TH
EN
การพัฒนาที่ยั่งยืน
×
SEARCH
SEARCH
⚲
หน้าแรก
การพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยเบฟ
สิ่งแวดล้อม
สังคม
ธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ
ดาวน์โหลด
รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน 2562
แนวทางการพัฒนาความยั่งยืน
ของไทยเบฟ
ใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม
แบ่งปันคุณค่าให้คนทั่วโลก
ใส่ใจดูแลบุคลากร ลูกค้า
และผู้บริโภค
แนวทางการพัฒนาความยั่งยืน
สารจากกรรมการผู้อำนวยการใหญ่
สารจากคณะกรรมการ
เกี่ยวกับรายงานฉบับนี้
เกี่ยวกับไทยเบฟ
ตัวเลขชี้วัดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน
ความสำเร็จด้านความยั่งยืนที่สำคัญในปี 2562
ห่วงโซ่คุณค่าของไทยเบฟ
แนวทางการพัฒนาความยั่งยืนของไทยเบฟ
โครงสร้างการพัฒนาความยั่งยืนของไทยเบฟ
การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
การบริหารความเสี่ยง
ใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม
การจัดการดูแลผลกระทบที่เกิดจากธุรกิจ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การจัดหาอย่างยั่งยืน
การพิทักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำ
การจัดการของเสีย
บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก
การจัดการด้านพลังงาน
แบ่งปันคุณค่าให้คนทั่วโลก
การดูแลและแบ่งปัน การสร้างคุณค่าให้แก่สังคม
การพัฒนาด้านการศึกษา
การพัฒนาด้านสาธารณสุข
การพัฒนาด้านกีฬา
การอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ
การพัฒนาชุมชนและสังคม
โครงการประชารัฐรักสามัคคี
ใส่ใจดูแลบุคลากร ลูกค้า และผู้บริโภค
การส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค
การบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า
โอกาสไร้ขีดจำกัด
ความปลอดภัย อาชีวอนามัย สภาพแวดล้อมในการทำงานและความสุขของพนักงาน
สิทธิมนุษยชน
การกำกับดูแล และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
สรุปประสิทธิภาพการดำเนินงาน
Close
หน้าแรก
/ รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน 2562 /
ใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม
การจัดการด้านพลังงาน
GRI 302-1, GRI 302-3, GRI 302-4, GRI 302-5
ไทยเบฟส่งเสริมการดำเนินการที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยมีเป้าหมายที่จะลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มการใช้พลังงานทางเลือกหรือพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันโลกของเรามีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากภาวะเรือนกระจกซึ่งเกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ทำให้เกิดพลังงานความร้อนสะสมในบรรยากาศของโลกมากที่สุด
ไทยเบฟจึงได้พัฒนาเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตเพื่อใช้พลังงานทดแทนเป็นพลังงานหลัก ตลอดจนสร้างจิตสำนึกให้พนักงานมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการสนับสนุนการดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น การใช้พลังงานทดแทนจากเซลล์แสงอาทิตย์ และการนำผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตมาเป็น เชื้อเพลิงสำหรับการผลิต
โครงการทวนสอบการใช้พลังงาน ขององค์กร (Energy Audit)
เป็นโครงการขององค์กรเพื่อประเมินการใช้พลังงานของแต่ละกิจกรรมที่เกิดขึ้น และหาความเป็นไปได้ที่จะลดการใช้พลังงานผ่านการใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่เหมาะสมหรือใช้พลังงานทดแทนอื่น ๆ แล้วนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด จากโครงการดังกล่าวทำให้โรงงานสามารถลดการใช้พลังงานและนำนวัตกรรมมาใช้ ตัวอย่างเช่น กลุ่มธุรกิจเบียร์และสุราทำการติดตั้งหม้อไอน้ำแบบไหลทางเดียว (Once Through Boiler) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดการใช้เชื้อเพลิงที่ใช้แล้วหมดไป โดยกลุ่มธุรกิจเบียร์สามารถลดการใช้ถ่านหิน 428 ตันต่อปี ทำให้ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง 702 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และกลุ่มธุรกิจสุราสามารถลดการใช้น้ำมันเตา 280,823 ลิตรต่อปี ส่งผลให้ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง 836 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจเบียร์ได้จัดทำโครงการใช้มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง จุดประสงค์เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ทำให้ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ 150,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ต่อปี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 87.3 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
โครงการผลิตไฟฟ้าจากแผงพลังงานเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Rooftop)
เป็นโครงการติดตั้งแผงพลังงานจากเซลล์แสงอาทิตย์บริเวณหลังคาอาคารเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับโรงงานในประเทศรวม 27 แห่ง และโรงงานประเทศเมียนมา 1 แห่ง โดยการติดตั้งจะแล้วเสร็จในปี 2568 รวมกำลังการผลิตทั้งสิ้น 20 เมกะวัตต์ (MWp) สามารถลดการซื้อพลังงานไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 26,000 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) ต่อปี และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 12,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ทั้งนี้คาดว่าจะลดการซื้อพลังงานไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ถึง 96,200,000 บาท
โครงการก่อตั้งโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biogas)
เป็นโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biogas) เพิ่มเติมอีก 2 แห่งที่โรงงานสุราจังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดหนองคาย จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 5 แห่ง คือ โรงงานสุราจังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดสุราษฎร์ธานี จุดประสงค์เพื่อนำผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตมาใช้เป็นพลังงานทดแทน โดยการนำน้ำกากส่าซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้จากกระบวนการกลั่นสุรามาผลิตก๊าซชีวภาพ เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันเตาในการผลิตไอน้ำสำหรับโรงงานสุรา
ซึ่งสามารถลดการใช้น้ำมันเตาเฉลี่ย 2 ล้านลิตรต่อโรงงานต่อปี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นปริมาณโรงงานละ 38,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และนำก๊าซชีวภาพส่วนที่เหลือใช้จากโรงงานมาผลิตพลังงานไฟฟ้าจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
แบ่งปันคุณค่า
คุณพิเชษ เชษฐาพงศาพันธุ์
ผู้อำนวยการฝ่ายโรงงาน
บริษัท คอสมอส บริวเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด
แผนพัฒนาการใช้พลังงานและลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นอย่างไร
“ปัจจุบันกลุ่มโรงงานเบียร์มีการวางแผนลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของไทยเบฟในปี 2568 โดยเฉพาะการจัดการพลังงานทดแทนที่สามารถหมุนเวียนนำกลับมาใช้ได้ใหม่มากขึ้น โดยจัดสรรงบประมาณในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์แทนพลังงานไฟฟ้า และใช้พลังงานชีวภาพที่ได้จากระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อทดแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น การติดตั้งหม้อไอน้ำแบบไหลทางเดียว (Once Through Boiler) และวางแผนการใช้พลังงานให้สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต คือ ลดการใช้พลังงานมากเกินความจำเป็น พัฒนาเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพสูงอัตราการใช้พลังงานให้ต่ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้เครื่องจักรในการนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการหมักนำกลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิต (CO2 Recovery Plant) ที่สามารถมาช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและสามารถนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กลับมาใช้ในกระบวนการผลิตได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และแผนงานที่สำคัญที่สุดคือ การอบรมให้ความรู้กับพนักงานมากขึ้น เพื่อมีส่วนร่วมในการใช้พลังงานอย่างประหยัดมีคุณค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด
ภายในกลุ่มโรงงานเบียร์มีการรณรงค์ลดการใช้และศึกษาโอกาสในการยกเลิกการใช้พลาสติก โดยจัดทำแผนเลิกใช้พลาสติกภายในโรงงาน เช่น ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ผสมสารอ็อกโซ่ (OXO-degradable) ไมโครบีดส์ (Microbeads) หลอดพลาสติก และกล่องโฟม ซึ่งมีการเก็บข้อมูลติดตามผลอย่างต่อเนื่อง”
ความสำเร็จด้านการจัดการพลังงาน
7%
การลดอัตราส่วน ในการใช้พลังงาน ต่อหน่วยผลิตภัณฑ์
เปรียบเทียบกับปีฐาน 2557
244.89
เมกะจูลต่อเฮกโตลิตร
อัตราการใช้พลังงาน ต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ ของธุรกิจเครื่องดื่ม
6.93
เมกะจูลต่อกิโลกรัม
อัตราการใช้พลังงาน ต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ ของธุรกิจอาหาร
อัตราการใช้พลังงานหมุนเวียน พลังงานสิ้นเปลือง และพลังงานทั้งหมด
ตั้งแต่ปี 2559 ถึง 2562 (ธุรกิจเครื่องดื่ม)
การใช้พลังงานสิ้นเปลือง
การใช้พลังงานหมุนเวียน
หมายเหตุ :
แสดงอัตราการใช้พลังงานของธุรกิจเครื่องดื่มในประเทศไทย
อัตราการใช้พลังงานทั้งหมดของไทยเบฟรวมต่างประเทศปี 2562 คือ 244.89 เมกะจูลต่อหน่วยผลิตภัณฑ์
เป้าหมายปี 2563 ลดอัตราส่วนการใช้พลังงานต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ 5% เมื่อเทียบกับปีฐาน 2557
อัตราการใช้พลังงานหมุนเวียน พลังงานสิ้นเปลือง และพลังงานทั้งหมด
ปี 2560 ถึง 2562 (ธุรกิจอาหาร)
สัดส่วนการใช้พลังงานสิ้นเปลือง
สัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน*
ทิศทางการดำเนินงาน
การใช้พลังงาน เป้าหมายปี 2563
5%
เป้าหมายการลดอัตราส่วน การใช้พลังงานต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ ลงภายในปี 2563
เปรียบเทียบกับปีฐาน 2557
©สงวนลิขสิทธิ์ 2567 บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)