รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน 2562

Close
หน้าแรก / รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน 2562 / แนวทางการพัฒนาความยั่งยืนของไทยเบฟ
สารจาก
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่
สำหรับปี 2562 เป็นอีกหนึ่งปีแห่งความสำเร็จของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) (“ไทยเบฟ”) ไทยเบฟเป็นบริษัทแรกในภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มระดับโลกในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) ติดต่อกันเป็นปีที่สอง เป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืน DJSI ระดับโลกติดต่อกันเป็นปีที่สาม และเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืน DJSI กลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ติดต่อกันเป็นปีที่สี่ ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตทางธุรกิจของไทยเบฟที่เป็นไปตามเป้าหมายของการก้าวขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจรในภูมิภาคอาเซียนอย่างมั่นคงและยั่งยืน

วิสัยทัศน์ 2020 ของไทยเบฟมุ่งเน้นกลยุทธ์หลัก 5 ประการ ได้แก่ การเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ ความหลากหลายของตลาดและผลิตภัณฑ์ ตราสินค้าที่โดนใจ การขายและกระจายสินค้า และความเป็นมืออาชีพ ซึ่งถือว่าเป็นกลไกสำคัญที่นำพาให้บริษัทก้าวไปสู่การเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจรในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ไทยเบฟมีความภาคภูมิใจที่จะกล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่นขยายธุรกิจออกสู่ประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนด้วยการลงทุนในกิจการต่าง ๆ ตลอดจนความทุ่มเทของพนักงาน เป็นส่วนช่วยผลักดันให้ไทยเบฟเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายเสมอมา จากบริษัทที่เติบโตในประเทศไทยสามารถก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทเครื่องดื่มชั้นนำในภูมิภาค ด้วยผลประกอบการขยายตัวอย่างโดดเด่นและกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมถึงความร่วมมือในการขับเคลื่อนธุรกิจของกลุ่มไทยเบฟอย่างเข้มแข็ง

ไทยเบฟได้รับแรงบันดาลใจจากหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy - SEP) ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยไทยเบฟได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 ประการขององค์การสหประชาชาติ มาปรับใช้เป็นแนวทางกำหนดเป้าหมายการดำเนินธุรกิจ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจที่โลกกำลังเผชิญอยู่ สอดคล้องตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2573 ที่องค์การสหประชาชาติจัดทำขึ้น นอกจากนี้ ในการวางแผนกลยุทธ์เพื่อให้องค์กรบรรลุวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไทยเบฟได้รวบรวมพลังสร้างความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการธุรกิจเป็นเครื่องมือเพื่อเพิ่มศักยภาพและคำนึงถึงผลกระทบที่อาจส่งผลเสียต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

เมื่อธุรกิจพัฒนาขึ้น บริษัทย่อมต้องมีความรับผิดชอบในประเด็นที่สำคัญเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้าตามวิสัยทัศน์ 2020 ไทยเบฟยังคงมุ่งเน้นนโยบายสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปด้วย จึงทุ่มเททั้งด้านการเงินและบุคลากรเพื่อ “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโตที่ยั่งยืน” ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า ไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะปกป้องสิ่งแวดล้อมเพราะเชื่อว่าสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ถือเป็นรากฐานของชุมชนและสังคมที่แข็งแกร่ง และส่งผลให้การวางรากฐานทางธุรกิจมั่นคงเช่นกัน ดังนั้นไทยเบฟจึงริเริ่มกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในชุมชนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ไทยเบฟยังคงดำเนินการประเมินความเสี่ยงทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น ประเมินความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อระบุและลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงระบุพื้นที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ ขณะเดียวกันไทยเบฟได้จัดตั้งสถาบันการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อสนับสนุนและปลูกฝังความยั่งยืนภายในองค์กร ซึ่งในปี 2562 ไทยเบฟได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) ซึ่งเป็นการสานต่อความมุ่งมั่นในการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนสำหรับทุกคน ไทยเบฟมีความภาคภูมิใจที่มีรากฐานกำเนิดในประเทศไทย และยังคงดำเนินโครงการที่ช่วยเหลือให้คนไทยเพิ่มรายได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงสืบสานอนุรักษ์มรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมไทยให้ยั่งยืน โครงการ “ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว” ซึ่งเป็นโครงการที่ไทยเบฟมอบผ้าห่มให้แก่ผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ชนบทอันห่างไกล โดยปีนี้เป็นการครบรอบ 20 ปีของโครงการ นอกจากนี้บริษัทยังคงดำเนินโครงการประชารัฐรักสามัคคี ที่สร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการร่วมมือกันสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ขณะเดียวกันไทยทาเลนท์เป็นอีกหนึ่งโครงการที่สร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมเยาวชนไทยที่มีความสามารถไปสู่ความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน ไทยเบฟยังคงตื่นเต้นกับความสำเร็จของโครงการต่าง ๆ เพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการสุดยอดนักธุรกิจแบ่งปัน (Win Win WAR Thailand) ซึ่งเป็นรายการแข่งขันเสนอแผนธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับรางวัลโทรทัศน์ระดับประเทศ โดยให้นักธุรกิจรุ่นใหม่นำเสนอแผนพัฒนาธุรกิจและแนวความคิดเกี่ยวกับธุรกิจ และปีนี้ยังเป็นครั้งแรกกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ (Bangkok Art Biennale) ซึ่งได้รับการยกย่องจากสถานีโทรทัศน์บีบีซี (BBC) ว่ามีบทบาทสำคัญในการยกระดับกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ 2020 ไทยเบฟยังคงเดินหน้าพัฒนาความยั่งยืนเพื่อเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน อย่างมั่นคงและยั่งยืน ไทยเบฟพร้อมที่จะขับเคลื่อนนำพาบริษัทก้าวไปสู่วิสัยทัศน์ 2025 ในนามของคณะกรรมการบริหารทุกท่าน บริษัทขอขอบคุณพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายที่สนับสนุนให้ไทยเบฟบรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์อย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง

ฐาปน สิริวัฒนภักดี
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่