หน้าแรก / เศรษฐกิจ
ไทยเบฟกับโรคโควิด-19
การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ได้พลิกโฉมการทำธุรกิจแบบเดิม ๆ ไปสู่การทำธุรกิจแบบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) รวมถึงส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ ฉลาก และประโยชน์ทางโภชนาการของอาหารและเครื่องดื่มมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ความพร้อมและประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 คืออีกหนึ่งปัจจัยขับเคลื่อนในทุกธุรกิจ
ไทยเบฟยึดมั่นในนโยบายด้านสุขภาพและโภชนาการที่เข้มงวด พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของบุคลากรในกลุ่มไทยเบฟ ตลอดจนถึงคู่ค้าและลูกค้าโดยเสมอมา บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพและความปลอดภัยของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กร แม้ว่าผลกระทบด้านลบจากการระบาดใหญ่จะรุนแรงมาก แต่ก็เป็นโอกาสให้ธุรกิจได้พัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ ๆ มีการปรับปรุงด้านการขนส่งและการกำหนดแนวทางปฏิบัติด้านสุขภาพและความปลอดภัยที่ดีขึ้นด้วย
กลยุทธ์ของไทยเบฟกับการเตรียมความพร้อมรับมือโรคโควิด-19
ไทยเบฟได้มีการดำเนินแผนเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจอย่างทันท่วงทีเพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทำให้การดำเนินงานขององค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง ส่งผลกระทบทั้งต่อพนักงาน พันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงผู้บริโภค และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ น้อยที่สุด มากไปกว่านั้น ไทยเบฟได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษในสถานการณ์โควิด-19 (ThaiBev COVID-19 Situation Room) ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ:
  • ติดตามและสำรวจการระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อกำหนดกรอบนโยบาย และแนวทางปฏิบัติร่วมกับกลุ่มทรัพยากรบุคคล
  • รวบรวม ติดตาม และวิเคราะห์ผลการดำเนินธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่าของไทยเบฟ
  • รวบรวม วิเคราะห์ และนำเสนอข่าวจากทุกสื่อทั้งจากภาครัฐและเอกชน ที่อาจส่งผลกระทบต่อไทยเบฟ
แนวทางการบริหารจัดการ
ไทยเบฟได้ใช้มาตรการป้องกันและดูแลความปลอดภัยของพนักงาน ดังต่อไปนี้
  • ส่งมอบหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ให้กับพนักงานทุกคนกว่า 43,000 คน ถึงสถานที่พักอาศัย รวมทั้งพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่จากที่บ้านเพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานมีอุปกรณ์ป้องกันที่เพียงพอสําหรับ
  • พนักงานทุกคนจะต้องทําการลงทะเบียนและประเมินความเสี่ยงโรคโควิด-19 ผ่านทางแพลตฟอร์มดิจิทัลของบริษัท และแอปพลิเคชันมือถือ Beverest Life เป็นประจําทุกวัน
  • กําหนดมาตรการสําหรับพนักงานและคู่ค้าทางธุรกิจทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ความเสี่ยงสูงเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19
  • สนับสนุนให้พนักงานทุกคนได้รับการฉีดวัคซีน รวมถึงจัดให้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน และแบ่งปันแนวทางการดูแลป้องกันตนเองในช่วงที่มีการระบาด
  • จัดทําคู่มือสําหรับพนักงานในการดูแลสุขภาพและป้องกันการติดต่อของโรคโควิด -19 ภายในสถานประกอบการ
มาตรการดูแลและรักษาพนักงานที่ติดโรคโควิด-19
ไทยเบฟใช้แอปพลิเคชั่น Beverest Life เพื่อติดตาม และตรวจสอบสุขภาพของพนักงานทุกคน โดยพนักงานที่ถูกระบุว่ามีความเสี่ยงสูงจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และได้จัดตั้งศูนย์บริการพนักงานช่วงวิกฤตโรคโควิด-19 (COVID-19 Relief Center หรือ CRC) เพื่อดูแลพนักงานที่ติดโรคโควิด-19 และร่วมมือกับสถานพยาบาลและโรงพยาบาลกว่า 10 แห่งเพื่อรองรับผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด
มาตรการดูแลสวัสดิการอื่น ๆ สำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของไทยเบฟ
  • ร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ส่วนงานบริหารกรุงเทพมหานคร หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พันธมิตรทางธุรกิจภาคเอกชน และโรงพยาบาล เพื่อส่งเสริมด้านสาธารณสุขและความผาสุกทางสังคม โดยร่วมสนับสนุนให้มีการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
  • จัดทําประกันคุ้มครองโรคโควิด-19 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ 274,000 คนทั่วประเทศ รวมถึงพนักงาน และพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 50,000 คน

ความมุ่งมั่นและความสำเร็จ
  • 98% ของพนักงานมีการลงทะเบียนดิจิทัลและทำแบบประเมินโควิด-19 ผ่านแอปพลิเคชัน Beverest Life เป็นประจำทุกวัน
  • จัดสรรและส่งมอบแอลกอฮอล์ 72% จำนวน 1.4 ล้านลิตร และหน้ากากอนามัยกว่า 9 ล้านชิ้น
  • สนับสนุนงบประมาณ 57.18 ล้านบาท ในการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีน 4 แห่ง
  • ส่งมอบวัคซีน 230,000 โดส แก่ศูนย์ฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 นอกโรงพยาบาล 2 แห่ง
  • ไทยเบฟให้การสนับสนุนศูนย์ฉีดวัคซีน และองค์กรทางการแพทย์แล้วกว่า 1,500 แห่ง รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจอีกกว่า 5,600 ราย ในการจัดหาเวชภัณฑ์ และสนับสนุนการบริการฉีดวัคซีนแก่ข้าราชการ และบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เช่น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาสาสมัครสาธารณสุข และบุคลากรทางด้านการศึกษา ด้วยตระหนักว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการปกป้องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน และปฏิบัติหน้าที่ต่อสังคม และให้บริการต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง