นทีม และความร่วมมือ แต่ละชมรมทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น กีฬา งานอดิเรก และกิจกรรมทางสังคม เพื่อเพิ่มการมี ส่วนร่วมและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน นอกจากนี้ยังช่วย เสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กรของบริษัทและความสัมพันธ์กับ องค์กรภายนอกอีกด้วย

ปัจจุบันไทยเบฟมี 12 ชมรม ได้แก่ ชมรมสุขภาพ ฟุตบอล โบว์ลิ่ง แบดมินตัน กอล์ฟ ออฟโรด เทนนิส ถ่ายภาพ ปั่นจักรยาน ดนตรี วิ่ง และชมรมอาเซียน
F&N (กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ในประเทศสิงคโปร์): Assisi Fun Day 2024
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2567 พนักงาน F&N กว่า 25 คน พร้อมด้วยครอบครัวและเพื่อน ๆ ได้เป็นอาสาสมัครที่งาน Assisi Fun Carnival เพื่อสนับสนุนสมาคม Lions Befrienders โดยอาสาสมัครใช้เวลาช่วงเช้าพูดคุยกับผู้สูงอายุ 20 คน โดยมอบถุงของขวัญประกอบด้วยสิ่งของที่มีประโยชน์และบัตรกำนัลมูลค่า 20 เหรียญสิงคโปร์เพื่อให้ผู้สูงอายุได้เพลิดเพลินกับข้อเสนอต่าง ๆ ในงาน นอกจากนั้น เงินที่ระดมทุนได้จากงานนี้จะนำไปใช้เพื่อสนับสนุนผู้ป่วยระยะสุดท้ายและครอบครัวที่ Assisi Hospice ทั้งนี้โอกาสในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนยังช่วยเพิ่ม ความเป็นอยู่ที่ดี ความพึงพอใจในงาน และขวัญกำลังใจของพนักงาน

SABECO (กลุ่มธุรกิจเบียร์ในประเทศเวียดนาม): ไต้ฝุ่นยางิ: เราแข็งแกร่งและเป็นหนึ่งเดียวกันได้
พายุไต้ฝุ่นยางิที่ได้พัดผ่านไป ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างหนักในภาคเหนือของเวียดนาม โดยเกิดน้ำท่วมรุนแรงและดินถล่ม ส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนจำนวนมาก รวมถึงพนักงานของ SABECO และครอบครัว

เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น SABECO และสหภาพแรงงาน ได้เรียกร้องให้พนักงานทุกคนแสดงความสามัคคีและให้ การสนับสนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ การสนับสนุนเชิงรุกนี้ เสริมสร้างค่านิยมหลักของเราและสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง สำหรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเรา โดยเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 SABECO และสหภาพแรงงานได้เปิดตัวแคมเปญบริจาค โดยสมัครใจเพื่อช่วยเหลือพนักงานในภาคเหนือ ซึ่งได้รับการ ตอบรับเป็นอย่างดีจาก SABECO และบริษัทในเครือ

GRG (กลุ่มธุรกิจสุราในประเทศเมียนมา): ASK HC PROGRAM
โครงการ ASK HC ส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานเชิงบวก และเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วยกิจกรรมที่สำคัญ ดังนี้
  • การสนทนาแบบเปิด: การประชุม ASK HC รายสัปดาห์ช่วยให้ พนักงานสามารถถามคำถาม ขอคำแนะนำ และแบ่งปันข้อกังวลกับผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคล ช่วยส่งเสริมความโปร่งใสและความไว้วางใจ
  • การแบ่งปันความรู้: การจัดกิจกรรมข้ามแผนกส่งเสริมการทำงานร่วมกัน การพัฒนาทักษะ และการแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
  • การยกย่องพนักงาน: การฉลองวันเกิดและเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ จะช่วยส่งเสริมขวัญกำลังใจและเสริมสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในองค์กร
  • การพัฒนาภาษา: ชมรมสนทนาภาษาอังกฤษออนไลน์ช่วยให้พนักงานพัฒนาทักษะทางภาษา เพิ่มการสื่อสารและความเข้าใจระหว่างวัฒนธรรม
International Beverage(กลุ่มธุรกิจสุราในสหราชอาณาจักร): นโยบายใหม่ และการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับวัยทอง
ในปี 2567 บริษัทเริ่มใช้นโยบายเกี่ยวกับวัยทองฉบับแรกโดยมุ่งมั่นที่จะปรับเปลี่ยนอย่างสมดุลสำหรับเพื่อนร่วมงานที่ประสบกับอาการวัยทอง โดยได้จัดการประชุมแบบพบหน้ากันสองครั้งซึ่งเปิดให้พนักงานทุกคนเข้าร่วม โดยเราแบ่งปันเอกสารการศึกษาและสนับสนุนให้มีการพูดคุยกันอย่างเปิดกว้างการพบปะดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยได้ดำเนินการติดตามผลโดยสร้างคลังข้อมูลสำหรับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังพูดถึงประเด็น “วัยทองของผู้ชาย” ในระหว่างการทำกิจกรรมอีกด้วย

เนื่องจากจำนวนพนักงานผู้หญิงที่ประสบกับภาวะวัยทอง ในที่ทำงานมากขึ้น การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยจึงมีความ จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีกฎหมายเกี่ยวกับวัยทองฉบับใหม่ ของสหราชอาณาจักรที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2568 ทั้งนี้ การวิจัย แสดงให้เห็นว่าผู้หญิง 1 ใน 10 คนลาออกจากงานเนื่องจากอาการ วัยทอง และ ร้อยละ 67 รายงานว่ามีผลกระทบเชิงลบต่อการทำงาน นอกจากนี้ คำแนะนำดังกล่าวยังเน้นย้ำด้วยว่าอาการวัยทอง อาจเข้าข่ายได้รับการคุ้มครองภายใต้พระราชบัญญัติความ เท่าเทียมกัน พ.ศ. 2553 เพื่อให้แน่ใจว่าผู้หญิงจะได้รับการปกป้อง จากการเลือกปฏิบัติ
ความสำเร็จ
กลุ่มธุรกิจสุรา
  • โรงงาน 17 แห่งในประเทศไทย และ 2 แห่งในประเทศเมียนมา ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 45001
  • โรงงาน 6 แห่งได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่น ด้านการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
  • โรงงาน 5 แห่งได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่น ด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการ
  • โรงงาน 5 แห่งได้รับการรับรองสถานที่ทำงานปลอดโรค ปลอดภัย กายใจเป็นสุข
  • โรงงาน 3 แห่งได้รับรางวัลโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ เป็นศูนย์
  • โรงงาน 3 แห่งได้รับการยกย่องให้เป็นองค์กรชั้นนำ ด้านการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ (CALO)
  • โรงงาน 2 แห่งได้รับการรับรองเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว (GI4)
  • โรงงาน 1 แห่งได้รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยดีเด่น แห่งชาติ
กลุ่มธุรกิจเบียร์
  • โรงงานทั้งหมดในประเทศไทย และ 1 แห่งในประเทศเวียดนามได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 45001
  • โรงเบียร์คอสมอส (ปีที่ 10 ติดต่อกัน) และโรงงานเบียร์ไทย (ปีที่ 7 ติดต่อกัน) ได้รับรางวัลระดับประเทศด้านความปลอดภัย และอาชีวอนามัย
  • โรงเบียร์คอสมอส (ปีที่ 12 ติดต่อกัน) และโรงงานเบียร์ไทย (ปีที่ 6 ติดต่อกัน) ได้รับรางวัลดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์ และสวัสดิการ
  • โรงงานเบียร์ทิพย์ (ปีที่ 6 ติดต่อกัน) และโรงงานเบียร์ไทย รับรางวัลเหรียญทองสถานประกอบการปลอดโรค ปลอดภัย กายใจเป็นสุข
  • โรงงานเบียร์ไทย รับรางวัลสถานประกอบการต้นแบบด้านการ ส่งเสริมสุขภาพ
กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และกลุ่มธุรกิจอาหาร
เสริมสุข
  • สำนักงาน 6 แห่งได้รับการรับรองจากโครงการ Zero Accident Campaign 2024
โออิชิ
  • โรงงาน 3 แห่งได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 45001
  • โรงงาน โออิชิ เทรดดิ้ง อมตะนคร จังหวัดชลบุรี รับรางวัลอุบัติเหตุเป็นศูนย์ (ปีที่ 2 ติดต่อกัน)
  • โรงงาน โออิชิ เทรดดิ้ง วังม่วง จังหวัดสระบุรี (ปีที่ 7 ติดต่อกัน) และโรงงาน โออิชิ เทรดดิ้ง อมตะนคร จังหวัดชลบุรี รับรางวัล ระดับประเทศ ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติก
  • ลดค่าใช้จ่ายในการจ้างวิทยากรภายนอกโดยการพัฒนาวิทยากร ภายในสำหรับหลักสูตรการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ความปลอดภัย ในการทำงานกับสารเคมีอันตราย และอื่น ๆ
  • เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย 4 คน ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ฝึกอบรม ด้านความปลอดภัยในการขนส่ง
  • รางวัลบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมดีเด่นระดับประเทศ จำนวน 3 พื้นที่ และระดับจังหวัด จำนวน 6 พื้นที่
  • รางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ระดับวิชาชีพ ดีเด่นระดับประเทศ (1 ท่าน)
  • โครงการขับเคลื่อนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานในงานที่มีการประสบอันตรายสูง (งานขนส่ง) ระดับดีเด่น จำนวน 12 พื้นที่
ก้าวสู่อนาคต
ไทยเบฟยึดมั่นในพันธสัญญาส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพของพนักงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทุกฝ่าย เพื่อให้สอดคล้องกับพันธสัญญานี้ เราตั้งเป้าที่จะลดอัตราการเสียชีวิตในสถานที่ทำงานและลดอัตราความถี่การบาดเจ็บ จนถึงขั้นหยุดงาน (LTIFR) ให้เหลือน้อยที่สุดในปีต่อ ๆ ไป เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ไทยเบฟจะดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียด ถี่ถ้วนถึงสาเหตุของอุบัติเหตุและการบาดเจ็บทั้งหมด โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับแต่ละหน่วยธุรกิจเพื่อพัฒนาและนำมาตรการ ป้องกันที่มีประสิทธิภาพมาใช้

สำหรับการดำเนินงานด้านการขนส่ง TBL Control Tower ได้ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2565 เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ผ่าน ข้อมูล GPS โดยมุ่งเน้นไปที่การบรรลุเป้าหมายอุบัติเหตุจนถึงขั้นเสียชีวิต และอุบัติเหตุจนถึงขั้นหยุดงานเป็นศูนย์ ไม่นานหลังจากนั้น เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์และการกำจัดการทุจริตก็ถูกผนวกเข้าไปในเป้าหมายด้วย ในช่วงสองปีที่ผ่านมา TBL Control Tower และฝ่ายปฏิบัติการขนส่งได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มั่นใจว่าปฏิบัติตามกฎระเบียบของกรมการขนส่ง ทางบก ผลลัพธ์ที่สำคัญคือการลดอุบัติเหตุร้ายแรงในหลายประเภท โดยผลลัพธ์ที่จับต้องได้เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นได้เลย หากปราศจากการสนับสนุนของซอฟต์แวร์ภายในองค์กร จำนวน 2 โปรแกรม คือ Smart Eyes และ Smart View หลังจากนี้ Control Tower จะยังคงพัฒนาต่อไป โดยจัดการสถานการณ์ที่ซับซ้อนมากขึ้นและขยายขอบเขตไปยังหน่วยธุรกิจอื่น ๆ

ในด้านการดำเนินงานของโรงงาน การใช้ระบบอัตโนมัติช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น เซ็นเซอร์ในมอเตอร์เพื่อตรวจจับการโอเวอร์โหลด การตรวจสอบระดับน้ำและแรงดันในหม้อไอน้ำ และการติดตามการเคลื่อนไหว ของเครื่องจักรบนสายการผลิตแบบเรียลไทม์ ไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะนำนวัตกรรมและความเป็นเลิศทางปฏิบัติการมาใช้ในการก้าวสู่ การเป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) เราตั้งเป้าที่จะบูรณาการเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) ทั่วทั้งการดำเนินงาน เพื่อเปิดใช้งานการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ การตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งยังคง ยึดมั่นต่อความยั่งยืนและปฏิบัติตามมาตรฐานการผลิต/div>