หน้าแรก / การพัฒนาที่ยั่งยืน ไทยเบฟกับโควิด 19
ไทยเบฟกับการเตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาด
ประเด็นด้านความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ ปี 2563
ไทยเบฟกับแผนรองรับในอนาคต
ไทยเบฟกับแผนรองรับในอนาคต
แม้จะเกิดการระบาดไปทั่วโลกของไวรัส COVID-19 แต่ด้วยไทยเบฟ มีแนวทางการดำเนินธุรกิจและสถานะทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและแข็งแกร่ง (Financial Strength) ทำให้บริษัทไม่ต้องลดเงินเดือนพนักงานหรือลดจำนวนพนักงาน และยังคงดำเนินธุรกิจและช่วยเหลือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนได้อย่างต่อเนื่อง
ความร่วมมือกับภาครัฐและคู่ค้ารายใหญ่  เพื่อฟื้นฟูผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมในภาพรวม

ไทยเบฟร่วมดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในเรื่องการให้ความร่วมมือการเว้นระยะห่าง การปฎิบัติตามมาตรการของรัฐบาลงดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การมีมาตรการในการช่วยเหลือจัดหาจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อช่วยรับมือกับสถานการณ์ การเปิดดำเนินการธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองผู้บริโภค และเตรียมความพร้อมในการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเฉพาะในส่วนของเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว โดยไทยเบฟได้มีการริเริ่มช่วยเหลือชุมชน ในหลากหลายรูปแบบด้วยมุ่งหวังที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก อาทิ การช่วยอุดหนุนผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรที่เดือนร้อน การนำมะละกอที่ล้นตลาดไปช่วยชุมชนช่วยช้างในจังหวัดสุราษฎร์ธานี การมอบเครื่องผลิตไอศครีมแก่ชุมชน จำนวน 500 เครื่อง รวมเป็นมูลค่า 1 ล้านบาท เพื่อให้ชุมชนสามารถนำผลไม้ที่ล้นตลาดมาแปรรูปขายได้ การจัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม สารพัดสรรพศิลป์ (SOS) เพื่อการช่วยชุมชนขายสินค้า Online และให้พนักงานขายของบริษัทเป็นผู้ช่วยกระจายสินค้า นำมะม่วงล้นตลาดจากชุมชนที่เดือดร้อนมาแปรรูปขายเป็นไอศกรีมจำหน่ายกว่า 140,000 แท่ง รวมมูลค่ากว่า 2.8 ล้านบาท การสร้างอาชีพปลูกผักให้แก่ชุมชนและวางมาตรฐานอาหารปลอดภัย GMP เป็นต้น ไทยเบฟให้ความสนใจ และมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าของการเติบโตให้แก่ชุมชนทั่วประเทศ บริษัททำการสำรวจสภาพความเป็นอยู่ของชุมชนกว่า 3,600 คน ในช่วงระหว่าง และหลังสถานการณ์ COVID-19 เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการตัดสินใจและหาข้อสรุปในการให้ความช่วยเหลือชุมชนควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
ไทยเบฟ กับแนวทางการรับมือผลกระทบอย่างรวดเร็วหรือทันท่วงทีกับวิกฤติการณ์ในอนาคต

  • แนวคิด “ก้าว-แกร่ง-กว่าเดิม” (#StrongerThanEver) เป็นพลังแห่งความมุ่งมั่นที่นำพาองค์กรไปเผชิญกับความท้าทายที่มาพร้อมกับโอกาสที่ไร้ขีดจำกัด และนำความสำเร็จมาให้แก่องค์กรรวมถึงพนักงาน ไทยเบฟปรับแนวทางการทำงาน ออกนโยบายเพื่อให้องค์กรทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการวางแผนงานอย่างรอบคอบ รัดกุมมากขึ้น สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่องค์กร รองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งปัจจุบันและอนาคต พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและวิกฤติการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก้าว-แกร่ง-กว่าเดิม” #StrongerThanEver  เป็นการกระตุ้นให้พนักงานเปิดรับความท้าทายด้วยการปรับเปลี่ยนมุมมองการทำงาน มุ่งมั่นในเป้าหมายและเน้นผลลัพธ์ (Head up) ทุ่มเทและเปิดใจพร้อมรับเรื่องราวใหม่ๆ (Heart up) ลงมือปรับเปลี่ยนพัฒนาตัวเองสู่ความท้าทายในอนาคต (Hands up) และให้ความสำคัญต่อการเอาใจใส่สุขภาพกายใจ (Health up) ให้เข้มแข็งอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังเน้นเรื่องของการเติมเต็มความรู้และเพิ่มทักษะในการงาน (Re-skill & Up Skill) และการสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจและความร่วมมือต่อกัน (Communication & Collaboration)
  • โครงการ ThaiBev Transformation Program เน้นการทำงานโดยมุ่ง 3 เรื่อง คือ
    1) การสร้างขีดความสามารถ สร้างธุรกิจใหม่ (Build)
    2) การสร้างความแข็งแกร่งกว่าเดิม (Strengthen)
    3) การคงสถานภาพในสถานะ หรือการปลดล็อคศักยภาพ (Unlock)

    เพื่อเติมเต็มคุณค่าในอันที่จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดให้กับองค์กร ไทยเบฟปรับแนวทางการทำงานแบบ Transformation มาประยุกต์ใช้กับการทำงานเพื่อตอบรับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้สม่ำเสมอ พร้อมมุ่งสู่วิสัยทัศน์ 2025 อย่างมั่นคงและยั่งยืน
  • กลยุทธ์แคช ฮันต์ (Cash-Hunt) หรือ การบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและให้เกิดผลกระทบในเชิงบวกแก่ทั้งองค์กรและกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เป็นการกลั่นกรองรายละเอียด การเพิ่มการสื่อสาร การเบรนสตรอมมิ่ง และทำงานที่สอดประสานกันของผู้เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน อาทิ ฝ่ายการตลาด ฝ่ายบัญชี ฝ่ายปฎิบัติการ เพื่อให้เกิดการตัดสินใจที่เกิดประโยชน์สูงสุด
  • การใช้นวัตกรรม/ดิจิตัล/เทคโนโลยี เพื่อลดผลกระทบจากเหตุการณ์และเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร เว้นระยะห่างให้แก่พนักงานของไทยเบฟ พนักงานเกือบ 100% ได้รับการฝึกฝนให้มีทักษะทางด้าน Digital Literacy เพิ่มขึ้น พร้อมที่จะใช้เทคโนโลยีการสื่อสารและการทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานได้ในทุกที่ (work anywhere)
การปรับรูปแบบ/แนวทางการดำเนินธุรกิจของไทยเบฟ (new business model) เพื่อตอบรับวิถีใหม่ของผู้บริโภค

การสร้างความปลอดภัย สุขอนามัยของร้านอาหารเครือโออิชิกว่า 269 สาขา นอกจากการส่งมอบอาหารญี่ปุ่นที่ให้ความอร่อยและมีคุณภาพแล้ว ยังมุ่งเน้นด้านความปลอดภัยอย่างสูงสุด โดยยึดมาตรฐานตามแนวทางการปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ด้วยมาตรการต่างๆ อาทิ
  • การคัดกรองสุขภาพพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยส่งพนักงานที่อยู่หน้าร้านเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 ที่คลินิกตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ นอกจากนั้นยังมีการตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานก่อนเข้าปฏิบัติงานในร้าน และทำการล้างมือฆ่าเชื้อทุกครั้ง หลังจากนั้นจึงสวมถุงมือ สวมหน้ากาก และ Face Shield พร้อมทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์ 70% ก่อนและหลังให้บริการทุกครั้ง
  • การปรับรูปแบบให้บริการ โดยในกลุ่มร้านที่เป็นบุฟเฟต์ เปลี่ยนเป็นการปรุงอาหารตามที่ลูกค้าสั่งและให้พนักงานเสิร์ฟ
  • ปรับลดจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านอาหาร เพื่อตอบรับมาตรการผ่อนปรนกิจการ ของรัฐบาลในการระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งเป็นการลดพื้นที่การให้บริการลงไปถึง 50-60%
  • การรักษาความสะอาดภายในร้าน เข้มงวดด้านความสะอาดของภาชนะและอุปกรณ์รับประทานอาหาร ไม่วางไว้ส่วนกลาง แต่ส่งหรือเสิร์ฟให้ลูกค้าโดยตรง หมั่นทำความสะอาดโต๊ะ-เก้าอี้ เคาน์เตอร์ พื้น และจุดสัมผัสต่างๆ ด้วยสารฆ่าเชื้ออยู่เสมอ และก่อนปิดร้านมีการทำความสะอาดใหญ่ในทุกจุดอย่างละเอียดทั่วถึง พร้อมมีการกำจัดขยะอย่างถูกวิธี
  • การลดการสัมผัสในการสั่งอาหาร  โดยพัฒนา “ระบบสั่งอาหารไร้สัมผัส” (QR Order) เป็นระบบการสั่งอาหารผ่านการสแกน QR Code โดยใช้โทรศัพท์ลูกค้าเพื่อแสดงสมาร์ทเมนู
  • การบริการส่งอาหาร (Delivery) พนักงานส่งอาหารต้องใส่หน้ากากตลอดเวลาขณะปฏิบัติงาน รักษาระยะห่างกับลูกค้าไม่น้อยกว่า 1 เมตร ล้างมือก่อนออกไปส่งสินค้า และทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์ 70% ระหว่างปฏิบัติงานอยู่เสมอ พร้อมทั้งใช้อุปกรณ์ฆ่าเชื้อฉีดทำความสะอาดกล่องที่ใช้ส่งอาหาร แฮนด์รถจักรยานยนต์ หมวกกันน็อค และกุญแจรถ ทุกครั้งหลังจากการใช้งานเสร็จในแต่ละรอบการจัดส่ง
  • การปรับรูปแบบสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับวิถีใหม่ อาทิ การบริการส่งอาหารแบบเซ็ตของชาบูชิ การผลิตน้ำจิ้มชาบูแบบบรรจุขวด และอื่นๆ
การปรับใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าและผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น BevFood แอพพลิเคชั่นของร้านอาหารในเครือโออิชิที่ใช้เป็นทั้งบัตรสะสมแต้ม จองโต๊ะที่ร้าน แจกคูปองส่วนลด และแสดงโปรโมชั่นต่างๆ HoReCa Connect แอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์และสินค้าอื่นๆ ในเครือ เพื่อจัดส่งถึงบ้านของผู้บริโภคได้โดยตรง
การปรับตัวของพนักงานในองค์กรแบบวิถีใหม่ (New Normal) เพื่อการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เข้มข้นขึ้น

ไทยเบฟ ได้เตรียมความพร้อมในทุกด้าน และยกระดับดิจิทัลเช็คอิน ผ่าน Beverest Life แอป เพิ่มความมั่นใจ พนักงานปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่เคร่งครัด พนักงานที่กลับเข้าทำงานในออฟฟิศ ต้องทำงานในวิถีใหม่ (New Normal) เน้นย้ำให้พนักงานเห็นความสำคัญและยึดถือเป็นแนวปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมสร้างสรรค์สังคมปลอดภัยลดเสี่ยงโควิด-19 และให้ก้าวต่อไปของกลุ่มไทยเบฟเดินหน้าต่อเนื่องตามแผนวิสัยทัศน์ 2020 เพื่อก้าวสู่วิสัยทัศน์ 2025


ไทยเบฟ เปิดรับการกลับเข้าทำงานของพนักงานด้วยการออกกฎ มาตรการที่เคร่งครัด และมอบกิ๊ฟเซ็ท “ไทยเบฟ เป็นห่วงนะ” (หน้ากากผ้าแบบซักได้ 3 ชิ้น และปรอทวัดไข้) ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อขวัญ กำลังใจ และส่งต่อความห่วงใยไปยังเพื่อนพนักงานให้เน้นความสำคัญในการดูแลสุขภาพตนเองอย่างเข้มงวด

วิถี New Normal ของไทยเบฟ เน้นย้ำพนักงานตั้งแต่การดูแลสุขอนามัยทั้งส่วนบุคคล และความรับผิดชอบต่อสาธารณะอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยกันลดความเสี่ยงโดยหวังที่จะร่วมกันรับผิดชอบแล่ะช่วยกันรักษาการ์ดต้องไม่ตก โดยสถานที่ทำงานแต่ละกลุ่มไทยเบฟ จะดำเนินการภายใต้มาตรฐานเดียวกันในวิถีปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัยของทั้งพนักงานและผู้บุคคลภายนอกที่มาติดต่อ อาทิ การทำแบบประเมินความเสี่ยง COVID-19 (ทุกสัปดาห์) และนำไปแสดงแก่เจ้าหน้าที่ การสวมหน้ากากอนามัยและวัดอุณหภูมิ และติดสติ๊กเกอร์ก่อนเข้าสถานที่ปฏิบัติงาน การ Check-in เมื่อเข้าสำนักงาน (เช้า / บ่าย) สแกน QR Code เมื่อไปติดต่อสถานที่ต่างๆ ระหว่างวัน และ Check-Out หลังเลิกงาน การรณรงค์ให้พนักงาน Scan QR Code ผ่าน Beverest Life (แทนกล้องในมือถือ) ณ สถานที่ต่างๆ ที่พบเจอ QR Code “ไทยชนะ” เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ควบคู่กับ มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม อาทิ โต๊ะทำงาน ลิฟท์โดยสาร ห้องอาหาร ห้องประชุม เป็นต้น


พนักงานกลุ่มไทยเบฟมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการและข้อกำหนดของแต่ละพื้นที่ในแต่ละหน่วยงานอย่างเคร่งครัด ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์สังคมปลอดภัย วิถีใหม่ในออฟฟิศที่จะนำมาอัพเดท เพื่อตอกย้ำและขอความร่วมมือจากเพื่อนพนักงานกลุ่มไทยเบฟทุกคน นอกจากมาตรการคุมเข้มแล้ว ไทยเบฟยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นให้พนักงานเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพ ด้วยการจัดกิจกรรม “ขยับก้าวแลกพ้อยท์” โดยรณรงค์ให้พนักงานดาวน์โหลด Application และเดินออกกำลังกาย เก็บสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของรางวัลต่างๆ อีกด้วย
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว
เปิดมหกรรมความยั่งยืน SX 2022 ชูพันธกิจความร่วมมือมิติใหม่ สร้างสมดุลที่ดีเพื่อโลก
ไทยเบฟ ร่วมกับ สถาบันน้ำฯ (สสน.) วางโมเดล บริหารความเสี่ยง-จัดการน้ำของชุมชนอย่างยั่งยืน
ไทยเบฟกับโควิด 19
ไทยเบฟได้ยึดมั่นในการปฎิบัติตามนโยบายทางด้านสุขภาพและโภชนาการ รวมถึง อาชีวอนามัยและความปลอดภัยของพนักงาน พันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงผู้บริโภค
เวทีแสดงวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนขององค์กรชั้นนำ เพื่อแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม
บริษัท ซีเอซี จำกัด (C asean) จัดงาน Thailand Corporate Sustainability Symposium เวทีแสดงวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนขององค์กรชั้นนำ เพื่อแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม
UNEP Conference
บริษัท ซี เอ ซี จำกัด (C asean) ตอกย้ำการเป็นผู้นำของศูนย์กลางความเชื่อมโยงเครือข่าย การทำงานทุกภาคส่วนสู่การพัฒนาประเทศเพื่อความยั่งยืนในระดับภูมิภาคอาเซียน