หน้าแรก / การพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยเบฟ
ห่วงโซ่คุณค่าของไทยเบฟ
ทรัพยากรที่ใช้

ทุนทางการเงิน
  • มูลค่าหลักทรัพย์: 388 พันล้านบาท
  • หนี้สิน: 253,027 ล้านบาท
  • หนี้สิน: 253,027 ล้านบาท
(as of 30 September, 2023)

ทุนทางการผลิต
  • สินทรัพย์รวม: 494,549 ล้านบาท
  • ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์: 57,528 ล้านบาท

ทุนทางบุคลากร
  • จำนวนพนักงาน: 50,613 คน
  • ชั่วโมงการฝึกอบรมพนักงาน: เฉลี่ย (ต่อคน) 29.73 ชั่วโมง

ทุนทางปัญญา
  • ระบบการจัดการความรู้
  • มูลค่าตราสินค้า

ทุนทางสังคม
  • ความสัมพันธ์ระหว่าง ไทยเบฟ กับผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย
  • ความร่วมมือกับคู่ค้า
  • มูลค่าการลงทุนเพื่อสังคม มากกว่า 600 ล้านบาท

ทุนทางสิ่งแวดล้อม
  • การใช้ทรัพยากรน้ำ: 12,873 ล้านลิตร
  • การใช้พลังงาน: 2,041,512 เมกะวัตต์-ชั่วโมง
  • วัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ 1,027,041 เมตริกตัน
ผลลัพธ์ที่ได้
ไทยเบฟเชื่อมั่นว่า การพัฒนาห่วงโซคุณค่าเป็นยุทธศาสตร์สำคัญเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ ดังนั้น ไทยเบฟจึงใส่ใจในทุกขั้นตอน และทุกกระบวนการของห่วงโซ่คุณค่า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการจัดซื้อจัดหาให้เป็นไปตามแนวทางการพัฒนาความยั่งยืน เพื่อเพิ่มศักยภาพในกระบวนการผลิตและเพื่อปรับปรุงคุณภาพของระบบการกระจายสินค้า การตลาด การขายและการจัดการบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและ หลักธรรมาภิบาล (ESG) อย่างจริงจัง
การจัดซื้อจัดหา
ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของภูมิภาคอาเซียน ไทยเบฟ ให้ความสำคัญกับกระบวนการจัดซื้อจัดหาที่มีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส และมุ่งเน้นให้เกิดผลสัมฤทธิ์เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าและบริการด้วย
  • การพัฒนาศักยภาพของคู่ค้า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและเติบโต ไปพร้อมกับไทยเบฟอย่างยั่งยืน โดยกำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับคู่ค้า การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสินค้าและบริการ ควบคู่ไปกับการตรวจสอบผลงานให้เป็นไปตามมาตรฐาน และกระบวนการจัดการที่เหมาะสม
  • กระบวนการจัดซื้อจัดหาที่มีมาตรฐาน ซึ่งคำนึงถึงปัจจัยด้าน สิ่งแวดล้อมและสังคม เช่น การบริหารจัดการน้ำ อาชีวอนามัยและความปลอดภัย รวมถึงการกำกับดูแลกิจการ เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าและบริการส่งถึงมือผู้บริโภคอย่างมีคุณภาพและปลอดภัย
  • คำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและด้านอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น จากกระบวนการหลังการบริโภค
การผลิต
ไทยเบฟให้ความสำคัญและใส่ใจในกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและทำให้การผลิตมีความทันสมัย เป็นไปตามมาตรฐานสากลด้วย
  • การควบคุมคุณภาพสินค้าให้ถูกต้องตามข้อกำหนดทางกฎหมาย และมาตรฐานการจัดการต่าง ๆ ตามหลักสากล ซึ่งครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และผู้บริโภค เช่น มาตรฐาน ISO 9001, ISO 14001, ISO 22000, GMP, HACCP เครื่องหมายรับรองคุณภาพน้ำดื่ม (National Sanitation Foundation: NSF)
  • ความปลอดภัยในการผลิตที่มีการจัดการด้านสุขลักษณะที่ดี โดยเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและปลอดภัย
  • การใช้ทรัพยากรต่าง ๆ เช่น ทรัพยากรน้ำและพลังงานเพื่อให้เกิดคุณค่าและประโยชน์สูงสุด โดยไม่ก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ (ความหลากหลายทางชีวภาพ) และสังคม การใช้พลังงานหมุนเวียน การติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียแบบ ไร้อากาศ การติดตั้งหม้อไอน้ำแบบไหลทางเดียว รวมถึงมี การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
  • การควบคุมระบบการเก็บข้อมูลที่บันทึกปริมาณของวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ที่ได้ออกมาในกระบวนการผลิต เพื่อทำการประเมินผลกระทบได้อย่างเหมาะสม อาทิ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การสูญเสียอาหาร และขยะอาหาร
การกระจายสินค้า
ไทยเบฟบริหารการกระจายสินค้าและบริการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรับผิดชอบต่อสังคม และลดผลกระทบทางลบต่อสังคม ไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะ
  • รักษาและส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสุดให้แก่ลูกค้า ควบคู่ไปกับการให้บริการอย่างมืออาชีพ
  • ใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ รวมถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อส่งผลดีต่อ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เช่น การควบคุมวินัย ในการขับขี่อย่างปลอดภัยให้แก่พนักงานขับรถ การบริหาร การใช้พลังงานเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้พาหนะพลังงานไฟฟ้าในการขนส่ง
  • รองรับการให้บริการลูกค้าในกลุ่มธุรกิจอาหารในประเทศไทย ด้วยระบบการกระจายสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ
  • ควบคุมด้านสุขอนามัยและจัดทำมาตรการด้านความปลอดภัย เพื่อจัดการกับสถานการณ์การแพร่ระบาดได้อย่างเหมาะสม
การตลาดและการขาย
ไทยเบฟดำเนินการด้านการตลาดและโฆษณาผ่านการสื่อสารที่สะท้อนถึงคุณค่าและการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ และส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภคผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพด้วย
  • การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าโดยส่งเสริมและสนับสนุน เพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวแทนจำหน่าย เช่น การจัดฝึกอบรมหลักสูตร ADEPT (Agent Development Program with ThaiBev) และกิจกรรมส่งเสริมการตลาดออนไลน์ ซึ่งเป็นหนึ่ง ในกลยุทธ์การเติบโตทางธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ Vision 2020 และวิสัยทัศน์ PASSION 2025
  • การสื่อสารและประชาสัมพันธ์ถึงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคและสังคม เช่น โครงการ “Serve Responsibly” ที่มุ่งเน้นการให้บริการผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีความรับผิดชอบ และกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภค พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากผู้บริโภคผ่านช่องทางติดต่อสื่อสารเพื่อนำมาพัฒนาและตอบสนองความต้องการของลูกค้า ให้มากที่สุด
การบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภค
การบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์เป็นขั้นตอนสําคัญของห่วงโซ่คุณค่าโดยไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะ
  • นำวัสดุหรือบรรจุภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ เช่น กล่องกระดาษ ไส้กล่อง ขวดแก้ว กระป๋อง และลังพลาสติก ที่ยังใช้ประโยชน์ได้ กลับมาใช้ ในกระบวนการผลิตอีกครั้ง
  • พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุที่สามารถใช้ซ้ำหรือนํากลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดปริมาณขยะหลังการบริโภค ให้สอดคล้องกับหลักการ และระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)