หน้าแรก / ห่วงโซ่อุปทาน
2562
การจัดหาอย่างยั่งยืน
การจัดซื้อจัดหาคือจุดเริ่มต้นของห่วงโซ่อุปทานของไทยเบฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคัดสรรวัตถุดิบและสินค้าที่นำมาใช้ในกระบวนการผลิต ไทยเบฟได้กำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับคู่ค้า (Supplier Code of Practice) เพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการคัดกรองคู่ค้าและตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ผ่านกระบวนการจัดหาที่มีมาตรฐานและแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม นอกจากนี้ไทยเบฟยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานและการสร้างการมีส่วนร่วมของคู่ค้าให้เข้ามามีบทบาท โดยร่วมกันหาแนวทางบรรเทาความเสี่ยงเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุก ๆ กระบวนการในห่วงโซ่อุปทาน
โครงการสนับสนุนการจัดหาวัตถุดิบทางการเกษตรอย่างมีความรับผิดชอบ
วัตถุดิบทางการเกษตรซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และธุรกิจอาหารของไทยเบฟ ได้แก่ ข้าวมอลต์ น้ำตาล น้ำมันปาล์ม ใบชา เมล็ดกาแฟ และโกโก้ โดยไทยเบฟให้ความสำคัญในการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพและสรรหามาอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ดังนี้
  • ส่งเสริมและสนับสนุนคู่ค้าผู้จัดหาข้าวมอลต์และฮอปส์ให้เป็นสมาชิกหรือปฏิบัติตามแนวทางของมาตรฐาน Sustainable Agriculture Initiative Platform (SAI) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลสำหรับการทำเกษตรกรรม
  • สนับสนุนผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ที่ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐาน Bonsucro (Better Sugar Cane Initiative) โดยมาตรฐานนี้ครอบคลุมการปฏิบัติการตั้งแต่การตรวจสอบที่ดิน ระยะก่อนปลูกอ้อย ถึงช่วงการเก็บเกี่ยว พร้อมทั้งมีระบบที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
  • สนับสนุนผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่และเกษตรกรรายย่อยในการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างมีความรับผิดชอบและมีประสิทธิภาพ ผ่านการรับรองด้วยมาตรฐานระดับสากล Roundtable on Sustainable Palm Oil (RSPO) ซึ่งในปี 2562 คู่ค้าของไทยเบฟร้อยละ 100 เป็นโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO
  • ใบชาที่ไทยเบฟจัดหาเพื่อใช้ในกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 100 มาจากพื้นที่เกษตรกรรมที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ประเทศไทย)
CROSS
C
COLLABORATE (ร่วม)
ส่งเสริมความร่วมมือภายในองค์กรระหว่างไทยเบฟกับคู่ค้า
R
RE-ENGINEER (ปรับ)
ปรับเปลี่ยนกระบวนการจัดซื้อจัดหาอย่างมีประสิทธิภาพ
O
ONLINE (ออนไลน์)
การทำงานผ่าน ระบบออนไลน์ เพื่อความสะดวกรวดเร็วและความโปร่งใส
S
SIMPLIFY (ใช้ง่าย)
ระบบที่ง่ายต่อการใช้งานและการทำงานที่คล่องตัว
S
SYNERGIZE (เชื่อมกัน)
ผสมผสานการทำงานร่วมกันระหว่างบุคลากรและเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ในปี2560 ไทยเบฟจึงได้ริเริ่มโครงการ CROSS โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลในห่วงโซ่อุปทาน (Visibility) และยกระดับมาตรฐานในการจัดหา โดยมุ่งเน้นการร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน และการเชื่อมต่อผ่านระบบออนไลน์ โดยจำแนกกิจกรรมในการดำเนินโครงการออกเป็น 3 มิติ คือ 1) การพัฒนาศักยภาพบุคลากรจัดหาให้มีความเป็นมืออาชีพและมีความชำนาญการมากขึ้น 2) ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ โดยใช้ระบบอัตโนมัติและปรับเปลี่ยนขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น และ 3) การพัฒนาด้านเทคโนโลยีให้ระบบต่าง ๆ และบุคลากรทำงานโดยเชื่อมต่อกันได้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างโปร่งใส และสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ได้

ในปี 2562 ที่ผ่านมา ไทยเบฟได้นำระบบจัดหา CROSS Procurement มาเชื่อมต่อกับระบบ Supplier Life Cycle Management (SLCM) ซึ่งปัจจุบันระบบ SLCM ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อระหว่างคู่ค้าและไทยเบฟ ตั้งแต่การลงทะเบียนเป็นคู่ค้าของไทยเบฟ การประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจของคู่ค้า การยืนยันคำสั่งซื้อและการแลกเปลี่ยนเอกสารผ่านระบบ ทั้งนี้ ระบบ CROSS Procurement จะทำการบันทึกข้อมูลในการซื้อขายสินค้าและบริการทุก ๆ ขั้นตอนการทำงานในทันที เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการจัดหามีความเป็นธรรม โปร่งใส และสืบค้นได้ ซึ่งระบบแบ่งหน้าที่การทำงานหลักออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้

1. CROSS Source
คัดสรรคู่ค้าที่มีศักยภาพ ซึ่งพิจารณาทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม หลักธรรมาภิบาล และศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของคู่ค้าโดยเชื่อมต่อกับระบบ Supplier Life Cycle Management (SLCM) ครอบคลุม ตั้งแต่การบังคับใช้แนวทางปฏิบัติสำหรับคู่ค้า (Supplier Code of Practice) การลงทะเบียนคู่ค้าการคัดกรองคู่ค้า การสรรหาคู่ค้า ไปจนถึงการเสนอราคาและประกวดราคาสินค้า

2. CROSS Contract
ร่างและจัดทำสัญญากับคู่ค้าผ่านระบบที่ตรวจสอบย้อนกลับได้โปร่งใส รวมถึงการบริหารการซื้อสินค้าให้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดของสัญญา

3. CROSS Buy
ออกคำสั่งซื้อและยืนยันการสั่งซื้อกับคู่ค้า และการสั่งซื้อสินค้าผ่านแค็ตตาล็อกสินค้าออนไลน์ (e-catalog)

4. CROSS SRM (Supplier Risk Management)
ตรวจประเมินความเสี่ยงของคู่ค้าในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล รวมไปถึงด้านอื่น ๆ ได้แก่ ความน่าเชื่อถือองค์กรสภาพคล่อง การดำเนินธุรกิจ และข่าวสารต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร โดยใช้ฐานข้อมูลจากองค์กรอิสระที่มีความชำนาญการในการประเมินความเสี่ยง ได้แก่ World Economic Forum, Dun & Bradstreet, GDACS และ Semantic Visions เป็นต้น

CROSS PROCUREMENT


โครงการประกาศเกียรติคุณคู่ค้า
เป็นโครงการที่ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของคู่ค้า กระตุ้นการแข่งขันทางธุรกิจ และสรรค์สร้างนวัตกรรมในภาคอุตสาหกรรม โดยไทยเบฟริเริ่มโครงการประกาศเกียรติคุณคู่ค้ามาตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งคู่ค้าที่ได้รับรางวัลคือ คู่ค้าที่มีมาตรฐานในการดำเนินงานอันเป็นเลิศและเป็นแม่แบบในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนให้กับคู่ค้ารายอื่น ๆ ในปี 2562 มีคู่ค้าเข้าร่วมโครงการมากกว่า 150 ราย มาจากผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าและบริการให้แก่ไทยเบฟหลากหลายกลุ่ม เช่น บรรจุภัณฑ์ วัตถุดิบทางการเกษตร สินค้าและส่งเสริมการขาย เป็นต้น ซึ่งไทยเบฟได้มอบรางวัล Sustainable Collaboration Award โดยคณะกรรมการพิจารณาจากประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ที่เกิดขึ้นจริงจากโครงการที่คู่ค้าดำเนินการร่วมกับไทยเบฟ และจำนวนกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ได้รับประโยชน์ดังกล่าว โครงการที่ได้รับรางวัลในปีนี้ได้แก่ “โครงการเก็บกระป๋องเครื่องดื่มอะลูมิเนียมหลังการบริโภค” หรือ “Can 2 Can” ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างไทยเบฟกับคู่ค้าทางตรง (Tier1 Supplier) คือ ผู้ผลิตกระป๋อง และคู่ค้าทางอ้อม (Non-tier 1 Supplier) คือ ผู้ผลิตแผ่นอะลูมิเนียม โดยมีบริษัทไทยเบฟเวอเรจ รีไซเคิล จำกัด ทำหน้าที่เก็บกระป๋องกลับมาและรวบรวมส่งต่อให้กับบริษัทผู้ผลิตแผ่นอะลูมิเนียมเพื่อนำกระป๋องกลับมาใช้ใหม่ (recycle)

กิจกรรมสัมมนาพันธมิตรทางธุรกิจของไทยเบฟประจำปี 2562 และเครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย
เพื่อสนับสนุนบริษัทให้ก้าวไปสู่วิสัยทัศน์ 2020 ไทยเบฟได้จัดกิจกรรมสัมมนาพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม ThaiBev Sustainability Day 2019 เพื่อชี้แจงกลยุทธ์และแนวทางในการดำเนินธุรกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้คู่ค้ารับทราบและช่วยให้คู่ค้าเข้าใจถึงโอกาสในการเติบโตไปพร้อมกับไทยเบฟได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน และยังเป็นเวทีสำหรับแลกเปลี่ยนมุมมองทางธุรกิจระหว่างคู่ค้ากับไทยเบฟ รวมถึงเป้าหมายและความท้าทายในการดำเนินธุรกิจในยุคที่ผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ นอกจากนี้ไทยเบฟยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรรายสำคัญในการจัดตั้งเครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย (Thailand Supply Chain Network) โดยมีจุดประสงค์เพื่อประสานความร่วมมือระหว่างองค์กรผู้ประกอบการภาคธุรกิจของไทยในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์จากการลงทุนและการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ รวมถึงผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยขยายกิจการออกสู่ต่างประเทศอย่างครบห่วงโซ่อุปทาน

ความมุ่งมั่นและความสำเร็จ
  • นโยบายและมาตรฐานในการจัดหาวัตถุดิบ
    กำหนดมาตรฐานในการจัดหาผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิต ได้แก่ ข้าวมอลต์ น้ำตาลและน้ำมันปาล์ม เป็นต้น ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลอาทิ Bonsucro, RSPO, SEDEX เพื่อให้มั่นใจว่าวัตถุดิบผ่านการคัดสรรอย่างดีและผ่านกระบวนการจัดหาที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
  • กระบวนการตรวจประเมินคู่ค้า
    ไทยเบฟมีการตรวจประเมินคู่ค้าทุกราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่ค้ารายสำคัญและคู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งคู่ค้ารายสำคัญ (Critical Supplier) ได้แก่ คู่ค้าที่ไม่สามารถทดแทนได้ คู่ค้าที่มีมูลค่าซื้อขายต่อกันสูง เป็นต้น สำหรับคู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูง เช่น คู่ค้าที่ขาดการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี หรือไม่มีมาตรการว่าจ้างที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยมีผู้ทวนสอบภายในและผู้ทวนสอบอิสรทำการตรวจสอบกระบวนการผลิตสินค้า ความปลอดภัยและสุขอนามัยในการจัดเก็บสินค้าการขนส่งสินค้า นอกจากนี้ยังตรวจสอบด้านความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ เช่น การปล่อยและจัดการของเสียการใช้แรงงาน อาชีวอนามัยและความปลอดภัยของลูกจ้างของคู่ค้า เป็นต้น
  • การมีส่วนร่วมของคู่ค้า
    ร่วมมือกับคู่ค้ารายสำคัญในการประเมินความเสี่ยงและตรวจสอบกระบวนการทำงานของกลุ่มคู่ค้าทางอ้อม (Non-tier 1 Supplier) โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานอย่างครบวงจร และแลกเปลี่ยนข้อมูลความเสี่ยงต่าง ๆ ของคู่ค้าทางอ้อม รวมถึงมอบหมายให้บุคลากรของไทยเบฟร่วมตรวจประเมินคู่ค้าทางอ้อม ณ สถานประกอบการร่วมกับผู้ทวนสอบของคู่ค้ารายสำคัญ เพื่อระบุและบรรเทาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในห่วงโซ่อุปทานได้ทันท่วงที
ทิศทางการดำเนินงาน
2563
100%
ของคู่ค้าที่จำหน่ายสินค้าและบริการให้กับ ไทยเบฟอย่างสม่ำเสมอ (Active Supplier) จะต้องยอมรับและปฏิบัติตาม แนวทางปฏิบัติสำหรับคู่ค้าของบริษัท
เพื่อเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจภายในประเทศ และการกระจายรายได้ในท้องถิ่น
ไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะรักษาอัตราส่วนคู่ค้า ในประเทศที่บริษัทจัดหาสินค้าและบริการอยู่ที่
95%

100%
ของคู่ค้ารายใหม่ที่จะดำเนินธุรกิจ กับไทยเบฟทุกราย จะต้องยอมรับ และปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติสำหรับคู่ค้า และผ่านการประเมินความเสี่ยง ด้านความยั่งยืน
2568
ไทยเบฟกำหนดเป้าหมายให้คู่ค้า
100%
ที่จำหน่ายสินค้าและบริการให้กับ บริษัทอย่างสม่ำเสมอ (Active Supplier) เข้ารับการประเมิน และตรวจสอบความเสี่ยงด้านความยั่งยืน
ไทยเบฟจะจัดหาวัตถุดิบทางการเกษตร ที่เป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิต
จากแหล่งที่มาที่มีมาตรฐาน และมีความรับผิดชอบ ต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม