รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน 2562

Close
หน้าแรก / รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน 2562 / ใส่ใจดูแลบุคลากร ลูกค้า และผู้บริโภค
ความปลอดภัย อาชีวอนามัย สภาพแวดล้อมในการทำงาน และความสุขของพนักงาน
GRI 403-1, GRI 403-2, GRI 403-5, GRI 403-6, GRI 403-8, GRI 403-9, GRI 403-10
ไทยเบฟมีความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานของพนักงานทั้งกลุ่มไทยเบฟ เพื่อให้ทุกหน่วยงานขององค์กรดำเนินงานสอดคล้องตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของกลุ่มไทยเบฟ ภายใต้มาตรฐานเดียวกันอย่างเคร่งครัดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงส่งเสริมให้มีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมและสร้างบรรยากาศในการทำงานเพื่อให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุข


เพื่อคุณภาพชีวิตในการทำงานและสุขภาพที่ดีของพนักงาน ไทยเบฟกำหนดให้มีแนวทางการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย สภาพแวดล้อมในการทำงานและความสุขของพนักงานอย่างครอบคลุม ดังนี้

  • กำหนดแนวทางและมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานของกลุ่มไทยเบฟ
  • บันทึก ตรวจสอบ และเก็บรวบรวมข้อมูลด้านความปลอดภัย และอุบัติเหตุจากการทำงานที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งจัดทำรายงานด้านความปลอดภัยเสนอผู้บริหารตามมาตรฐานของกลุ่มไทยเบฟ
  • กำหนด ทบทวนตัวชี้วัดและเป้าหมายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมของกลุ่มไทยเบฟ เพื่อประเมินประสิทธิผลของการดําเนินงาน รวมถึงการจัดให้มีการทวนสอบจากหน่วยงานภายนอกบริษัทเป็นประจำทุกปี
  • จัดการฝึกอบรมขั้นพื้นฐานด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยให้พนักงานและผู้รับเหมาของไทยเบฟ พร้อมทั้งการอบรมขั้นสูงแก่ผู้บริหาร
  • สื่อสารและเสริมสร้างวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ความรู้ในด้านสุขภาพ ความปลอดภัยให้กับพนักงานและผู้รับเหมาของกลุ่มไทยเบฟในเชิงรุก
  • ดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของพนักงานและครอบครัวของพนักงาน เพื่อดึงดูดให้พนักงานอยู่กับองค์กร มีความรู้สึกผูกพันกับองค์กร และทำงานอย่างมีความสุข
  • ดูแลสุขภาพของพนักงาน มุ่งเน้นให้พนักงานมีสุขภาพอนามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ โดยจัดให้มีการตรวจสุขภาพประจำปีให้กับพนักงานทุกคน รวมถึงการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยง จัดเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลและการประกันอุบัติเหตุให้แก่พนักงาน

ในปี 2562 ไทยเบฟมุ่งเน้นการสื่อสารและการปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมถึงการสร้างความสุขให้กับพนักงานในการทำงาน โดยมีกิจกรรมสําคัญ ดังนี้
ด้านความปลอดภัย


  • มาตรฐานความปลอดภัยของบริษัทในกลุ่มไทยเบฟ ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ต่างจังหวัด รวมถึงบริษัทในกลุ่มไทยเบฟในต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซีย และเมียนมา
  • สร้างระบบการจัดเก็บข้อมูลใหม่และรวบรวมข้อมูลด้านความปลอดภัยของบริษัทในกลุ่มไทยเบฟไว้ในฐานข้อมูลเดียวกัน โดยครอบคลุมการเก็บข้อมูลความปลอดภัยรอบด้านตามมาตรฐานการรายงานของ Global Reporting Initiative (GRI) พร้อมทั้งทำการวิเคราะห์และรายงานผลตัวชี้วัดด้านความปลอดภัยแยกตามบริษัทและรวมตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อให้มั่นใจว่ามีการตรวจสอบและติดตามผลการดำเนินงานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ทันท่วงทีตามเป้าหมายของหน่วยงานที่กำหนดขึ้น พร้อมทั้งจัดให้มีการรายงานผลการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยตามสายงานไปถึงผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานอย่างสม่ำเสมอ
  • จัดฝึกอบรมด้านความปลอดภัยให้กับพนักงาน เช่น การอบรมเชิงปฏิบัติการมาตรฐานความปลอดภัยกลุ่มไทยเบฟ ประจำปี 2562 การอบรมมาตรฐานอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ISO 45001 การอบรมเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงการขยายขอบเขตการอบรมด้านการขับขี่อย่างปลอดภัยบนท้องถนนไปสู่พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานที่มียานพาหนะส่วนตัว
  • จัดคณะทำงานตรวจสอบข้อมูลด้านความปลอดภัยภายในประจำกลุ่มผลิตภัณฑ์ รวมถึงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ พร้อมทั้งมีการรับรองจากหน่วยงานภายนอกในระดับสากล เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลด้านความปลอดภัยในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ถูกรายงานอย่างถูกต้อง เที่ยงตรง และสอดคล้องตามหลักมาตรฐานสากล

ด้านอาชีวอนามัย


  • ดูแล
    ไทยเบฟ ใส่ใจดูแลพนักงานในด้านสุขภาพและอนามัย โดยการจัดให้มีแพทย์และพยาบาลประจำห้องพยาบาลเพื่อให้บริการตรวจรักษาและให้การปรึกษาด้านสุขภาพแก่พนักงาน รวมถึงการทำข้อตกลงกับสถานพยาบาลเพื่อนำพนักงานที่บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยเข้ารับการรักษาพยาบาลได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ตลอด 24 ชั่วโมง
  • ป้องกัน
    ไทยเบฟใส่ใจในการป้องกันโรคให้กับพนักงาน โดยเฉพาะโรคในกลุ่มวัยทำงาน อาทิ การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ให้แก่พนักงานเป็นประจำทุกปี
  • รักษา
    ไทยเบฟช่วยเหลือเงินค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอก (OPD) เพิ่มเติมให้แก่พนักงาน นอกจากเงินช่วยเหลือประกันสังคมที่บริษัทจ่ายให้ตามกฎหมาย รวมถึงการจัดประกันอุบัติเหตุและประกันการเจ็บป่วยประเภทผู้ป่วยใน (IPD) ให้กับพนักงานทุกคน
  • ตรวจสุขภาพ
    ไทยเบฟจัดให้มีการตรวจสุขภาพให้กับพนักงานทุกคน โดยจัดการตรวจที่แตกต่างกันตามเพศ อายุ และความเสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น การตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งเต้านมให้แก่พนักงานที่อยู่ในช่วงอายุที่มีความเสี่ยง รวมถึงการตรวจสุขภาพเพิ่มเติมให้กับพนักงานในโรงงานตามปัจจัยเสี่ยง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมตรวจสุขภาพและวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจให้กับบิดา มารดาของพนักงานด้วย
  • ให้ความรู้
    ไทยเบฟจัดการอบรมให้ความรู้ด้านสุขภาพและโรคที่มักตรวจพบกับพนักงานและสมาชิกในครอบครัว เช่น โรคของคนทำงานออฟฟิศ (Office Syndrome) การลดความเครียด รวมถึงการฝึกทักษะการช่วยชีวิตเบื้องต้นให้กับพนักงานอีกด้วย

ด้านสภาวะแวดล้อมในการทำงาน


  • เปิดสำนักงานใหม่ที่ ThaiBev Quarter
    ไทยเบฟได้เปิดสำนักงานใหม่ที่ ThaiBev Quarter อยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในระดับสากล มีพื้นที่ใช้สอยรวมถึง 48,273 ตารางเมตร ตกแต่งเป็นสำนักงานที่ทันสมัย เหมาะสมกับการทำงานสมัยใหม่ มีห้องประชุมขนาดเล็ก-ขนาดใหญ่ และมีสำนักงานแบบพื้นที่ทำงานร่วมกัน (Co-working Space) สำหรับพนักงานและบุคคลภายนอกเข้ามาใช้บริการ และพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ ฯลฯ รวมถึง สิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ให้กับพนักงานไทยเบฟ เช่น ห้องอาหาร ห้องพยาบาล ธนาคาร ห้องออกกำลังกาย รวมถึงห้องสันทนาการ ห้องฟิตเนส ลานกีฬา สนามบาสเกตบอล สนามฟุตซอล สนามเทนนิส และห้องคาราโอเกะ เป็นต้น
  • การปรับการยุทศาสตร์ในการทำงาน (Ergonomic Workplace)
    จัดลักษณะงานให้เหมาะสมกับพนักงาน รวมถึงการออกแบบ จัดหาเครื่องมือ-อุปกรณ์การทำงาน เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน จัดระบบงานและกระบวนการเคลื่อนไหวร่างกายให้เหมาะสม รวมถึงการให้ความสำคัญในการวิเคราะห์วิธีการทำงานให้สอดคล้องกับความสามารถและสมรรถนะของพนักงานแต่ละกลุ่ม

ด้านความผาสุก


การทำงานอย่างมีความสุขของพนักงาน คือเป้าหมายที่สำคัญของไทยเบฟ นอกจากค่าตอบแทนที่เป็นธรรม การเลื่อนตำแหน่ง และสวัสดิการของพนักงาน ไทยเบฟมุ่งมั่นจัดทำกิจกรรม โครงการต่าง ๆ เพื่อสร้างความสุขให้พนักงานอย่างต่อเนื่อง และเพื่อสร้างความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร ดังนี้

  • จัดตั้งคณะทำงานเสริมสร้างสุขภาพอนามัยและความผาสุกของพนักงาน
    ในปี 2562 ไทยเบฟได้ตั้งคณะทำงานเสริมสร้างสุขภาพอนามัยและความผาสุกของพนักงาน ประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้ไทยเบฟ เพื่อมุ่งตอบโจทย์การทำงานอย่างมีความสุขของพนักงาน
  • ดำเนินการเพิ่มสิทธิประโยชน์แก่พนักงาน
    ปรับปรุงข้อบังคับการทำงานของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่มไทยเบฟ ในปี 2562 เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับพนักงานเพิ่มเติมจากที่กฎหมายกำหนด เช่น เพิ่มสวัสดิการวันลาคลอดให้กับพนักงานหญิงมากกว่าที่กฎหมายกำหนด และวันลาดูแลบุตรที่เพิ่งคลอดสำหรับพนักงานชาย เพิ่มวันลากิจให้กับพนักงานรายวัน และการเพิ่มค่าชดเชยให้กับพนักงาน เป็นต้น
  • สนับสนุนให้พนักงานมีอิสระในการเลือกทำงานแบบยืดหยุ่น
    ไทยเบฟให้ความสำคัญต่อสถาบันครอบครัวของพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 ไทยเบฟให้อิสระในการเลือกช่วงเวลาการทำงานของตนได้ โดยประกาศให้มีการทำงานแบบยืดหยุ่นกับพนักงานบริษัทไทยเบฟ และบริษัทย่อยที่ทำงานใน ThaiBev Quarter โดยโครงการนี้มีผลอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 15 มิถุนายน 2562 โดยมีพนักงานเข้าร่วมโครงการในขั้นต้น 250 คน สนับสนุนให้พนักงานมีความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานกับชีวิตครอบครัว และสามารถเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วนในช่วงเช้าและช่วงเย็น เป็นการช่วยลดความเครียด

    นอกจากนี้ ยังจัดให้มีพื้นที่ในสำนักงานแบบพื้นที่ทำงานร่วมกัน (Co-working Space) เพื่อให้พนักงานติดต่อสื่อสาร พูดคุย ปฏิสัมพันธ์แบบการทำงานร่วมกัน และจัดให้มีโต๊ะทำงานแบบไม่ประจำ หรือมีพื้นที่ทำงานร่วมกัน (Hot Seat) ให้พนักงานเลือกที่นั่งทำงานได้ตามสะดวก สามารถเปลี่ยนที่นั่งไปในแต่ละวันตามต้องการ
  • จัดกิจกรรมลดอาการออฟฟิศซินโดรมให้พนักงาน
    ความสบายกาย สบายใจ ย่อมส่งผลให้เกิดความคิดเชิงบวกและส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน ไทยเบฟได้จัดกิจกรรมการนวดผ่อนคลายให้กับพนักงานในสำนักงานส่วนกลางและตามโรงงานต่าง ๆ ลดอาการออฟฟิศซินโดรม อาการเมื่อยล้าที่คอ บ่า ไหล่ สะบัก และต้นแขน ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ตลอดปี โดยในปี 2562 มีพนักงานเข้ารับบริการกว่า 1,000 คน
  • ไทยเบฟส่งเสริมการจ้างงานพนักงานผู้ทุพพลภาพ
    ไทยเบฟส่งเสริมการจ้างงานให้ผู้ทุพพลภาพมีอาชีพและมีงานทำ โดยในปี 2562 กลุ่มไทยเบฟ 36 บริษัทย่อย ได้รับผู้ทุพพลภาพ 4 ประเภทเข้าเป็นพนักงาน (ความพิการด้านการเคลื่อนไหว ด้านการมองเห็น ด้านการได้ยิน และด้านสติปัญญา) รวม 496 คน ส่งเสริมให้ผู้ทุพพลภาพสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมีศักดิ์ศรีทัดเทียมบุคคลทั่วไป
  • การดูแลพนักงานสูงวัย
    ไทยเบฟเชื่อในศักยภาพของผู้สูงวัย จึงให้โอกาสพนักงานสูงอายุที่สมัครใจและเข้าเงื่อนไขของบริษัท ให้ทำงานในบริษัทต่อไปหลังเกษียณอายุการทำงาน โดยจัดให้มีเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น เหมาะสมกับวัย สามารถเลือกวันทำงานตามระยะเวลาที่กำหนดให้ในแต่ละสัปดาห์ได้ตามต้องการ ซึ่งในปัจจุบัน ไทยเบฟมีพนักงานสูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปี มากด้วยประสบการณ์การทำงานร่วมทำงานกว่า 245 ท่าน มีส่วนช่วยให้ผู้สูงอายุภูมิใจในคุณค่าของตน และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้สูงอายุให้สามารถจุนเจือตัวเองและครอบครัวได้อย่างภาคภูมิ


นอกจากนี้ ยังจัดโครงการวางแผนเตรียมความพร้อมพนักงานเพื่ออนาคตที่ดีก่อนเกษียณ เป็นกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ด้านต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตอย่างผาสุกของพนักงาน โดยในปีนี้ได้จัดการบรรยายในเรื่อง สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากบริษัทและภาครัฐก่อนและหลังเกษียณ การใส่ใจดูแลสุขภาพกาย/ใจ การบริหารเงินหลังเกษียณ ช่องทางอาชีพและงานอดิเรก เพื่อให้พนักงานสูงวัยได้มีการเตรียมตัวและสามารถจัดการชีวิตภายหลังเกษียณอายุการทำงาน รู้จักการออมและการบริหารเงินและบริหารหนี้ ซึ่งได้มีการจัดถ่ายทอดสดไปยังพนักงานในโรงงานและหน่วยงานต่าง ๆ อีก 23 แห่ง มีผู้เข้ารับฟังการบรรยายกว่า 500 คน

ขณะเดียวกันไทยเบฟมีโครงการตลาดนัดวันจันทร์ เปิดโอกาสให้พนักงานที่เกษียณอายุการทำงานมีรายได้พิเศษจากการนำอาหาร สินค้า และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มาจำหน่ายให้กับเพื่อนพนักงานและบุคคลทั่วไป เป็นการส่งเสริมให้พนักงานที่เกษียณอายุ มีช่องทางอาชีพ งานอดิเรก และรายได้เสริม ทุกวันจันทร์ตลอดปี



  • กิจกรรมดูแลครอบครัวพนักงาน
    นอกจากจะดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงานแล้ว ไทยเบฟยังภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมดูแลครอบครัวของพนักงาน ทั้งในด้านของบุตรและบิดา มารดา
โครงการด้วยรักและห่วงใยแก่บุตรพนักงาน (Day Care for ThaiBev Kids) เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้พนักงานพาบุตรในวัยอนุบาลและประถมศึกษามาในสถานที่ทำงานเพื่อใช้เวลาว่างช่วงปิดภาคการศึกษาให้เป็นประโยชน์และเพลิดเพลิน ด้วยการทำกิจกรรมเชิงศิลปะและเสริมสร้างทักษะชีวิตในด้านต่าง ๆ เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของพนักงานและครอบครัวในช่วงเวลาการทำงาน และช่วยให้พนักงานได้มีเวลาใกล้ชิดกับบุตรของตนมากขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ โครงการรักแม่…รักษ์หัวใจ ยังเป็นโครงการที่ไทยเบฟจัดขึ้น เพื่อให้พนักงานพาบิดาและมารดามาตรวจสุขภาพและคลื่นไฟฟ้าหัวใจ พร้อมทั้งฟังบรรยายจากแพทย์และวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกาย/ใจ พร้อมบูธกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การฝึกช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน โดยมีพนักงาน รวมถึงบิดาและมารดาของพนักงานเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 230 คน
แบ่งปันคุณค่า
คุณอรัญญา วุฒิกานากร
ผู้จัดการกลุ่มลูกค้าโมเดิร์นเทรด
บริษัท โมเดิร์นเทรด แมนเนจเม้นท์ จำกัด
“ดิฉันทำงานที่บริษัทไทยเบฟเป็นปีที่ 11 แล้วค่ะ ดิฉันมีความภาคภูมิใจที่ได้ทำงานที่องค์กรนี้ เพราะตั้งแต่เข้ามาทำงานที่นี่จนถึงปัจจุบัน ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของไทยเบฟไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างรวดเร็ว มีความแข็งแกร่งและยั่งยืน รวมถึงการตอบแทนสู่สังคมด้วยค่ะ

การทำงานที่ไทยเบฟ มีความประทับใจหลายอย่างค่ะ เช่น มีผู้บังคับบัญชาที่ให้คำแนะนำสนับสนุนในการทำงาน มีเพื่อนร่วมงานที่ดี และบริษัทฯ ก็ให้ความสำคัญกับพนักงานทุกระดับ มีการจัดอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้เติบโตไปพร้อมกับองค์กร มีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งใส่ใจดูแลพนักงานในเรื่องความปลอดภัย สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานให้น่าอยู่เพื่อให้พนักงานมีความสุขค่ะ”
ทิศทางการดำเนินงาน
  • ดำเนินกิจกรรมต่อเนื่อง สร้างการรับรู้และการสร้างจิตสำนึกให้กับพนักงานในองค์กรและผู้รับเหมา ส่งเสริมวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย รวมถึงการขยายงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน สู่บริษัทในกลุ่มไทยเบฟในภูมิภาคอาเซียน
  • จัดทำโครงการลดอัตราการเจ็บป่วยจากการทำงานและความถี่การเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงานของพนักงานและผู้รับเหมา โดยมีเป้าหมายให้ความถี่การเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงานของพนักงานต่ำลงเหลือ 1.0 ในปี 2565
  • มุ่งมั่นปลูกฝังวินัยเรื่องความปลอดภัยทางถนนให้กับพนักงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งในพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและพนักงานทั่วไปที่ต้องขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะลดอัตราการเสียชีวิตจากการทำงานของพนักงานที่มีอัตราที่สูงในปี 2560 และ ปี 2561 ที่มีสาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากอุบัติเหตุ เนื่องจากการฝ่าฝืนกฎจราจรและขาดวินัยจราจรของผู้ใช้รถใช้ถนน โดยจัดอบรมและกิจกรรมในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนให้กับพนักงาน พร้อมทั้งขยายขอบเขตไปยังส่วนภูมิภาคและกลุ่มตัวแทนจำหน่ายด้วย
  • ขยายผลการสร้างเครือข่ายงานด้านความปลอดภัยที่มีสมาชิกเป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานจากบริษัทในกลุ่มไทยเบฟทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน เพื่อเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพ การสื่อสาร แลกเปลี่ยนความรู้และข่าวสารด้านความปลอดภัยอย่างทั่วถึงในกลุ่มสมาชิก รวมถึงการจัดอบรมความปลอดภัยขั้นสูงแก่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ
  • สร้างฐานข้อมูลสุขภาพของพนักงานแต่ละคน เพื่อนำข้อมูลมาเก็บสถิติและวิเคราะห์ มุ่งดูแลสุขภาพของพนักงานในเชิงรุกทั้งในด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจก่อนที่จะเกิดโรค พร้อมทั้งปลูกฝังให้พนักงานใส่ใจในการออกกำลังกาย สร้างสุขอนามัยให้ตนเองและครอบครัว ลดความเครียดจากการทำงาน รวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่มักเกิดกับพนักงาน โดยมีเป้าหมายให้พนักงานมีสุขภาพดีขึ้น ลดการเจ็บป่วย มีคุณภาพชีวิตที่ดีและทำงานอย่างมีความสุข