มุ่งเน้นการสร้างสรรค์สังคมและเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงและเสริมสร้างศักยภาพในกลุ่มประเทศอาเซียน ครอบคลุมด้านศิลปะ วัฒนธรรม และธุรกิจ โดยมีวิสัยทัศน์องค์กร คือ
“Collaboration for the better of ASEAN’s connectivity” หรือ
“การสร้างความร่วมมือเพื่อความเชื่อมโยงและการพัฒนาประเทศในกลุ่มอาเซียน” ปัจจุบันศูนย์ ซี อาเซียน มีจำนวนพันธมิตรในเครือข่ายกว่า 20 องค์กร ซึ่งรวมถึงองค์กรชั้นนำของประเทศไทย องค์กรระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมระดับโลก
ทั้งนี้ ตลอดปี 2562 ที่ผ่านมา ศูนย์ ซี อาเซียนได้จัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เช่น การประชุม สัมมนา โครงการประกวด และการแข่งขันต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้เกิด
1) การพัฒนาด้านความยั่งยืน
2) การสร้างความร่วมมือในกลุ่มประเทศอาเซียน
3) การพัฒนาบุคคล
จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกระดับของสังคม ไม่ว่าจะเป็นระดับองค์กร ระดับชุมชน และระดับบุคคล ในรูปแบบของการประชุมสัมมนา การรวบรวมเครือข่ายและส่งเสริมการแก้ปัญหาสังคมผ่านวิสาหกิจเพื่อสังคม
จัดกิจกรรมงานประชุมสัมมนาการพัฒนาอย่างยั่งยืน “Thailand Corporate Sustainability Symposium #1: Learning from the Leaders” เพื่อเป็นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนขององค์กรชั้นนำของประเทศไทย 17 บริษัท โดยมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและสร้างคุณค่าแก่สังคม รวมถึงการระดมความคิดเห็นในประเด็นปัญหาที่เร่งด่วน ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งผลที่ได้จากการจัดงาน คือ การสร้างเครือข่ายและฐานองค์ความรู้เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือและการทำโครงการร่วมกันในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กรเอกชนไทยและอาเซียนในอนาคต
ทำงานร่วมกับบริษัทประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด โดยร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงานสัมมนา
“วิสาหกิจเพื่อสังคม : กลไกสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” (Thailand Sustainability Forum : Fostering Social Enterprises) เพื่อให้สาธารณชนทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติได้เข้าใจถึงการทำงาน ประสบการณ์ในการจัดตั้ง และการบริหารงานของวิสาหกิจเพื่อสังคม พร้อมทั้งเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ด้านกฎหมายและข้อปฏิบัติต่าง ๆ นอกจากนี้ ในงานยังมีการร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างผู้นำชุมชนย่านกุฎีจีนกับสถาบันนวัตกรรมชุมชนอัจฉริยะ (ISCI) เพื่อจัดตั้ง
“วิสาหกิจเพื่อสังคมร่วมใจพัฒนาชุมชนกุฎีจีน” ช่วยให้เกิดการพัฒนาย่านชุมชนกุฎีจีน การบริหารจัดการชุมชนอัจฉริยะ และนำไปสู่ชุมชนที่ยั่งยืน
ผลิตรายการทีวีเรียลิตี้โชว์ “Win Win WAR Thailand” ซึ่งเป็นรายการประกวดแข่งขันแผนธุรกิจเพื่อค้นหาสุดยอดนักธุรกิจเพื่อสังคม (Social Entrepreneurs) ที่ใช้กลไกทางธุรกิจช่วยแก้ไขปัญหาสังคมหรือสิ่งแวดล้อม โดยรายการจัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในคอนเซปต์ “ธุรกิจเพื่อสังคม” หรือ “ธุรกิจแบ่งปัน” ควบคู่ไปกับการสนับสนุนผู้ที่ริเริ่มธุรกิจแบ่งปันให้สามารถสร้างธุรกิจที่มีความสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ในปี 2561 มีผู้สนใจเข้าร่วมการประกวดกว่า 900 ทีม ผ่านการคัดเลือกให้ออกอากาศในรายการจำนวน 100 ทีม และมีเพียง 20 ทีมที่ผ่านเข้ารอบการทดสอบตลาด พร้อมได้รับคำปรึกษาด้านธุรกิจจากผู้เชี่ยวชาญ
โดยผู้ชนะเลิศในรายการ Win Win WAR ทีมแรกของประเทศไทย คือ ทีม Siam Able Innovation ซึ่งเป็น “ผู้ผลิตกายอุปกรณ์สำหรับผู้พิการ เพื่อชีวิตที่ไม่พิการ” (อุปกรณ์ที่ใช้กับร่างกายเพื่อช่วยเหลือการเคลื่อนไหว) เป็นการสร้างงานและสร้างรายได้ให้แก่ผู้พิการที่อยู่ในเครือข่าย โดยได้รับเงินรางวัล 2 ล้านบาท พร้อมได้รับการสนับสนุนด้านอื่นในการต่อยอดทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนากระบวนการผลิตให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น รวมถึงเพิ่มกำลังการผลิตและทำให้สินค้ากายอุปกรณ์ของบริษัทเป็นที่รู้จักกว้างขวางยิ่งขึ้น ทำให้ผู้พิการไทยมีกายอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นและยุโรปในราคาย่อมเยา นอกจากนี้ Siam Able Innovation ยังเปิดเครือข่ายศูนย์เรียนรู้เรื่องการผลิตและซ่อมแซมกายอุปกรณ์ให้ผู้พิการและผู้ที่สนใจด้วย ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและต้นแบบของการทำธุรกิจเพื่อสังคมที่ดี และในปี 2561 รายการ “Win Win WAR Thailand” ได้รับรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 33 ประเภทรายการเกมโชว์ดีเด่น ดังนั้น ซี อาเซียน จึงยังคงเดินหน้าสนับสนุนการผลิตรายการอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และมีแผนที่จะขยายโครงการไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียนต่อไป
|
|
โดยเป็นเจ้าภาพร่วมกับศาสตราจารย์ ดร.มูฮัมหมัด ยูนุส นักเศรษฐศาสตร์ชาวบังกลาเทศ เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ปี 2006 ผู้เป็นต้นแบบแนวคิดธนาคารคนจนและเป็นผู้ร่วมผลักดันวิสาหกิจเพื่อสังคมในระดับโลก พร้อมด้วยเครือข่ายยูนุสทั่วโลก เป็นงานสัมมนาระดับภูมิภาคเอเชียภายใต้แนวคิด “Making Money is Happiness, Making Other People Happy is Super Happiness” (การสร้างรายได้คือความสุข แต่การสร้างความสุขให้ผู้อื่นคือความสุขที่แท้จริง) ซึ่งมีผู้ร่วมงานกว่า 1,500 คน จาก 58 ประเทศทั่วโลก ร่วมกันสะท้อนปัญหาผ่านการอภิปรายเป็นคณะ (Panel Discussion) การประชุมเต็มคณะ (Plenary Session) และการประชุมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อที่ครอบคลุมทั้งเรื่องการศึกษา เกษตร อุตสาหกรรมอาหาร สุขภาวะ การเงิน สิ่งแวดล้อม พลังงานสีเขียว และศิลปวัฒนธรรม นับเป็นก้าวสำคัญของ ซี อาเซียนในการสร้างเครือข่ายของวิสาหกิจเพื่อสังคมระดับโลก จากการร่วมจัดงานสัมมนาครั้งนี้ ทำให้ ซี อาเซียน ได้รับเชิญให้ร่วมเป็นผู้ก่อตั้ง Thailand Corporate Action Tank ในเครือข่ายของศาสตราจารย์ ดร.มูฮัมหมัด ยูนุส
ภายใต้แนวคิด
“ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” (Advancing Partnership for Sustainability) โดยมีผู้นำเยาวชนในภูมิภาคอาเซียนจำนวน 150 คน ที่เคยได้เข้าร่วมโครงการ YSEALI ของรัฐบาลสหรัฐฯ เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับทักษะความเป็นผู้นำและเปิดโอกาสให้ผู้นำรุ่นเยาว์ได้เรียนรู้จากเพื่อนคนรุ่นใหม่ในภูมิภาค และวางแผนเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนด้านการเมือง สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมที่ประเทศอาเซียนต่างเผชิญอยู่ นอกจากนี้ยังจัดให้มีการประกวดโครงการด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจริงในประเทศต่าง ๆ ทั่วภูมิภาคอาเซียน
และโครงการที่ได้รับรางวัลจำนวน 3 โครงการ ได้แก่
- We-Able ซึ่งเป็นโครงการฝึกทักษะและจัดหางานให้กับผู้พิการในประเทศฟิลิปปินส์
- Sex (z) ซึ่งเป็นการจัดทำ Digital Platform ในการให้ความรู้ที่ถูกต้องในเรื่องเพศศึกษา
- Identify Identity ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาทักษะและความเป็นอยู่ของผู้ไร้สัญชาติในมาเลเซีย
วงดนตรีวงแรกของกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีการรวมตัวกันของครูเพลงจากทั้ง 10 ประเทศ เพื่อสร้างวงดนตรีที่บรรเลงโดยเครื่องดนตรีประจำชาติของแต่ละประเทศ สามารถถ่ายทอดกลิ่นอายของดนตรีอาเซียนให้มีความสนุกสนานและสอดประสานเป็นหนึ่งเดียว อีกทั้งยังคงเอกลักษณ์ของเพลงแต่ละชาติได้เป็นอย่างดี เป็นการผสมผสานความหลากหลายทางวัฒนธรรมของแต่ละชนชาติผ่านศิลปะทางดนตรี จนกลายเป็นการแสดงที่มีความไพเราะและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในปี 2562 วงดนตรี “ซี อาเซียน คอนโซแนนท์” ได้รับเกียรติให้ร่วมแสดงในการเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ที่กรุงเทพมหานคร และงานครบรอบ 52 ปีแห่งการสถาปนาอาเซียน พร้อมพิธีเปิดอาคารสำนักเลขาธิการอาเซียนหลังใหม่ ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งนอกจากจะเป็นการแสดงเอกลักษณ์แห่งภูมิภาคอาเซียนแล้ว ยังเป็นการรวมพลังทางดนตรีแสดงให้โลกรับรู้ว่า ดนตรีสามารถก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางความรู้ วิถีชีวิต และวัฒนธรรมที่นำไปสู่มิตรภาพ ความสามัคคี และความเข้าใจระหว่างชนชาติได้อย่างดียิ่ง
เป็นหลักสูตรอบรมผู้บริหารของกลุ่มบริษัทไทยเบฟที่มีวัตถุประสงค์ในการสร้างความพร้อมให้กับผู้บริหารในการเป็นผู้นำธุรกิจในระดับภูมิภาคอาเซียน ผ่านหลักสูตรเสริมทักษะด้านธุรกิจและด้านการบริหารทีมงานข้ามชาติ รวมถึงการเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานในยุคดิจิทัล เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุวิสัยทัศน์ 2020 โดยในหลักสูตรการอบรมดังกล่าว มีกิจกรรมการดูงานในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน ในปี 2562 มีผู้บริหารเข้าร่วมอบรมในหลักสูตร AMD จำนวน 28 คน จากประเทศไทย มาเลเซีย เมียนมา และสิงคโปร์
เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานเลขาธิการอาเซียน ไทยเบฟ และ ซี อาเซียน เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญของกลุ่มประเทศอาเซียนให้กับเยาวชนไทย รวมถึงการพัฒนาให้นักเรียนไทยเป็นบุคคลคุณภาพของสมาคมอาเซียนในอนาคต ด้วยแนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” (Enforcing Partnership for Sustainability) โดยในปี 2562 โครงการ ASEAN Day Goes to School ได้คัดเลือกโรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน เป็นโรงเรียนแรกของประเทศไทยในการเข้าร่วมทำกิจกรรมนี้