หน้าแรก / เกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืน นโยบายและคำแถลง
นโยบาย
จรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ
ในการที่ธุรกิจจะเจริญเติบโตก้าวหน้า มีความมั่นคงยั่งยืน และเป็นที่ยอมรับของสังคมได้นั้น สิ่งสำคัญประการหนึ่งซึ่งจะขาดเสียมิได้คือบริษัท จะต้องดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณ และขั้นตอนหนึ่งในการส่งเสริมจรรยาบรรณขององค์กรคือการกำหนดมาตรฐานทางจรรยาบรรณ และประกาศให้บุคลากรทุกระดับของบริษัททราบและยึดถือ เป็นแนวปฏิบัติโดยเคร่งครัดและรักษามาตรฐานทางจรรยาบรรณนั้นไว้ตลอดไป

นโยบาย
การสรรหาคณะกรรมการ
คณะกรรมการสรรหามีหน้าที่หลักในการพิจารณาและทบทวนการแต่งตั้งผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กรรมการ/ประธานกรรมการบริหาร/รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส ในการสรรหาต้องมีความโปร่งใสเป็นไปตามหลักเกณฑ์และคู่มือเกี่ยวกับการรับหลักทรัพย์และหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ฉบับปี 2555 รวมถึงปฏิบัติตามกฎหมายและ/หรือกฎระเบียบอื่นๆ หรือคู่มือเกี่ยวกับการรับหลักทรัพย์ฉบับที่มีการปรับปรุงแก้ไข และข้อบังคับต่างๆ ของหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในคณะกรรมการสรรหา


นโยบาย
การต่อต้านการคอร์รัปชัน
เป็นเครื่องมือสำคัญในการตัดสินใจและดำเนินการเพื่อป้องกันการคอร์รัปชัน รวมถึงเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ การบริหารความเสี่ยง และเสริมสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืนในอนาคต นโยบายนี้ได้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางให้กรรมการและพนักงานทราบถึงสิ่งที่พึงปฏิบัติหรือเพื่อทราบว่าบุคคลใดจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาในกรณีที่เกิดข้อสงสัย กรรมการและพนักงานมีหน้าที่ต้องรักษามาตรฐานสูงสุดในการดำเนินธุรกิจ กรรมการและพนักงานจะต้องไม่ยอมรับการคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือหน่วยงานในทุกประเทศที่ไทยเบฟดำเนินธุรกิจ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่มีหน้าที่ติดตามและกำหนดให้มีระบบรองรับการต่อต้านการคอร์รัปชั่นที่มีประสิทธิภาพ โดยรายงานต่อประธานคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบ บุคคลใดที่กระทำการคอร์รัปชั่นจะถูกนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาความผิดทางวินัย เมื่อคณะกรรมการที่รับผิดชอบได้ตรวจสอบอย่างเพียงพอแล้ว ผู้กระทำผิดจะถูกกำหนดบทลงโทษตามกฏระเบียบของไทยเบฟว่าด้วยการประพฤติผิดหรือการละเมิดอย่างเคร่งครัด ในกรณีที่เป็นการกระทำผิดกฎหมาย ผู้กระทำผิดอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


นโยบาย
การรับข้อร้องเรียน
กรรมการและพนักงานมีสิทธิ์ที่จะแจ้งข้อร้องเรียนหากมีข้อสงสัยที่อยู่ในข่ายว่าอาจเป็นความผิดตามนโยบาย หากกรรมการมีข้อร้องเรียน ให้กรรมการแจ้งข้อร้องเรียนดังกล่าวไปยังประธานกรรมการตรวจสอบ และหากพนักงานมีข้อร้องเรียน ให้พนักงานแจ้งข้อร้องเรียนดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางที่แนะนำ โดยระบุชื่อและรายละเอียดเพื่อใช้ในการติดต่อ แล้วแจ้งไปยังบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบหรือแจ้งข้อร้องเรียนไปยังสำนักกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ที่ Whistleblowing@thaibev.com ไทยเบฟพร้อมที่จะปกป้องพนักงานที่แจ้งข้อร้องเรียนที่มีมูลความจริงโดยรักษาข้อมูลไว้เป็นความลับ แม้จะปรากฏในภายหลังว่าข้อร้องเรียนดังกล่าวเป็นความเข้าใจผิด เมื่อมีพนักงานแจ้งข้อร้องเรียน บริษัทจะมีการประเมินเพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร หากภายหลังพบว่าข้อร้องเรียนเป็นเท็จหรือโดยทุจริต หรือมีลักษณะประสงค์ร้าย หรือปราศจากความรอบคอบ หรือเพื่อประโยชน์ส่วนบุคคล ถือเป็นการกระทำผิดร้ายแรง การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำผิดซึ่งนำไปสู่การพิจารณาความผิดทางวินัยตามที่ระบุไว้ในหัวข้อการพิจารณาความผิดทางวินัยและบทลงโทษในคู่มือพนักงานของไทยเบฟ


นโยบาย
ภาษี
นโยบายด้านภาษีของไทยเบฟ คือการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากกฎหมายและกฎระเบียบดังกล่าว โดยไทยเบฟจัดให้มีการอบรมเพื่อให้เกิดความเข้าใจด้านกฎหมายด้านภาษีที่เกี่ยวข้องและกฎระเบียบต่างๆ และนำไปปรับใช้ในงานต่อไป ไทยเบฟมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษี เช่น ภาษีสรรพสามิต ภาษีนำเข้า ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีอื่นๆ นอกจากการจ้างงาน การลงทุน การจ่ายเงินปันผล และการซื้อสินค้าและบริการแล้ว การจ่ายภาษีของไทยเบฟยังมีส่วนช่วยเศรษฐกิจของประเทศและชุมชนที่ไทยเบฟเข้าไปดำเนินธุรกิจ


นโยบาย
แนวทางปฏิบัติด้านการตลาดสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ไทยเบฟมีหน้าที่ดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าตราสินค้ามีการโฆษณาและทำการตลาดอย่างมีความรับผิดชอบ แนวทางปฏิบัติครอบคลุมกิจกรรมทุกประเภทที่ไทยเบฟใช้ในการตลาดตราสินค้า รวมไปถึงการโฆษณาตราสินค้า กิจกรรมในช่องทางการบริโภค ณ จุดจำหน่าย (on-trade) และการบริโภคนอกจุดจำหน่าย (off-trade) การสร้างนวัตกรรมตราสินค้า การทำการตลาดแบบให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วม การวางแผนเพื่อเข้าถึงผู้บริโภค การตลาดเพื่อสร้างความสัมพันธ์ การประชาสัมพันธ์ให้แก่ผู้บริโภค และการพัฒนาเว็บไซต์ตราสินค้าและเนื้อหา ไทยเบฟจะไม่สนับสนุนการบริโภคเครื่องดื่มมากเกินพอดีหรือขาดความรับผิดชอบ หรือไม่นำเสนอการปฏิเสธการดื่มในเชิงลบ หรือสื่อเป็นนัยว่าการปฏิเสธการดื่มเป็นเรื่องผิดหรือโง่เขลา

ไทยเบฟจะไม่เน้นย้ำเรื่องปริมาณแอลกอฮอล์ที่สูง กิจกรรมต่อต้านสังคม ความสำเร็จทางสังคมและทางเพศ เพื่อใช้เป็นจุดหลักในการดึงดูดผู้บริโภค โฆษณาและสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัทจะไม่สื่อเป็นนัยว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความสามารถในการป้องกัน บำบัดหรือรักษาโรคใดๆ ที่เกิดแก่มนุษย์ สุดท้ายนี้ ในการพัฒนาเนื้อหาในเว็บไซต์ของไทยเบฟ บริษัทบังคับว่าบุคคลที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายของประเทศไทยกำหนดให้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ห้ามเข้าใช้งานเว็บไซต์ของไทยเบฟ


นโยบาย
สุขภาพและโภชนาการ
สุขภาพและโภชนการนับเป็นหนึ่งองค์ประกอบหลักสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทไทยเบฟ บริษัทนำเสนอสินค้าเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์หลากหลายชนิด ได้แก่ น้ำดื่ม น้ำอัดลม ชาพร้อมดื่ม เครื่องดื่มสมุนไพรแบบเอเชีย น้ำผลไม้ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนม เครื่องดื่มเกลือแร่ เครื่องดื่มบำรุงกำลัง เครื่องดื่มน้ำตาลน้อย (และปราศจากน้ำตาล) และเครื่องดื่มที่มีคุณประโยชน์ ไทยเบฟได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพื่อเป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกายให้ผู้บริโภคเลือกดื่มในโอกาสต่างๆ

ไทยเบฟใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งจากเส้นทางการกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคด้วยการเข้าสู่กลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพใหม่ๆ เช่น น้ำนมถั่วเหลือง ไทยเบฟมุ่งมั่นในการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหลากหลายให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีและความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้ไทยเบฟยังมุ่งมั่นในการสร้างการรับรู้ข้อมูลโภชนาการของเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกาย โดยแสดงข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์ สื่อสิ่งพิมพ์ไทยเบฟ เว็บไซต์ รวมถึงศูนย์บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ และสร้างกลยุทธ์ในการสื่อสารอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมการบริโภคที่ดีต่อสุขภาพ


นโยบาย
การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
น้ำเป็นทรัพยากรที่สำคัญต่อโลก น้ำเป็นของเราทุกคนและจำเป็นที่จะต้องแบ่งปัน บริษัทไทยเบฟได้จัดทำนโยบายบริหารจัดการน้ำขององค์กรขึ้น เพื่อมุ่งเน้นการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมให้น้อยที่สุด โดยผนวกการบริหารจัดการน้ำเพื่อความยั่งยืนเข้ากับกลยุทธ์ทางธุรกิจ การตัดสินใจ และกิจกรรมประจำวัน รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัท บริษัทไทยเบฟใช้ระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตามมาตรฐานสากลและส่งเสริมเป้าหมายการพัฒน่ที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UNSDG) ด้านสุขลักษณะ สุขอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี


นโยบาย
อาชีวอนามัยและความปลอดภัยขององค์กร
บริษัทไทยเบฟเชื่อมั่นว่าไม่มีทรัพย์สินใดจะสำคัญไปกว่าบุคลากรที่มีส่วนร่วมและอุทิศตนเพื่อผลสำเร็จทางธุรกิจ บุคคลดังกล่าวประกอบไปด้วยกรรมการและพนักงาน โดยไทยเบฟได้กำหนดนโนบายอาชีวอนามัยและความปลอดภัยขององค์กรเพื่อสร้างความตระหนักถึงความปลอดภัย การให้ความร่วมมือ ให้กรรมการและพนักงานปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ และแนวทางการปฏิบัติงานซึ่งเกี่ยวข้องอาชีวอนามัยและความปลอดภัยโดยถือเป็นบรรทัดฐานเบื้องต้นและหมั่นติดตามผลเพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงาน พร้อมนำพาองค์กรก้าวไปสู่ความเป็นเลิศอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน


นโยบาย
ด้านสิ่งแวดล้อม
เพื่อลดความเสี่ยงอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ บริษัทไทยเบฟได้ตั้งเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับปี 2563เพื่อลดการใช้น้ำ การใช้พลังงาน การปล่อยมลพิษ น้ำทิ้งและของเสีย ไทยเบฟสร้างความตระหนักและมีส่วนในความรับผิดชอบต่อการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และผลักดันให้กรรมการและพนักงานยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมและกฎระเบียบอื่นๆ ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ไทยเบฟสนับสนุนการพัฒนาบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืนด้วยการนำขวดแก้วกลับมาใช้ซ้ำ การนำเศษแก้วและกระป๋องอลูมิเนียบมกลับมาใช้ใหม่ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไทยเบฟมีความมุ่งมั่นในการสร้างเทคโนโลยีใหม่อันมีประสิทธิภาพให้กับการดำเนินงาน รวมไปถึงการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าในการจัดซื้อจัดหาด้วยการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ไทยเบฟจะดำเนินการติดตามความคืบหน้าการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและรายงานต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียผ่านทางรายงานความยั่งยืนในทุกปี


นโยบาย
ความยั่งยืน
ไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจโดยใช้แนวทางปฏิบัติในการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยการสร้างความสัมพันธ์และความไว้ใจซึ่งกันและกันระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียผ่านการดำเนินการอย่างยอดเยี่ยมและโปร่งใส ไทยเบฟตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม โดยสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิผล พร้อมทั้งพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ ลดผลกระทบของการดำเนินงานในห่วงโซ่คุณค่าของไทยเบฟ คำนึงถึงและรักษาไว้ซึ่งความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายในการดำเนินงานเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ


นโยบาย
ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร
ไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานสูงสุดด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรในการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจและเป็นพลเมืองที่ดีของโลก โดยมีส่วนช่วยพัฒนาชุมชนต่างๆ ที่บริษัทตั้งอยู่และดำเนินธุรกิจ อีกทั้งคำนึงถึงการให้ความสำคัญและความต้องการ ไทยเบฟส่งเสริมและสนับสนุนให้กรรมการและพนักงานเป็นอาสาสมัครเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมและสาธารณะกุศลของบริษัท และความต้องการทางสังคมทุกด้านและโครงการต่าง ๆ บริษัทเคารพและสนับสนุนมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศต่างๆ ที่ไทยเบฟทำธุรกิจ และจะดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ไทยเบฟหมั่นทบทวนหลักบรรษัทภิบาลเกี่ยวกับแนวคิดริเริ่มด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมรวมทั้งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท นอกจากนี้ไทยเบฟยังพัฒนา ปรับปรุง และ/หรือ ปฏิบัติตามระบบของไทยเบฟในการบริหาร วัดผล ติดตาม และรายงานความคืบหน้าผลกระทบของนโยบายที่มีต่อความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย การพัฒนาทักษะของพนักงาน และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง


นโยบาย
ด้านสิทธิมนุษยชน
บริษัทไทยเบฟเคารพต่อหลักการสิทธิมนุษยชนและมาตรฐานแรงงานสากล อีกทั้งยังดำเนินงานตามหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและปฏิญญาว่าด้วยหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ บริษัทนำนโยบายนี้มาใช้กับกรรมการและพนักงานทุกคน จุดยืนสำคัญในนโยบายคือ การเลือกปฏิบัติและการล่วงละเมิด แรงงานบังคับและแรงงานเด็ก เสรีภาพในการสมาคม ชั่วโมงทำงาน อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในที่ทำงาน โดยมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามกฏหมายและข้อบังคับอื่นๆ และมุ่งสู่มาตรฐานที่สูงขึ้น


นโยบาย
การบริหารความเสี่ยง
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“บริษัท”หรือ“กลุ่มบริษัทไทยเบฟ”) ตระหนักว่าการบริหาร ความเสี่ยงและการควบคุมภายใน เป็นส่วนประกอบหนึ่ง ของการกำกับดูแลกิจการที่ดี และเป็นพื้นฐานสำคัญในการบรรลุ วัตถุประสงค์ทั้งด้านกลยุทธ์และการดำเนินงานของบริษัท การรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและทรัพย์สินของบริษัท ถึงแม้ว่า จะไม่ สามารถ กำจัด ความเสี่ยงทั้งหลายให้หมด ไปจากการดำเนินธุรกิจได้ กลุ่มบริษัทไทยเบฟ ตั้งใจ ใช้การบริหารความเสี่ยง เพื่อช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีการตัดสินใจที่ดีขึ้นและบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและลด ผลกระทบของความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับบริษัท


นโยบาย
แนวทางปฏิบัติสําหรับคู่ค้า
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“ไทยเบฟ”) ยึดถือหลักในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนและและเป็นที่ยอมรับของสังคมด้วยการคำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล โดยได้กำหนดจรรยาบรรณเครือไทยเบฟ เวอเรจ สำหรับให้กรรมการของไทยเบฟทุกท่าน (“กรรมการ”) ผู้บริหารของไทยเบฟ (พนักงานตั้งแต่ระดับผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักขึ้นไปจนถึงระดับกรรมการผู้อำนวยการใหญ่) และพนักงานของไทยเบฟทุกคน (“พนักงาน”) ถือปฏิบัติ นอกจากนี้ ไทยเบฟยังเชื่อในเรื่องการเจริญเติบโตไปร่วมกันกับคู่ค้า โดยเห็นว่าหากคู่ค้าของไทยเบฟยึดถือหลักเกณฑ์ และแนวทางปฏิบัติดังกล่าวด้ วยแล้วย่อมจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อไทยเบฟ คู่ค้า ลูกค้า ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมในวงที่กว้างขึ้น ดังนั้น ไทยเบฟจึงให้ความสำคัญ กับการพัฒนาศักยภาพของคู่ค้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของ ไทยเบฟให้คู่ค้าบริหารจัดการกิจการของคู่ค้าตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่นเดียวกับไทยเบฟ

แนวทางปฏิบัติสำหรับคู่ค้าฉบับนี้ (“แนวทางปฏิบัติ”) เป็นหลักเกณฑ์พื้นฐานที่ไทยเบฟ ยึดถือปฏิบัติอยู่และประสงค์จะขอความร่วมมือจากคู่ค้าของไทยเบฟยึดถือปฏิบัติด้วย ซึ่งไทยเบฟมั่นใจว่าการดำเนินการตามแนวทางต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งคู่ค้า และของไทยเบฟโดยจะส่งผลให้กิจการของทั้งไทยเบฟและคู่ค้าเจริญเติบโตไปด้วยกัน อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนและเป็นการสร้างเสริมให้สังคมและสิ่งแวดล้อมดียิ่งขึ้น


นโยบาย
ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศ
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมกันว่า “ไทยเบฟ”) ตระหนักถึง ความสำคัญและคุณค่าของระบบสารสนเทศและทรัพยากรการประมวลผล ทั้งที่เป็นการประมวลผลโดยบุคคล และโดยระบบอัตโนมัติ เพื่อเป็นการให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของการ รักษาความลับ ความถูกต้อง และความพร้อมของสารสนเทศและระบบสารสนเทศของไทยเบฟ โดยไทยเบฟพร้อม ที่จะดำเนินการในสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าไทยเบฟมีการควบคุมที่เหมาะสมเพื่อให้การป้องกันเป็นไปในระดับที่เพียงพอ


นโยบาย
Non-Discrimination and Anti-Harassment
ThaiBev conducts business according to good corporate governance with fairness and, and commit to Business Ethics of ThaiBev Group. At ThaiBev, we recognize the value and importance of “human”, especially our employee who are important capital of the organization. We believe in upholding the principles of human rights in treating others with equality and without discrimination and harassment against other in the workplace or any other place related to our operation, creating the sustainable foundation of favorable work environment and atmosphere for employee to build on good relationships. Therefore, it is appropriate to formulate Non-Discrimination and Anti-Harassment Policy in order to put in place measures to deal with discrimination and harassment against others in the workplace.

Non-Discrimination and Anti-Harassment Policy applies to all directors, executive officers, and employees. It also applies to all businesses within ThaiBev Group for example, subsidiary companies and joint ventures.

Non-Discrimination and Anti-Harassment Policy sets out clear intention and guidelines as follows:
  • ThaiBev will manage and operate on the principle of equality, honor each other, and respect for human dignity by considering equality and accepting fundamental differences and individual characteristics. ThaiBev will not accept any type of discrimination and harassment against others, whether it be sexual harassment or non-sexual harassment in the workplace.
  • ThaiBev will create a corporate culture, cultivate values, and encourage all Directors, Executive Officers, and Employees of ThaiBev to treat each other with respect and respect human dignity.
  • ThaiBev will ensure that its workplace has a favorable environment and atmosphere, is safe and suitable to work, and does not support any type of harassment.
  • ThaiBev will communicate, educate, and develop an understanding with its Directors, Executive Officers, and Employees about discrimination and harassment against others in the workplace by incorporating it as part of the orientation, training sessions, and development programs, including public relations to raise awareness and ensure that everyone adheres to the Policy.
  • ThaiBev will establish mechanisms and processes for receiving complaints from people who are treated unfairly and/or harassed in the workplace to prevent and resolve issues related to any type of discrimination and harassment in the workplace, including communicating to whistleblowers about solutions.


นโยบาย
นโยบายด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“ไทยเบฟ”) ตระหนักและเคารพในความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ใช้บริการ ผู้ให้บริการ และผู้มีส่วนได้เสียที่เป็นบุคคลธรรมดาของไทยเบฟ จึงมีนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมและรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้ปลอดภัยตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศที่ไทยเบฟเข้าไปประกอบธุรกิจหรือดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ และสอดคล้องกับมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป


นโยบาย
ด้านความหลากหลายของคณะกรรมการบริษัท
ไทยเบฟตระหนักถึงประโยชน์ของความหลากหลายของคณะกรรมการบริษัท จึงมุ่งมั่นในการสร้างและรักษาโครงสร้างของคณะกรรมการบริษัทให้มีความหลากหลายเนื่องจากจะทาให้การตัดสินใจ ในการดาเนินธุรกิจของไทยเบฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยมีการคานึงถึงผลกระทบต่อบริษัทและผู้มีส่วนได้เสียจากการดาเนินธุรกิจอย่างรอบด้านเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของบริษัทและนาพาให้ไทยเบฟเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน


นโยบาย
ด้านปัญญาประดิษฐ์
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ("AI") เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการข้อมูลและการดำเนินงานของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ("ไทยเบฟ") จากความสำคัญดังกล่าว ไทยเบฟเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องมีนโยบาย AI รวมถึงเพื่อเตรียมความพร้อมให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (พ.ศ.2565-2570) ("แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์") ไทยเบฟจึงออกนโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์สำหรับยึดถือเป็นแนวปฏิบัติในการใช้ AI ต่อไป


คำแถลง
พฤติกรรมจำกัดการแข่งขันทางการค้า
บริษัทไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานอย่างซื่อสัตย์สุจริตมีจริยธรรมและเว้นการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมจำกัดการแข่งขันทางการค้า เราเชื่อเป็นมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความพยายามในการรักษาตลาดที่เป็นธรรมจะส่งผลต่อการพัฒนาทางธุรกิจและสังคมอย่างยั่งยืน


คำแถลง
การต่อต้านการฟอกเงิน
บริษัทไทยเบฟต่อต้านการฟอกเงินและการกระทำใดที่ขัดต่อจรรยาบรรณทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทเครื่องดื่มไทย ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีศีลธรรมด้วยความรู้ ความสามารถของเราอย่างดีที่สุด บริษัทไทยเบฟจะละเว้นการทำธุรกรรมใด ๆ ที่มีความเสี่ยงต่อการฟอกเงินทั้งหมดทุกกรณี


คำแถลง
ความเป็นกลางทางการเมือง
บริษัทไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะรักษาสถานะทางการเมืองที่เป็นกลาง เรายอมรับและเคารพในสิทธิทางการเมืองของพนักงานของเราตราบเท่าที่พนักงานผู้นั้นไม่ชักนำ ให้สาธารณะชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถานะทางการเมืองของบริษัทไทยเบฟ


คำแถลง
สิทธิมนุษยชน
บริษัทไทยเบฟพิจารณาที่จะขยายนโยบายเพื่อครอบคลุมผู้ถือหุ้นทั้งหมดให้เป็นไปตามหลักการและแนวทางของหลักปฏิบัติของสหประชาชาติ (UN) เกี่ยวกับธุรกิจและสิทธิมนุษยชน บริษัทไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมกับผู้ถือหุ้นในชุมชนเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทไทยเบฟได้รับฟัง เพื่อเรียนรู้และได้คำนึงถึงความคิดเห็นของพวกเขาในขณะที่บริษัทไทยเบฟดำเนินธุรกิจของตน บริษัทไทยเบฟจะเข้ามามีส่วนร่วมในการเจรจากับผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนที่ เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท ซึ่งครอบคลุมกลุ่มผู้มีส่วนร่วมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เด็ก ชนพื้นเมือง แรงงานผู้อพยพ แรงงานที่ได้รับการว่าจ้างจากบุคคลที่สาม ชุมชนท้องถิ่นและคนพิการ

บริษัทไทยเบฟได้ดำเนินการและเพิ่มวิธีการตรวจสอบวิเคราะห์วิธีการเข้าถึงที่มุ่งเน้นสถานที่ตั้ง กระบวนการหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ในกระบวนการนี้ บริษัทไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะระบุ ป้องกันและบรรเทาผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดจากหรือมีผลมาจากกิจกรรมทางธุรกิจของ เราก่อนหรือหากเกิดขึ้นผ่านขั้นตอนการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนและกระบวนการป้องกันและบรรเทา


คำแถลง
ด้านสิ่งแวดล้อม
แนวทางการปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทเครื่องดื่มไทยได้รับการสร้างสรรค์และนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการเนื่องจากการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญอย่างยิ่งโดยที่บริษัทเครื่องดื่มไทยและบริษัทย่อย ได้จำแนกออกมาดังนี้
  • การผลิตและสิ่งอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ
  • สินค้าและบริการ
  • การกระจายสินค้าและการขนส่ง
  • การจัดการของเสีย
  • คู่ค้า ผู้ให้บริการและผู้ทำสัญญา
  • คู่ค้าทางธุรกิจที่สำคัญ
  • การควบรวมกิจการและการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะการเข้าซื้อกิจการ
  • การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
  • แนวการปฏิบัติเพื่อการเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน
  • การดัดแปลงทางพันธุกรรม
  • บรรจุภัณฑ์
  • การพัฒนาโครงการใหม่


คำแถลง
กฎบัตรคณะกรรมการสรรหา

เพื่อให้คณะกรรมการสรรหาของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะกรรมการบริษัทได้มอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี สอดคล้องกับข้อกำหนดของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือคณะกรรมการกำกับตลาดทุนและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ที่บริษัทได้จดทะเบียนเป็นสมาชิกอยู่ (“ตลาดหลักทรัพย์”) รวมทั้งมาตรฐานสากล คณะกรรมการบริษัทจึงเห็นควรกำหนดกฎบัตรคณะกรรมการสรรหาขึ้น เพื่อกำหนดขอบเขตขององค์ประกอบคุณสมบัติ วาระการดำรงตำแหน่ง การประชุม อำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการสรรหา ดังนี้

1. องค์ประกอบและคุณสมบัติของคณะกรรมการสรรหา

ให้คณะกรรมการบริษัทเป็นผู้พิจารณาและแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาและประธานกรรมการสรรหา โดยพิจารณาจากบุคคลที่คณะกรรมการบริษัทเห็นว่ามีองค์ประกอบและคุณสมบัติเหมาะสมดังนี้

1.1 คณะกรรมการสรรหาประกอบด้วยกรรมการบริษัทจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน ซึ่งกรรมการสรรหา เกินกว่ากึ่งหนึ่งและประธานกรรมการสรรหาควรเป็นกรรมการอิสระ และในกรณีที่มีการแต่งตั้งหัวหน้ากรรมการอิสระให้หัวหน้ากรรมการอิสระเป็นกรรมการสรรหาด้วย

1.2 กรรมการสรรหาต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท มีความซื่อสัตย์ เข้าใจถึงหน้าที่ ความรับผิดชอบของคณะกรรมการสรรหา มีความเป็นกลางในการสรรหา และคัดเลือกบุคคลผู้ที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการบริษัทหรือผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่ระดับผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ขึ้นไป โดยกรรมการสรรหาต้องมีความเป็นอิสระตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงมีความรู้ด้านบรรษัทภิบาลและสามารถอุทิศเวลาอย่างเต็มที่ในการปฏิบัติหน้าที่

1.3 ประธานกรรมการสรรหาควรเป็นบุคคลที่มีความอาวุโส มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์สูง สามารถผลักดันให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาเป็นไปอย่างอิสระ มีความเป็นกลางและมีความซื่อสัตย์สุจริต

2. วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการสรรหา

2.1 กรรมการสรรหามีวาระการดำรงตำแหน่งตามวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการบริษัท โดยกรรมการสรรหาที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระอาจได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการบริษัท ให้กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งได้อีก

2.2 ให้กรรมการสรรหาที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระอยู่รักษาการในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการบริษัทที่มีคุณสมบัติครบถ้วนมาเป็นกรรมการสรรหาแทน

2.3 นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว กรรมการสรรหาพ้นจากตำแหน่งเมื่อ

(1) ลาออก

(2) ตาย

(3) คณะกรรมการบริษัทมีมติให้พ้นจากตำแหน่ง

2.4 กรณีที่ตำแหน่งกรรมการสรรหาว่างลงให้คณะกรรมการบริษัทแต่งตั้งกรรมการบริษัทที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเข้าเป็นกรรมการสรรหาแทนโดยเร็ว

3. การประชุมของคณะกรรมการสรรหา

3.1 คณะกรรมการสรรหาจะต้องจัดให้มีการประชุมไม่น้อยกว่า 2 ครั้งต่อปี โดยกรรมการสรรหาต้องมาประชุมด้วยตนเอง

3.2 ในการประชุมคณะกรรมการสรรหาต้องมีกรรมการสรรหาเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม

3.3 ในกรณีที่ประธานกรรมการสรรหาไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้กรรมการสรรหา ที่เข้าร่วมประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม

3.4 การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาให้ถือเสียงข้างมากของกรรมการสรรหาที่เข้าร่วมประชุม โดยกรรมการสรรหาหนึ่งคนมีเสียงหนึ่งเสียงถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด

3.5 กรรมการสรรหาซึ่งมีส่วนได้เสียในเรื่องใดไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในเรื่องนั้น

3.6 ให้คณะกรรมการสรรหารายงานผลการประชุมในแต่ละครั้งให้คณะกรรมการบริษัททราบ

4. อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหา

4.1 พิจารณาโครงสร้างและองค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัททั้งในเรื่องของจำนวนกรรมการ ที่เหมาะสมกับขนาด ประเภท และความซับซ้อนของธุรกิจ คุณสมบัติของกรรมการแต่ละคนทั้งในด้านการศึกษา ความรู้ ความสามารถ ทักษะ ประสบการณ์ ความชำนาญเฉพาะด้านที่เป็นประโยชน์และเกี่ยวข้องกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมหลักของบริษัท

4.2 พิจารณาคุณสมบัติของบุคคลที่จะมาเป็นกรรมการอิสระให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจของบริษัท โดยความเป็นอิสระของกรรมการต้องเป็นไปตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลกำหนดไว้ รวมตลอดจนถึงเป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของตลาดหลักทรัพย์

4.3 กำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ วิธีการและกระบวนการในการสรรหาบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นกรรมการบริษัทเพื่อเสนอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาอนุมัติ โดยแนวทางการพิจารณาที่สำคัญรวมถึงประเด็นดังต่อไปนี้

4.3.1 กรรมการมีคุณสมบัติเป็นไปตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลกำหนดไว้ ตลอดจนเป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของตลาดหลักทรัพย์

4.3.2 กรรมการสามารถจัดสรรเวลาให้การปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเหมาะสมและพอเพียง

4.3.3 กรรมการเป็นที่ยอมรับในด้านมาตรฐานจรรยาบรรณและความน่าเชื่อถือ และสามารถเป็นตัวแทนของบริษัทได้เป็นอย่างดี

4.3.4 กรรมการมีการศึกษา ความรู้ ความสามารถ ทักษะ ประสบการณ์ ความชำนาญเฉพาะด้าน ที่เป็นประโยชน์และเกี่ยวข้องกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมหลักของบริษัท

4.3.5 กรรมการสามารถช่วยส่งเสริมความหลากหลายในคณะกรรมการ อันประกอบด้วย อายุ เพศ การศึกษา ทักษะ ประสบการณ์ ความชำนาญเฉพาะด้าน รวมถึง เชื้อชาติและสัญชาติ

4.4 สรรหาและคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทและผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่ระดับผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ขึ้นไป ตามกระบวนการสรรหาและหลักเกณฑ์ที่กฎหมายและข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลกำหนดไว้ โดยให้จัดทำเป็น Board Skill Matrix เพื่อช่วยให้การสรรหากรรมการบริษัทและผู้บริหารระดับสูงดังกล่าวมีความสอดคล้องกับทิศทาง การดำเนินธุรกิจของบริษัท

4.5 นำเสนอรายชื่อบุคคลที่ได้รับคัดเลือกเป็นกรรมการบริษัท พร้อมความเห็นและเหตุผลในการคัดเลือก ต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาแต่งตั้งหรือเสนอรายชื่อให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาแต่งตั้ง (แล้วแต่กรณี)

4.6 นำเสนอรายชื่อบุคคลที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่ระดับผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ขึ้นไป พร้อมความเห็นและเหตุผลในการคัดเลือกต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาแต่งตั้ง

4.7 พิจารณาวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการอิสระและทบทวนความเป็นอิสระของกรรมการอิสระอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี

4.8 จัดทำแผนพัฒนาความรู้ความสามารถของกรรมการบริษัท เพื่อพัฒนาศักยภาพของกรรมการบริษัท ทั้งกรรมการบริษัทในปัจจุบันและกรรมการบริษัทที่รับตำแหน่งใหม่เพื่อให้เข้าใจรูปแบบธุรกิจของบริษัทและบทบาทหน้าที่ของกรรมการ

4.9 จัดทำแผนการสืบทอดตำแหน่งงาน (Succession plan) ของผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่ระดับ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ขึ้นไป เพื่อให้การบริหารงานของบริษัทเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมความพร้อมให้กับบุคคลที่มีศักยภาพให้สามารถสืบทอดตำแหน่งงานในกรณีที่ผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่ระดับผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ขึ้นไป เกษียณอายุ ลาออก หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้

4.10 ประเมินผลการปฏิบัติงานของตนเองอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง รวมทั้งประเมินผลการปฏิบัติงานของกรรมการสรรหาเป็นรายบุคคลโดยให้รายงานผลการประเมินให้กับคณะกรรมการบริษัททราบ พร้อมทั้งเปิดเผยหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และผลการประเมินในภาพรวมไว้ในรายงานประจำปี

5. การทบทวนและปรับปรุงกฎบัตร

ให้คณะกรรมการสรรหาทบทวนหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎบัตรฉบับนี้ทุกปี โดยหากเห็นควรให้ปรับปรุงแก้ไขกฎบัตรเพื่อให้มีหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมเป็นไปตามสภาวการณ์ปัจจุบันแล้ว ให้คณะกรรมการสรรหาปรับปรุงแก้ไขกฎบัตรและนำเสนอกฎบัตรฉบับปรับปรุงแก้ไขให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาอนุมัติ

ตามมติคณะกรรมการบริษัทในการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 3/2560 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2560 ได้อนุมัติให้ใช้กฎบัตรคณะกรรมการสรรหาฉบับนี้ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2560 เป็นต้นไป


Membership of trade association
Contributions and Other Spending for Public Policy

  FY 2019 (THB) FY 2020 (THB) FY 2021 (THB) FY2022 (THB)
Lobbying, interest representation or similar 0 0 0 0
Local, regional or national political campaigns / organizations / candidates 0 0 0 0
Trade associations or tax-exempt groups (e.g. think tanks) 18,530,396 10,960,124 9,454,670 10,976,106
Other (e.g. spending related to ballot measures or referendums) 0 0 0 0
Total contributions and other spending 18,530,396 10,960,124 9,454,670 10,976,106
Data coverage - Percentage of Revenue 100% 100% 100% 100%

คำแถลง
สมาชิกสมาคมการค้า
The membership fees, research supports and CSR activities contribution are vat inclusive.

Remark 1:

In 2022 ThaiBev contributed money for trade association membership fees
  • The Federation of Thai Industries (F.T.I)
  • The Thai Chamber of Commerce and Board of Trade of Thailand (TCC)
  • Thai Beverage Industry Association (TBA)
  • British Chamber of Commerce Thailand (BCCT)
  • Franco-Thai Chamber of Commerce (FTCC)
  • New Zealand Thai Chamber of Commerce (NZTCC)
  • The International Chamber of Commerce (ICC)
  • ASIA Business Council (ABC)
  • United Nation Global Compact (UNGC)
Remark 2 :

In 2022 ThaiBev Contributed to other researches and CSR activities
  • The Federation of Thai Industries (F.T.I)
  • Thailand Institute of Packaging and Recycling Management for Sustainable Environment (TIPMSE)
  • The Thai Chamber of Commerce and Board of Trade of Thailand (TCC)
  • Thailand Management Association (TMA)
  • British Chamber of Commerce Thailand (BCCT)
  • Thai-UK Business Leadership Council (TUBLC)
  • Thailand-Vietnam Business Council (TVBC)
  • United Nation Global Compact (UNGC)


ThaiBev hold a politically neutral stand point. Our company and subsidiaries do not support any political party, group, or politician at the national, international or global level. Our personnel are encouraged to uphold the democratic regime of government with the King as Head of State and exercise their political rights in compliance with law. All of activities are diligently aligned with the local and global governing system.