รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน 2562

Close
หน้าแรก / รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน 2562 / แบ่งปันคุณค่าให้คนทั่วโลก
การอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ
คุณค่าของศิลปวัฒนธรรมสามารถเปลี่ยนเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล ตั้งแต่งานหัตถกรรมพื้นบ้านจนถึงชิ้นงานศิลปะชั้นสูง ตั้งแต่วิถีชีวิตในชนบทจนถึงงานเทศกาลประเพณีที่ยิ่งใหญ่ ล้วนสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับผู้คนในหลายระดับ รวมถึงสร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับประเทศด้วย สำหรับประเทศไทย ที่ได้รับการยอมรับให้เป็นจุดหมายเพื่อการท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของภูมิภาคเอเชีย มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนปีละกว่า 30 ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่าปีละ 2 ล้านล้านบาท

จากการศึกษาวิจัยพบว่าประมาณร้อยละ 30 ของรายได้เกิดจากสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับศิลปวัฒนธรรมของไทย เช่น งานเทศกาลประเพณีประจำปีในแต่ละภูมิภาค งานมหกรรมทางศิลปะ หรือการซื้อของที่ระลึกและงานศิลปหัตถกรรม เป็นต้น

เพื่อส่งเสริมให้คนในสังคมได้เรียนรู้และตระหนักถึงคุณค่าด้านศิลปวัฒนธรรม ไทยเบฟมีความมุ่งมั่นที่จะสืบสานและเผยแพร่ความเป็นไทยออกสู่สากล ภายใต้กลยุทธ์ 3 ประการ คือ ส่งเสริม “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” ประสาน เสริมสร้าง “ภาพลักษณ์” ให้กับองค์กร “ความร่วมมือ” ทั้งภาครัฐและเอกชน และทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และประเทศชาติโดยรวม


วันที่ 7-9 มีนาคม 2562 คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี ไวยาวัจกร วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร กรรมการมูลนิธิสิริวัฒนภักดี ติดตามพระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ประธานสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก เป็นผู้แทนเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก เข้าประชุมผู้นำศาสนานานาชาติในหัวข้อเรื่อง “ศาสนากับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Religion and Sustainable Development Goals)” ณ นครรัฐวาติกัน

เนื่องจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกจะทรงเสด็จเยือนประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน 2562 และในการนี้ ท่านจะทรงประกอบพิธีมิสซาท่ามกลางคริสต์ศาสนิกชนโรมันคาทอลิกในประเทศไทย กว่า 50,000 คน ซึ่งไทยเบฟได้เข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว

นอกจากนี้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ รีไซเคิล จำกัด (TBR) อาสาที่จะเข้าร่วมโครงการลดพลาสติก (Less Plastic Thailand) โดยให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะ พร้อมทั้งติดตั้งถังเก็บขวดน้ำดื่มพลาสติก และมีพนักงานของบริษัทเข้าร่วมการรณรงค์คัดแยกขยะภายในงาน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายในด้านการลดขยะพลาสติกของประเทศไทย
การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy)
คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานมูลนิธิบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ รับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “สุดยอดวัฒนธรรมสร้างสรรค์แห่งปี 2561” ประเภทเหตุการณ์สำคัญแห่งปี โดยรับมอบจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2561 ณ ทำเนียบรัฐบาล
คือการสร้างสรรค์ด้านศิลปวัฒนธรรม เพื่อเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ให้แก่ศิลปิน ชุมชน สังคม และประเทศ ผ่านกิจกรรมและโครงการ ดังนี้
เทศกาลบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ (Bangkok Art Biennale) 2018

การเปิดตัวภัณฑารักษ์แห่งงาน บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2020 (BAB 2020) แนวคิด “ESCAPE ROUTES” หรือ “ศิลป์สร้าง ทางสุข” ณ อาคารหอศิลป์ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ (BAB BOX @ One Bangkok)
เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018 (Bangkok Art Biennale 2018 หรือ BAB 2018) นั้นเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์และประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของวงการศิลปะร่วมสมัยของประเทศไทย ที่ศิลปินจาก 34 ประเทศได้นำผลงานศิลปะจากทั่วโลกมากกว่า 200 ชิ้น มาจัดแสดงในสถานที่สำคัญ 20 แห่งทั่วกรุงเทพฯ สร้างความสุขให้สะพรั่งทั่วกรุงเทพมหานคร โดยบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018 ที่ผ่านมา ไทยเบฟให้การสนับสนุนโครงการศิลปะระดับโลก ซึ่งมีระยะเวลาการจัดงานประมาณ 4 เดือน
ความสำเร็จของงาน บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018


เม็ดเงินลงทุนกว่า 200 ล้านบาท

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผสานความร่วมมือครั้งสำคัญกับ ภาครัฐ เครือข่ายพันธมิตร บริษัท (มหาชน) ห้างร้าน ภาคส่วนอื่น ๆ


กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว

ของประเทศไทย สร้างเงินสะพัดกว่า 4,500 ล้านบาท


นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ
เข้าชมงานกว่า 3 ล้านคน
แบ่งเป็น

  • นักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.44 ล้านคน
  • คณะเอกอัครราชทูต ทูตวัฒนธรรม และครอบครัว จากกว่า 20 ประเทศ
  • หน่วยงานศิลปะ สมาคม โรงแรม พิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี ศิลปินจากทั่วโลก

ผู้เข้าชมงาน BAB 2018 มากกว่า 260,000 คน

ผู้เข้าชมเดือนตุลาคม 2561 ถึงปลายเดือนมกราคม 2562 ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

มีสถาบันการศึกษา มากกว่า 80 สถาบัน ที่ขอเข้าเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะ

ผู้เข้าชมงานศิลปะทั้ง 20 สถานที่ จัดแสดงผลงาน เฉลี่ยแล้วมากกว่า 45,000 คน/วัน

ผลตอบรับจากสื่อประชาสัมพันธ์ทั้งไทยและต่างประเทศที่มีต่องานบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ (Bangkok Art Biennale) ได้การตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก
ผู้เข้าชมรวมทั้ง 3 วัด
เฉลี่ยมากกว่า 11,000 คน/วัน
รวมนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ
เฉพาะชาวต่างชาติเฉลี่ยมากกว่า 6,000 คน/วัน

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
มีจํานวนนักท่องเที่ยว
255,278 คน
ตลอดงาน
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
มีจํานวนนักท่องเที่ยว
364,060 คน
ตลอดงาน
วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
มีจํานวนนักท่องเที่ยว
55,808 คน
ตลอดงาน

47.2 ล้านคน
ทั่วโลก พบเห็นข่าวสารทาง สื่อสังคมออนไลน์
ได้รับการพูดถึงใน สื่อสังคมออนไลน์ ถึง
16 ล้านคน*
Top 10
ของการจัดอันดับ
ART ASIA PACIFIC ALMANAC 2019

**ยังไม่นับยอดรวมของกลุ่มคนที่มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ หรือ Influencer
จัดโดย Art Asia Pacific Magazine (AAP)

กลุ่มเยาวชนเข้าชมและร่วมทำเวิร์กชอปศิลปะ ณ อาคารหอศิลป์ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ (BAB BOX @ One Bangkok)

คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานมูลนิธิบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ มอบของที่ระลึก เนื่องในโอกาสได้รับเชิญจากคุณลุยจิ บรุนญาโร นายกเทศมนตรีนครเวนิส ในโอกาสได้ รับเชิญให้เข้าพบเพื่อแลกเปลี่ยนงานระหว่างไทยกับอิตาลี และร่วมชมเทศกาลแข่งเรือพาย ประจำปีของนครเวนิส เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2562 ณ ประเทศอิตาลี

ทั้งนี้ ในปี 2020 เทศกาล BAB จะกลับมาด้วยแนวคิดหลักสุดท้าย “Escape Routes” หรือ “ศิลป์สร้าง ทางสุข” ศิลปะจากศิลปินไทยและศิลปินระดับนานาชาติ ครั้งนี้เข้มข้นและพิเศษยิ่งขึ้นที่ยังคงเอกลักษณ์จัดแสดงผลงานศิลปะบนพื้นที่หลากหลาย ทั้งอาคารประวัติศาสตร์ อีสต์ เอเชียติก พื้นที่มรดกทางวัฒนธรรมอย่างวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร พื้นที่ศิลปะ BAB BOX โครงการ One Bangkok หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ


คณะหมูป่าอคาเดมี่ จากจังหวัดเชียงราย เยี่ยมชมงานศิลปะในโครงการ Bangkok Art Biennale 2018 ณ อาคารหอศิลป์ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ (BAB BOX @ One Bangkok)
แบ่งปันคุณค่า
ศาสตราจารย์ ดร.อภินันท์ โปษยานนท์
ประธานอำนวยการและผู้อำนวยการศิลป์
บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่
“BAB 2018” คุณค่าที่สร้างให้กับวงการศิลปะในประเทศไทย
“ไทยเบฟให้ความสำคัญกับการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งพันธกิจสำคัญที่จะช่วยกันบอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก และเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมายังประเทศไทย โครงการ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018 จึงเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของกรุงเทพฯ ในวงการศิลปะร่วมสมัยในประเทศไทย ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งจากกลุ่มศิลปิน ประชาชน และนักท่องเที่ยวผู้ที่รักงานศิลปะ

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากการผสานความร่วมมือร่วมใจของเครือข่ายพันธมิตรทุกภาคส่วน ซึ่งต้องขอขอบคุณที่รวมพลังกันผลักดันให้ประเทศของเราถูกขนานนามให้เป็นศูนย์กลางแห่งเมืองศิลปวัฒนธรรมระดับโลก”
สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย (River Festival)

งานแถลงข่าว “River Festival 2018 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ครั้งที่ 5” แนวคิด “เสียงสุขแห่งสายน้ำ” เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2562
ไทยเบฟริเริ่มการจัดงาน “สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” (River Festival) เทศกาลวัฒนธรรมร่วมสมัย และมหกรรมลอยกระทงบนโค้งน้ำที่ยาวที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 6 ปี โดยครั้งแรกเมื่อปี 2557 และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย วัดพระเชตุพน-วิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ ล้ง 1919 ไอคอนสยาม กลุ่มโรงแรมริมแม่น้ำ เรือด่วนเจ้าพระยา รวมไปถึงพันธมิตรอีกหลายภาคส่วน ร่วมกันสืบสาน เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามของไทยไปทั่วโลก ยังคงสานต่อความสำเร็จของอีกสองโครงการเพื่อความยั่งยืน โดยจัดโครงการ “คลีนคลอง” และโครงการ “เยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม” ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จากผลสำรวจในแต่ละปีพบว่าความพึงพอใจของผู้ที่มาเที่ยวงานเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลสำรวจเกือบร้อยละ 90 ของผู้ให้สัมภาษณ์ที่เป็นคนไทยเห็นด้วยว่า งานที่จัดขึ้นนี้เป็นการถ่ายทอดวัฒนธรรมแบบร่วมสมัย ถือเป็นงานที่สืบสานประเพณีลอยกระทงอันดีงาม คิดเป็นร้อยละ 98-100 ทำให้คนไทยรู้จักกรุงเทพฯ ในมุมใหม่ที่ไม่เคยเห็น เรียกว่าเป็นงานที่สื่อถึงวิถีไทย พร้อมทั้งช่วยสร้างความยั่งยืนในเชิงวัฒนธรรมและก่อเกิดประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม

นอกจากนี้ สายน้ำแห่งวัฒนธรรม 2562 สามารถตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของงานได้ดีมากในทุกเรื่อง อาทิ บรรยากาศในงานทำให้เพลิดเพลิน ไม่รู้สึกเบื่อ ได้คะแนนความพึงพอใจร้อยละ 98 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับปี 2560) บรรยากาศภายในงานทำให้รู้สึกน่าจดจำ ได้คะแนนร้อยละ 96 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 31 เมื่อเทียบกับปี 2560) ภายในงานมีการจัดกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกอยากเข้าร่วม ได้คะแนนร้อยละ 93 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 เมื่อเทียบกับปี 2560) ความพึงพอใจโดยรวมของงาน ได้คะแนนร้อยละ 97 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับปี 2560) และก่อให้เกิดรายได้สู่ชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร คิดเป็นมูลค่า 2.66 ล้านบาท ความคาดหวังการจัดงานครั้งต่อไปจะเป็นการขยายผลไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน โดยเลือกประเทศที่มีวัฒนธรรมประเพณีลอยกระทงเช่นเดียวกัน
แบ่งปันคุณค่า
คุณสุรพล เศวตเศรนี
อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
งานส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม กับการขับเคลื่อนผลักดันด้านเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาประเทศ
“แม้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทอย่างมากในปัจจุบัน แต่คนก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องศิลปวัฒนธรรม เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตอบสนองความต้องการทางอารมณ์และจิตใจ

ด้วยเหตุนี้ คุณค่าของศิลปวัฒนธรรมจึงสามารถเปลี่ยนเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล ตั้งแต่งานหัตถกรรมพื้นบ้านจนถึงชิ้นงานศิลปะชั้นสูง ตั้งแต่วิถีชีวิตในชนบทจนถึงงานเทศกาลประเพณีที่ยิ่งใหญ่ ล้วนสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ สร้างอาชีพ ให้กับผู้คนในหลายระดับ รวมทั้งสร้างชื่อเสียง เกียรติภูมิและความภาคภูมิใจให้กับประเทศด้วย หลายประเทศมีการบริหารจัดการต้นทุนทางศิลปะและวัฒนธรรมทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ โดยผ่านช่องทางของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และยังมีมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมอีกมากมายของศิลปวัฒนธรรม เช่น การใช้ศิลปวัฒนธรรมเป็นพลังอ่อน (Soft Power) ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การสร้างการยอมรับในระดับสากล การเปิดช่องทางทางการค้าและการลงทุน หรือการใช้ทรัพยากรทางวัฒนธรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาให้เป็นที่ยอมรับสามารถเข้าสู่ตลาดระดับนานาชาติได้”
เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย (Water Festival 2019)

บรรยากาศงาน “เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” (Water Festival 2019) แนวคิด “อยู่เย็น เป็นสุข” ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2562
ไทยเบฟจัดงาน “เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” (Water Festival 2019) อย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 โดยร่วมมือกับกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน (ASEAN Chairmanship 2019) งาน “เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” (Water Festival 2019) ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมใหญ่ที่จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนนโยบายภาครัฐ ให้ประเทศไทยได้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมเพื่อบอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก สอดคล้องกับแนวคิดของปีวัฒนธรรมแห่งอาเซียน (ASEAN Cultural Year 2019) คือ มีความหลากหลาย สร้างสรรค์ ยั่งยืน (Diversity, Creativity, Sustainability) ให้ได้รับการบรรจุเป็นส่วนหนึ่งของปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียนของประเทศไทย พ.ศ. 2562 (ASEAN Cultural Year 2019) ซึ่งถือเป็นมรดกร่วมทางวัฒนธรรมของหลายชาติอาเซียน เพื่อนำไปสู่การส่งเสริมความร่วมมือในกรอบอื่น ๆ ของภูมิภาคอาเซียนได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

จากการจัดงานเทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย ที่ผ่านมา พบว่าได้รับความพึงพอใจจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยพื้นที่กรุงเทพมหานครและภูเก็ต ได้รับความพึงพอใจดีกว่าค่ามาตรฐาน ในขณะที่เชียงใหม่และอุดรธานีมีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง กลุ่มผู้เข้าร่วมงานเกือบครึ่งหนึ่งมาเที่ยวกันเป็นครอบครัว รองลงมาเป็นกลุ่มเพื่อนฝูง และด้วยความประทับใจของผู้ที่เข้าร่วมงาน ทำให้แนวโน้มการเข้าร่วมงานในปีต่อมามีโอกาสสูงถึงร้อยละ 81 ซึ่งมาจากกรุงเทพมหานคร ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และภูเก็ต ในขณะที่เชียงใหม่และอุดรธานีมีแนวโน้มคนเข้าร่วมงานน้อยลง และก่อให้เกิดรายได้สู่ชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร คิดเป็นมูลค่า 1.13 ล้านบาท ความคาดหวังการจัดงานครั้งต่อไปจะเป็นการขยายผลไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน โดยเลือกประเทศที่มีวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์เช่นเดียวกัน
นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “สวัสดีปีจอหมา มาคอยท่าปีกุนหมู” เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2561 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
จัดอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 13 ปี ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยในปี 2561 ถูกจัดขึ้นในชื่อ นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “สวัสดีปีจอหมา มาคอยท่าปีกุนหมู”

ภาพลักษณ์องค์กร
ไทยเบฟสนับสนุนนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี หรือการร่วมออกร้านฉายานิติกร ในงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ประจำปี 2561 รวมถึงการสนับสนุนหรือส่งเสริมให้มีพื้นที่แสดงออกถึงความสามารถบนเวทีการแสดง เช่น การประกวดบรรเลงดนตรีไทยศรทอง และการแข่งขันต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการพัฒนา แลกเปลี่ยน เรียนรู้สู่ระดับนานาชาติ

นอกจากนี้ยังได้ให้การสนับสนุนคณะนักร้องประสานเสียงสวนพลู เข้าร่วมการแข่งขัน Llangollen International Musical Eisteddfod 2019 ซึ่งได้รับ “รางวัลชนะเลิศอันดับ 1” ด้วยคะแนนสูงสุดของสาขา Open Category Choir เป็นต้น
โครงการประกวดศิลปกรรมช้างเผือก

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดนิทรรศการศิลปกรรมช้างเผือก และทรงวาดภาพฝีพระหัตถ์พระราชทาน เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2562 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
เพื่อส่งเสริมแนวทางศิลปะในเชิงเสมือนจริงและศิลปะรูปลักษณ์ และให้การสนับสนุนศิลปินในแนวทางดังกล่าวได้มีเวทีในการแสดงความสามารถเป็นการเฉพาะ ซึ่งรางวัลชนะเลิศของโครงการประกวดศิลปกรรมช้างเผือกสูงถึง 1 ล้านบาท โดยในปี 2562 ได้ดำเนินโครงการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 8 ภายใต้แนวคิด “รื่นเริง เถลิงศก”
งานอุ่นไอรักคลายความหนาว

จัดขึ้นตามที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริที่จะให้ประชาชนได้มีความสุข ความรื่นเริง และรำลึกถึงวิถีชีวิตที่ผ่านมา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไทยเบฟได้ออกร้านจำหน่ายสินค้าในโครงการประชารัฐรักสามัคคี และห้องภาพ “ฉายานิติกร” ให้บริการถ่ายภาพย้อนยุคแก่ผู้ที่มาเที่ยวชมงาน ซึ่งได้ร่วมในกิจกรรมดังกล่าวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
สนับสนุนนิทรรศการภาพถ่ายเฉลิมพระเกียรติ โดยเครือข่ายช่างภาพเยาวชนจิตอาสา


ไทยเบฟให้การสนับสนุนการจัดนิทรรศการภาพถ่ายเฉลิมพระเกียรติ “สยามนิทรรศน์วัฒนา บรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562” โดยเป็นนิทรรศการที่จัดแสดงภาพถ่าย จำนวน 86 ภาพ จากเครือข่ายช่างภาพเยาวชนจิตอาสา ที่เข้าร่วมถ่ายภาพในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในระหว่างวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 27-28 กรกฎาคม และ 10-11 สิงหาคม 2562 ณ อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนินกลาง
สนับสนุนหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร


ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 12 ปี หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร มีพันธกิจหลักในการที่จะสนับสนุน เสริมสร้าง เผยแพร่ผลงานด้านศิลปวัฒนธรรม เพื่อสร้างองค์ความรู้อันหลากหลาย สร้างความยั่งยืนต่อสังคม และบริหารองค์กรมุ่งสู่ความเป็นเลิศในระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับไทยเบฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญในการใช้ศิลปวัฒนธรรม เพื่อเป็นสื่อกลางลงไปสู่กลุ่มเด็กและเยาวชน รวมไปถึงครู หรือวิทยากรผู้สอนศิลปะ ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น โครงการ “พาน้องท่องหอศิลปกรุงเทพฯ” กิจกรรมทัศนศึกษาเพื่อการเรียนรู้สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย-มัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อให้เยาวชนได้ใช้พื้นที่นิทรรศการในการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่มุ่งเน้นการให้ความรู้และฝึกทักษะทางศิลปะในบรรยากาศที่เหมาะสม ตามการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนและเรียนรู้ โดยในปี 2562 นี้

โครงการ “พาน้องท่องหอศิลปกรุงเทพฯ” จัดกิจกรรมภายใต้แนวคิดการเรียนรู้เกี่ยวกับความหลากหลาย และการต่อต้านการกลั่นแกล้งโดยบูรณาการเนื้อหาจากนิทรรศการ “ศิลปะแห่งเหตุปัจจัยและการบำบัด” (Art of Element and Therapy) รวมไปถึงโครงการอบรมครู (Workshop for Teachers) เป็นโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ โดยใช้พิพิธภัณฑ์เป็นฐานการเรียนรู้ (Museum-based Learning)
แบ่งปันคุณค่า
คุณนิติกร กรัยวิเชียร
ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม
นโยบายการดำเนินงานและวางแผนงานศิลปวัฒนธรรมของไทยเบฟ
“ไทยเบฟทำงานด้านการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมอย่างกว้างขวางให้กับสังคมโดยรวม เราเห็นว่างานด้านศิลปวัฒนธรรมเป็นสิ่งสำคัญ เป็นรากฐานของชาติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นชาตินั้น ๆ และสามารถเชื่อมโยงไปสู่การแลกเปลี่ยน เกิดเป็นความร่วมมือกันด้านศิลปวัฒนธรรม เพื่อขยายผลด้านสังคม และเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ โดยผ่านการร่วมมือในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์

ทั้งนี้ การทำงานตามแนวทางและความตั้งใจของเราจะเป็นภาพสะท้อนถึงปณิธานของไทยเบฟว่างานด้านศิลปวัฒนธรรมเป็นพันธกิจและภารกิจสำคัญที่เราให้ความสำคัญตลอดมา”
สนับสนุนทุนการศึกษา วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล


ไทยเบฟให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นวิทยาลัยดนตรีที่มีฐานะเทียบเท่าคณะหนึ่งในกำกับของมหาวิทยาลัยมหิดล เปิดสอนวิชาเกี่ยวกับดนตรีโดยเฉพาะ ตั้งแต่ระดับเตรียมอุดมดนตรี (ม. 4 - ม. 6) จนถึงระดับปริญญาเอก โดยเป็นสถาบันเดียวในประเทศที่เปิดสอนวิชาดนตรีในระดับปริญญาเอก มีอาจารย์ที่ชำนาญในเครื่องดนตรีแต่ละชนิดโดยเฉพาะ เป็นสถาบันเดียวในประเทศที่เปิดสอนทั้งด้านแนวเพลงไทยและแนวเพลงสากล

ไทยเบฟส่งเสริมเยาวชนไทยให้ได้มีโอกาสในการพัฒนาความรู้ความสามารถด้านดนตรี โดยให้ทุนสนับสนุนแก่วิทยาลัยปีละ 1 ล้านบาท ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน เพื่อจัดสรรให้แก่เยาวชนที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาของคณะกรรมการวิทยาลัย ให้ได้รับทุนดังกล่าวเพื่อนำไปแข่งขันหรือฝึกอบรมในต่างประเทศ
สนับสนุนวงดนตรี Thailand Philharmonic Orchestra (TPO)


ไทยเบฟให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 จนถึงการแสดงฤดูกาลที่ 14 ซึ่งได้จบลงในเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวงออร์เคสตราที่ได้ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเป็นวงซิมโฟนิค มืออาชีพในประเทศไทย ให้มีผลงานในระดับนานาชาติ สามารถเดินทางไปแสดงในนานาประเทศได้ โดยมีผู้ควบคุมวงดนตรีรับเชิญและนักดนตรีรับเชิญในระดับนานาชาติเดินทางมาร่วมแสดง เพื่อพัฒนาวงให้มีศักยภาพระดับนานาชาติ
สนับสนุนสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์


ไทยเบฟได้ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 โดยร่วมกันทำกิจกรรมที่ส่งเสริมและเป็นประโยชน์ต่อวงการภาพถ่าย ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี การประกวดภาพถ่าย “ช้าง ไฟน์อาร์ต อินเตอร์เนชั่นแนล โฟโต คอนเทสต์ : Chang Fine Art International Photo Contest” ซึ่งจัดอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 ในหัวข้อ “มายา : Illusion” โครงการ RPST YOURS Campus ซึ่งได้ร่วมกับมูลนิธิส่งเสริมการถ่ายภาพ และโครงการ EISA (Educational Institute Support Activity) ของไทยเบฟ ในการทำกิจกรรมประกวดภาพถ่าย One Shot Knock Out ซึ่งได้ริเริ่มร่วมกัน จนปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงการประกวดภาพถ่าย
สนับสนุนกลุ่ม Bangkok Sketcher

กิจกรรมซี อาเซียน สเก็ตกัน 2562 ณ ศูนย์ ซี อาเซียน ถนนรัชดาภิเษก

ในปี 2562 ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมซี อาเซียน- สเก็ตกัน 2019 เพื่อจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนให้ความรู้ โดยเป็นกิจกรรมที่จะเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านศิลปะกับกลุ่มศิลปะอื่น ๆ ทั้งในและต่างประเทศ อันมีหลักการและเหตุผลอันเนื่องมาจากปัจจุบัน ความสนใจในด้านศิลปะของบุคคลทั่วไปเพิ่มมากขึ้น ทั้งการวาดภาพบนกระดาษและวาดในระบบดิจิทัล ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อเป็นการบันทึกเรื่องราว หรือเป็นกิจกรรมสันทนาการ
สนับสนุนคณะนักร้องประสานเสียงสวนพลู


ไทยเบฟให้การสนับสนุนการประกวดบรรเลงดนตรีไทยศรทอง ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ครั้งที่ 2 พุทธศักราช 2561 การประกวดฯ แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ใน 6 ประเภทเครื่องดนตรี คือ ซอด้วง ซออู้ จะเข้ ขลุ่ยเพียงออ ขิมสาย และระนาดเอก

โดยในปี 2561-2562 มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวด จำนวน 1,641 คน (ระดับประถมศึกษา 589 คน ระดับมัธยมศึกษา 1,043 คน) จาก 397 สถานศึกษา 54 จังหวัด จากทั่วประเทศ
โครงการกิจกรรมการประกวดบรรเลงดนตรีไทย มูลนิธิหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)


พิธีมอบรางวัล การประกวดดนตรีไทยศรทอง ชิงถ้วยพระราชทาน ครั้งที่ 2 พุทธศักราช 2561 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2562 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ไทยเบฟให้การสนับสนุนการประกวดบรรเลงดนตรีไทยศรทอง ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ครั้งที่ 2 พุทธศักราช 2561 การประกวดฯ แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ใน 6 ประเภทเครื่องดนตรี คือ ซอด้วง ซออู้ จะเข้ ขลุ่ยเพียงออ ขิมสาย และระนาดเอก

โดยในปี 2561-2562 มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวด จำนวน 1,641 คน (ระดับประถมศึกษา 589 คน ระดับมัธยมศึกษา 1,043 คน) จาก 397 สถานศึกษา 54 จังหวัด จากทั่วประเทศ
แบ่งปันคุณค่า
คุณอัษฎาวุธ สาคริก
เลขาธิการมูลนิธิหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)
แนวคิดในการทำโครงการด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของมูลนิธิ
“มูลนิธิหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปะบรรเลง) ใช้ดนตรีเป็นสื่อในการเชื่อมโยงศิลปวัฒนธรรมแขนงต่าง ๆ โดยมีจิตอาสาช่วยเหลือ ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เช่น
  • านอนุรักษ์
    จัดทำแหล่งเรียนรู้ ‘เรือนบรรเลง’ พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด ชำระหลักฐานเอกสาร หลักฐานเสียง เพื่อการต่ออายุและสะดวกต่อการค้นคว้า
  • งานสืบสาน
    จัดกิจกรรมการประกวดดนตรีไทยศรทองฯ ค่ายเยาวชนดนตรี เปิดสอนดนตรีแก่บุคคลที่สนใจ จัดการบรรยาย เดินทางให้ความรู้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จัดอบรม สอนดนตรีพัฒนาทักษะให้ผู้สนใจ
  • งานพัฒนาต่อยอด
    โดยจัดทำฐานข้อมูลในการค้นคว้า แปลงข้อมูลเก่าให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล การสร้างสื่อการสอนในรูปแบบต่าง ๆ
นอกจากนั้น มูลนิธิฯ ยังดำเนินโครงการ ‘เพื่อนดนตรี’ เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การลงพื้นที่ยังโรงเรียน ชุมชนต่าง ๆ เพื่อสร้างเครือข่าย สนับสนุน ช่วยเหลือ พึ่งพา และได้เปิดพื้นที่ ‘เรือนบรรเลง’ เพื่อจัดกิจกรรมการแสดง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย”
คุณเอกพงษ์ ลาภโต
ครูโรงเรียนเกาะคาวิทยาคม จังหวัดลำปาง
โครงการเพื่อนดนตรี
“การสนับสนุนอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนของโครงการเพื่อนดนตรีของไทยเบฟ ช่วยพัฒนาการเรียนการสอนดนตรี รวมถึงเพิ่มโอกาสและสร้างประสบการณ์แก่เยาวชนได้อย่างมาก
  • สร้างโอกาสแก่นักเรียนที่รักและสนใจการเล่นดนตรี เปิดโอกาสให้นักเรียนกล้าแสดงออกในกิจกรรมที่เหมาะสม
  • วงดนตรีสากลของโรงเรียนมีเครื่องเสียงที่มีประสิทธิภาพในการแสดงดนตรี ทำให้มีระบบเสียงที่สามารถแสดงกลางแจ้งได้
  • นักดนตรีและนักร้องวงดนตรีสากลของโรงเรียน ได้รับโอกาสให้มีรายได้จากการแสดงดนตรี เป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ
  • นักเรียนโรงเรียนเกาะคาวิทยาคมทุกคนได้รับโอกาสในการเป็นนักดนตรีของโรงเรียน เป็นการสร้างประสบการณ์ให้กับตัวเอง ซึ่งในอนาคตอาจเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงได้
  • นักดนตรีและวงดนตรีของโรงเรียน สร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวเอง ครอบครัว เป็นตัวอย่างที่ดีต่อเยาวชนอื่น ๆ และยังช่วยให้นักเรียนโรงเรียนเกาะคาวิทยาคม ได้ใช้ช่วงเวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติด
  • สามารถรองรับงานและกิจกรรมของโรงเรียน ชุมชนและหน่วยงานต่าง ๆ ได้”
ความร่วมมือ
การร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เกิดการริเริ่มโครงการใหม่ ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านศิลปวัฒนธรรม เช่น โครงการด้านดนตรี หรือการใช้ศิลปะเพื่อบำบัดผู้ป่วย เป็นต้น
วงดนตรี ซี อาเซียน คอนโซแนนท์


ดนตรีเป็นเสมือนทูตแห่งศิลปวัฒนธรรมของภูมิภาคอาเซียนที่สร้างเสริมจิตสำนึกในความเป็นหนึ่งเดียวของภูมิภาคนี้ เชื่อมโยงความรักความเข้าใจของคนในภูมิภาค ซึ่งสะท้อนถึงมิตรภาพที่ไร้ขีดจำกัด และการสืบทอดวัฒนธรรมที่งดงามของอาเซียน ทั้งยังเป็นการถ่ายทอดวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่นอีกด้วย ปี 2562 ซึ่งเป็นปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน วงดนตรี ซี อาเซียน คอนโซแนนท์ ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองในรายการสำคัญ ๆ ดังนี้
  • วันที่ 23 มิถุนายน 2562 ร่วมแสดงในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 34 เพื่อสื่อสารและเผยแพร่ถึงความงดงามทางศิลปวัฒนธรรมอาเซียน ผ่านเสียงดนตรีซึ่งเป็นภาษาเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างคนในภูมิภาค
  • วันที่ 8 สิงหาคม 2562 ได้รับเชิญจากสำนักงานเลขาธิการอาเซียน ในการแสดงในพิธีเปิดอาคารสำนักงานเลขาธิการอาเซียนหลังใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อตอบโจทย์การเป็นศูนย์รวมของอาเซียนและส่งเสริมการรับรู้ร่วมกันเกี่ยวกับอาเซียนโดยรวมมากยิ่งขึ้น พร้อมกับงานเฉลิมฉลองอาเซียนครบรอบ 52 ปี ที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือกันในประชาคมอาเซียนอย่างต่อเนื่อง
แบ่งปันคุณค่า
คุณอานันท์ นาคคง
ผู้อำนวยการเพลง วงดนตรี ซี อาเซียน คอนโซแนนท์
ความคิดเห็นต่อการเกิดขึ้นของวงซี อาเซียน คอนโซแนนท์ ถือได้ว่าเป็นปรากฏการณ์การรวมตัวของนักดนตรีจากแต่ละประเทศ เพื่อร่วมมือกันสร้างสรรค์พัฒนาบทเพลงแห่งอาเซียนและร่วมกันนำไปเผยแพร่สู่นานาอารยประเทศครั้งนี้
“วงซี อาเซียน คอนโซแนนท์ คือ การรวมตัวของคนดนตรีจากต่างภาษา ต่างเผ่าพันธุ์ ต่างวัฒนธรรม ต่างความเชื่อ ต่างวิถีชีวิต ต่างเพศ ต่างวัย และการรวมตัวของเครื่องดนตรีพื้นเมืองในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ครั้งหนึ่งเคยมีจุดกำเนิดร่วมกัน

การรวมตัวสร้างสรรค์ดนตรีในแนวทางของวงซี อาเซียน คอนโซแนนท์ไม่ใช่เพียงแค่การหยิบจับเอาคนดนตรีและเครื่องดนตรีมาจัดวางใหม่ เล่นเพลงสำเนียงแปลกหูแปลกใจสนุกสนานแล้วจบไป แต่เป็นพื้นที่ของการเรียนรู้ที่สำคัญ เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่มีชีวิตชีวามาก เรียนรู้การอยู่ร่วมกันอย่างสันติในความแตกต่างของผู้คน เรียนรู้หัวใจดนตรีอาเซียนตั้งแต่รากเหง้าที่เกี่ยวพันกันไปจนถึงวิธีการสื่อสารกับสังคมที่แตกต่าง ผู้ฟังที่แตกต่าง แม้จะเป็นเพียงวงดนตรีขนาดเล็ก เป็นโลกจำลองของประเทศสมาชิกอาเซียนที่ขับเคลื่อนไปโดยคนรุ่นใหม่ที่ร่วมกันอนุรักษ์และพัฒนาเครื่องดนตรีเก่าแก่ บทเพลง บทกวี ลำนำของบรรพบุรุษ เป็นวงดนตรีที่สร้างผู้ฟังรุ่นใหม่ คนรักเพลงอาเซียน ได้มีความสุขไปกับสีสันดนตรีที่หลากรสของดนตรีอาเซียนมายาวนานถึง 4 ปีแล้ว”
โครงการเพื่อนดนตรี


ไทยเบฟและมูลนิธิหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ได้ร่วมมือกันจัดทำกิจกรรมดำเนินการโครงการในลักษณะของแนวร่วมอาสาสมัครจิตสาธารณะ จากผู้สนับสนุนหน่วยงาน องค์กร สถาบัน บ้าน วัด โรงเรียน บุคคลทั่วไป ที่ให้ความสำคัญในการสร้างโอกาสและการพัฒนาที่เอื้อต่อการศึกษาดนตรีและวัฒนธรรม ในลักษณะของการสร้างเครือข่ายชุมชนที่ยั่งยืน

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนเครื่องดนตรี อุปกรณ์ดนตรี และสื่อการเรียนรู้ แก่หน่วยงาน โรงเรียน ชุมชน ชมรมที่ขาดแคลน โดยการมอบให้ ให้ยืม ซ่อมบำรุง รวมถึงการเผยแพร่ความรู้ทางดนตรีไทย และการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างบรรยากาศของการเรียนรู้และสืบสาน เป็นสื่อกลางสร้างเครือข่ายชุมชนดนตรี มุ่งหวังผลให้เกิดความเข้มแข็ง มีความสามารถในการช่วยเหลือและพึ่งพาตนเองได้ในขั้นพื้นฐาน และสามารถพัฒนาต่อไปได้ในอนาคตเพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรและวัสดุทางวัฒนธรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การซ่อมบำรุงเครื่องดนตรีเก่าหรือชำรุดให้กลับมาใช้งานได้อีก และเพื่อเป็นการสนับสนุนช่างภูมิปัญญา และเยาวชนรุ่นใหม่ สร้างงาน สร้างทักษะ เพื่อพัฒนาเป็นวิชาชีพที่ยั่งยืนต่อไป ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดทั้งปี รวมกว่า 14 กิจกรรม
สนับสนุนนิทรรศการมะเร็ง มาเล็ง
ไทยเบฟ ให้ความสนใจและสนับสนุนแนวคิดศิลปะบำบัด (Art Therapy) จึงได้สนับสนุนนิทรรศการ “มะเร็ง มาเล็ง : Cancer Cancel” โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณพิษณุ ศุภนิมิตร ซึ่งเป็นนิทรรศการที่เกิดจากการใช้ศิลปะบำบัดในช่วงการรักษาโรคมะเร็งตลอด 6 เดือน โดยไทยเบฟได้สนับสนุนการประชาสัมพันธ์นิทรรศการ และเน้นความสำคัญของศิลปะบำบัด ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงนิทรรศการ รวมไปถึงการนำผลงานจากนิทรรศการไปขยายผล หารายได้ผ่านกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกับกลุ่มอาร์ต ฟอร์ แคนเซอร์ (Art for Cancer) ที่ไทยเบฟให้การสนับสนุนงบประมาณทำกิจกรรมเพื่อสังคม สำหรับประโยชน์ต่อผู้ป่วยต่อไป

นอกจากนั้นยังได้ร่วมกับกลุ่มอาร์ต ฟอร์ แคนเซอร์ จัดกิจกรรมกระดานเขียนข้อความในใจจากผู้ป่วยถึงแพทย์ และแพทย์ถึงผู้ป่วย การจำหน่ายของที่ระลึกโดยผู้ป่วยมะเร็ง และเมื่อวันที่ 8-9 สิงหาคม 2562 ได้มีการจัดนิทรรศการมะเร็ง มาเล็ง โดยศาสตราจารย์เกียรติคุณพิษณุ ศุภนิมิตร ซึ่งเป็นงานประชุมวิชาการนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ด้านมะเร็งวิทยา ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์
แบ่งปันคุณค่า
ศาสตราจารย์เกียรติคุณพิษณุ ศุภนิมิตร
อาจารย์ประจำคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์
มหาวิทยาลัยศิลปากร
ประโยชน์ของศิลปะบำบัด ที่ใช้ศิลปะเป็นแนวทางเพื่อการบำบัดผู้ป่วย
“ศิลปะช่วยเราให้มีสมาธิจดจ่อเพ่งเล็งจิตใจอยู่กับการสร้างผลงานชิ้นนั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของเราน้อยลง เมื่อความเครียดน้อยลง ระบบฮอร์โมน หรือระบบกลไกต่าง ๆ ในร่างกาย ก็พร้อมได้รับการรักษาอย่างเต็มที่ ศิลปะในที่นี้เปิดกว้างมาก จะเป็นแขนง หรือสาขาใดก็ได้ ขอแค่ให้ศิลปะที่ทำอยู่นั้นสร้างความสุขให้กับเรา”
สนับสนุนมูลนิธิ อาจารย์สุกรี เจริญสุข


ไทยเบฟได้สนับสนุนมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 โดยกิจกรรมที่ได้ดำเนินการตลอดปี 2562 มีดังนี้ โครงการวิจัยพรสวรรค์ศึกษา โครงการดนตรีเพื่อการพัฒนาเยาวชน กรณีศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิงบ้านปรานี โครงการเด็กภูมิดีด้วยดนตรีพื้นบ้าน กรณีวงดนตรีไทยโรงเรียนวัดลาดทราย โครงการพัฒนาวงดนตรีต้นแบบนำร่อง กรณีโรงเรียนวัดสุวรรณาราม โครงการ Suzuki Early Childhood Education มูลนิธิเด็ก โครงการชุมชนดีมีรอยยิ้ม ปีที่ 8 ร่วมกับไทยเบฟ โครงการดนตรีคลาสสิกเพื่อสังคม โครงการพาน้องชมดนตรี มอบทุนเพื่อการศึกษาดนตรี
ทิศทางการดำเนินงาน
ในการทำงานด้านศิลปะ ไทยเบฟยังคงเดินหน้าสนับสนุนการขับเคลื่อนตามปณิธานภายใต้กลยุทธ์ 3 ประการ คือ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภาพลักษณ์องค์กร และความร่วมมือ
ด้าน “เศรษฐกิจสร้างสรรค์”
สามารถขับเคลื่อนโครงการและกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมสู่แนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ อย่างต่อเนื่องและปรากฏเป็นรูปธรรมเด่นชัดขึ้น เช่น
  • บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2020 และก้าวไปสู่ BAB 2022 โดยมีแผนการขยายกิจกรรมออกไปนอกกรุงเทพฯ มากขึ้น หรือรับสมัครศิลปินเข้าร่วมแสดงงานแบบสาธารณะ เพื่อก่อให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มกับวงการศิลปะของประเทศ รวมไปถึงการสนับสนุนให้คณะนักร้องประสานเสียงสวนพลู จัดตั้งและดำเนินงานไปในแนวทางธุรกิจเพื่อสังคม
  • การบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้ (Waste Management) การนำวัสดุเหลือใช้ ฉลากผลิตภัณฑ์ มาสร้างสรรค์เป็นชิ้นงานศิลปะ โดยศิลปินในเครือข่าย
ด้าน “ภาพลักษณ์องค์กร”
เพื่อเป็นองค์กรภาคเอกชนที่เป็นผู้นำด้านการส่งเสริม อนุรักษ์และเผยแพร่งานด้านศิลปวัฒนธรรมไทย และขยายผลไปสู่ศิลปวัฒนธรรมในระดับภูมิภาคอาเซียน เช่น การก่อตั้งวง ซี อาเซียน คอนโซแนนท์ ซึ่งเป็นโครงการที่แสดงให้เห็นถึงเป้าหมายและเจตนารมณ์ที่ต้องการขยายผลการอนุรักษ์และพัฒนางานด้านศิลปวัฒนธรรมของไทยและภูมิภาคอาเซียน ให้แพร่หลายและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางขึ้น
ด้าน “ความร่วมมือ”
ขยายความร่วมมือด้านศิลปวัฒนธรรมกับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาควิสาหกิจชุมชนอย่างต่อเนื่อง และมีความหลากหลายขึ้น เพื่อผลักดันให้เกิดกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และประชาชาติให้มากยิ่งขึ้น เช่น โครงการ BAB ซี อาเซียน คอนโซแนนท์ รวมไปถึงงานเทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย สายน้ำแห่งวัฒนธรรม ที่มีเป้าหมายขยายพันธมิตรความร่วมมือของชุมชนโดยรอบเพื่อให้จัดกิจกรรมได้อย่างไหลลื่น และเห็นคุณค่าของการร่วมมือว่าเกิดประโยชน์มากมายต่อชุมชนและตัวบุคคลอย่างไร