สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คน การทำงานขององค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน การหยุดกิจการ การเลิกจ้างงาน และกำลังซื้อที่หดหาย ดังนั้น การบริหารความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ที่เกิดจากวิกฤตโควิด-19 จึงมีความสำคัญต่อความอยู่รอดของธุรกิจ บริษัทได้เตรียมความพร้อมในการรับมือ เพื่อให้มั่นใจว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อพนักงานตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องและต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยแนวคิดและมาตรการของการบริหารความเสี่ยงของกลุ่มไทยเบฟในช่วงวิกฤตโควิด-19 มีดังนี้
- มาตรการรับมือด้านการดำเนินธุรกิจที่ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ของรัฐอย่างเคร่งครัด โดยเน้นการผลิตและขนส่งสินค้ารวมถึงการบริการที่จำเป็นต่อสังคม
- มาตรการป้องกันและดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของพนักงาน รวมถึงคู่ค้าและภาคีเครือข่าย
- มาตรการให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่านโครงการที่บริษัทเป็นผู้ริเริ่ม หรือร่วมมือกับหน่วยงานและเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ
- มาตรการเตรียมความพร้อมในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมโดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับฐานรากและชุมชน
จากการปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ที่กำหนดข้างต้น ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการโอกาสและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อธุรกิจและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้อย่างรวดเร็วตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงดำเนินธุรกิจในช่วงภาวะวิกฤตได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดชะงัก
ผลของการบริหารความเสี่ยงภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนหรือในช่วงภาวะวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ต้องมีกรอบการบริหารความเสี่ยงองค์กรที่ชัดเจนและเป็นระบบ เป็นปัจจัยและรากฐานสำคัญ โดยกรอบการบริหารความเสี่ยงองค์กรของไทยเบฟเป็นไปตามแนวทาง COSO Enterprise Risk Management 2017 (The Committee of Sponsoring Organizations of the Treadway Commission) มีองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้
ตั้งแต่ระดับคณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการบริหารความยั่งยืนและความเสี่ยง คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจ คณะกรรมการเฉพาะกิจที่คณะจัดการแต่งตั้งขึ้น คณะทำงานพัฒนาความยั่งยืนทางธุรกิจ คณะทำงานบริหารความเสี่ยงองค์กร และผู้ประสานงานความเสี่ยงของกลุ่มธุรกิจหรือสายงาน
ทุกหน่วยงานมีความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยวิเคราะห์ติดตามปัจจัยเสี่ยงและแนวโน้มสำคัญในอนาคตที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหรือกลยุทธ์องค์กรอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่ระดับองค์กร ระดับกลุ่มธุรกิจจนถึงระดับปฏิบัติการ ในการรวบรวมข้อมูล การระบุและประเมินความเสี่ยงที่สำคัญ พร้อมกำหนดกลยุทธ์และแนวทางการจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ รวมถึงการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจ ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์และสาระสำคัญด้านความยั่งยืนของไทยเบฟ
ทุกหน่วยงานตั้งแต่ระดับสายงานและบริษัทย่อย ระดับกลุ่มธุรกิจและระดับองค์กร มีการสื่อสารและรายงานข้อมูลการบริหารความยั่งยืนและความเสี่ยงอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง อาทิ ความคืบหน้าโครงการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนหรือกิจกรรมบริหารความเสี่ยง ความเสี่ยงใหม่ที่อาจมีผลกระทบต่อไทยเบฟ ตัวบ่งชี้ความเสี่ยง (Risk indicators) เป็นต้น
การปลูกฝังและส่งเสริมวัฒนธรรมด้านความยั่งยืนและการจัดการความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กร ผ่านการฝึกอบรม วิธีการและกิจกรรมต่าง ๆ แก่ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับเพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญ รวมทั้งสร้างแรงจูงใจให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาความยั่งยืนและบริหารความเสี่ยงขององค์กร
