การพัฒนาที่ยั่งยืน |
1. | ออกแบบเส้นทางการเติบโตในสายอาชีพของพนักงานและพัฒนารายละเอียดใน 14 สายอาชีพ ครอบคลุมร้อยละ 85 ของจำนวนพนักงานทั้งหมด แล้วเสร็จในปี 2562 โดยมีแผนจะออกแบบและพัฒนาให้เสร็จสิ้นทั้ง 22 สายอาชีพในปี 2563 |
2. | พัฒนาศักยภาพของพนักงานตามระดับพนักงานอย่างต่อเนื่อง (Upskill) โดยแบ่งพนักงานออกเป็น 3 ระดับคือ ระดับพนักงานปฏิบัติการ (Spring & Streams) ระดับผู้บริหาร (River) และกลุ่มผู้บริหารระดับสูง (Ocean) โดยใช้หลักการพัฒนาศักยภาพของพนักงานในรูปแบบ 70: 20: 10 คือ ร้อยละ 70 ได้จากการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติ ร้อยละ 20 คือการเรียนรู้จากบุคคลอื่น และ ร้อยละ 10 เกิดจากการเรียนรู้จากการเข้าอบรมอย่างเป็นทางการ |
3. | จัดทำแผนพัฒนาพนักงานรายบุคคล (Individual Development Plan : IDP) ร่วมกับพนักงานครอบคลุมร้อยละ 100 ของพนักงานในระดับ 4 ขึ้นไป ในกลุ่มไทยเบฟ โออิชิ และเสริมสุข เพื่อปรับปรุงจุดอ่อนและเสริมสร้างจุดแข็ง สำหรับการเตรียมความพร้อมให้พนักงานที่จะก้าวไปสู่ระดับงานที่สูงขึ้นในสายอาชีพของตน พร้อมทั้งมีโปรแกรมติดตามความก้าวหน้าของแผนพัฒนาพนักงานรายบุคคล เพื่อให้แน่ใจว่า แผนพัฒนาเหล่านั้นจะถูกดำเนินการอย่างจริงจังและบรรลุผลสำเร็จ |
4. | ดำเนินการพัฒนาพนักงานตามสายอาชีพ (Functional Training Program) หลังจากที่ได้ออกแบบแล้วเสร็จ โดยใช้เปิดสอนแก่พนักงานแล้ว จำนวน 3 กลุ่มงาน คือ สายงานขาย สายงานการเงินและบัญชี และสายงานทรัพยากรมนุษย์ โดยครอบคลุมถึงการสร้างโอกาสในการพัฒนาสายอาชีพทั้งหมดกว่า 5,400 คน ในปี 2562 |
5. | ออกแบบโปรแกรมการพัฒนาพนักงานเพื่อเพิ่มทักษะใหม่ให้กับ พนักงาน (Reskill) รวมถึงการพัฒนาพนักงานให้มีทักษะข้ามสายงาน (Multi-Skill) ส่งผลทำให้พนักงานของไทยเบฟ มีการหมุนเวียนงานไปสู่ตำแหน่งงานอื่นภายในองค์กรเฉลี่ยประมาณร้อยละ 27 ของจำนวนตำแหน่งทั้งหมดที่เปิดรับของไทยเบฟในปี 2562 |
6. | สรรหาพนักงานและเตรียมความพร้อมสำหรับการสืบทอดตำแหน่งที่สำคัญของบริษัท โดยไทยเบฟสามารถจัดหาพนักงานที่จะดำรงตำแหน่งผู้สืบทอดได้คิดเป็นร้อยละ 94 ของตำแหน่งสำคัญทั้งหมด ทั้งนี้ การเติบโตขยายตัวทางธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่องเป็นอีกทางหนึ่งในการสร้างโอกาสให้พนักงานเติบโตในระดับภายในประเทศและในระดับภูมิภาค เป็นเวทีของการสืบทอดตำแหน่งของพนักงานให้สามารถพัฒนาตนเอง นำไปสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำขององค์กรได้ในปัจจุบันและอนาคต |
1. | ไทยเบฟปลูกฝังความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรผ่านวิธีการดำเนินงาน Say-Stay-Strive* เพื่อพัฒนาแผนและกระบวนการสร้างความผูกพันให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะช่วยทำให้อัตราการลาออกลดลงแล้ว ยังมีส่วนทำให้พนักงานสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับไทยเบฟอย่างสม่ำเสมอ *จากแนวคิดของ Aon Hewitt (2558) |
% ความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร** | |
ปี 2558-2559 | ปี 2560-2561 |
61 | 69 |
อัตราการลาออกของพนักงานทั้งหมด | ||||
ปี 2558 | ปี 2559 | ปี 2560 | ปี 2561 | ปี 2562 |
14.8 | 12.86 | 12.87 | 11.48 | 11.52 |
Best Companies to Work
For in Asia Award
2. | ไทยเบฟประสบความสำเร็จในการใช้ค่านิยมกลุ่มไทยเบฟ (ThaiBev Global Values) ผ่านการแสดงออกพฤติกรรม 3 ด้าน หรือ 3C เพื่อให้พนักงานในกลุ่มไทยเบฟทั่วโลกร่วมกันยึดถือและเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ ประกอบด้วยหลักสำคัญ 3 ประการ คือ ร่วมกันผสานพลัง (Collaboration) สร้างสรรค์คุณค่า (Creating Values) และเอาใจใส่ต่อผู้เกี่ยวข้อง (Caring for Stakeholders) ไทยเบฟประสบความสำเร็จในการใช้ค่านิยมกลุ่มไทยเบฟ (ThaiBev Global Values) ผ่านการแสดงออกพฤติกรรม 3 ด้าน หรือ 3C เพื่อให้พนักงานในกลุ่มไทยเบฟทั่วโลกร่วมกันยึดถือและเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ ประกอบด้วยหลักสำคัญ 3 ประการ คือ ร่วมกันผสานพลัง (Collaboration) สร้างสรรค์คุณค่า (Creating Values) และเอาใจใส่ต่อผู้เกี่ยวข้อง (Caring for Stakeholders) |
3. | ไทยเบฟเสริมสร้างการมีส่วนร่วมผ่านการประเมินผลปฏิบัติงานให้มีสัดส่วนที่สะท้อนถึงการทำงานที่แท้จริงของพนักงาน โดยกำหนดส่วนประกอบของการประเมิน คือ ตัวชี้วัดผลงานรวม (Shared KPIs) ตัวชี้วัดผลงานส่วนบุคคล (Individual KPIs) การประเมินพฤติกรรมในการปฏิบัติงาน (Competency) โดยใช้ค่านิยมกลุ่มไทยเบฟ (ThaiBev Global Values) ซึ่งมีสัดส่วนแปรผันตามระดับพนักงาน ทั้งนี้ ไทยเบฟได้เพิ่มจำนวนพนักงานที่ได้รับการประเมินผลหลายมิติ (Multi-dimension) จากเดิมที่จัดตั้งแต่พนักงานระดับผู้จัดการที่มีระดับงานตั้งแต่ระดับ 10 ขึ้นไป เปลี่ยนแปลงเป็นพนักงานที่มีระดับงานระดับหัวหน้าส่วน ที่มีระดับงานตั้งแต่ระดับ 8 ขึ้นไป ทำให้สัดส่วนร้อยละของจำนวนผู้ได้รับการประเมินเพิ่มขึ้น 2 เท่าในปี 2562 |
ระบบ Beverest ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมในกระบวนการทำงานที่รวบรวมมากกว่า 4 แอปพลิเคชัน และอีกหลายกระบวนการทำงานที่เปลี่ยนแปลงการทำงานให้ดีขึ้น และยังเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นและแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ แบ่งปันความรู้ ทักษะ และข้อมูลต่าง ๆ ให้กับเพื่อนร่วมงานในองค์กร ขณะเดียวกันพนักงานสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง รับผิดชอบในความก้าวหน้าของตนเอง รับรู้โอกาสและผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่องค์กรมอบให้ บันทึกข้อมูลการอบรม และสร้างเครือข่ายของพนักงานทั่วโลก ซึ่งระบบนี้สามารถใช้งานได้ทั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือผ่านโทรศัพท์มือถืออย่างไม่มีขีดจำกัด
นอกจากนี้ ไทยเบฟได้พัฒนาระบบ Thank You System ที่สร้างขึ้นเป็นแอปพลิเคชันที่สามารถใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน จัดรวมอยู่ในกลุ่มของ Beverest Life Suite ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เติมเต็มรอยยิ้ม ด้วยคำขอบคุณ” เป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการชื่นชม ยกย่อง ชมเชย และให้กำลังใจเพื่อนพนักงานที่อุทิศตนมากกว่างานในหน้าที่ ทั้งภายในหน่วยงาน ระหว่างหน่วยงาน หรือระหว่างกลุ่มธุรกิจ เป็นกลไกสำคัญที่สนับสนุนให้เกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรและความเป็นหนึ่งผ่านการใช้งานระบบ ผลักดันธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับค่านิยมกลุ่มไทยเบฟ (ThaiBev Global Values)