รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน 2563

Close
หน้าแรก / รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน 2563 / แบ่งปันคุณค่าให้คนทั่วโลก
การพัฒนาด้านสาธารณสุข
การสาธารณสุข คือการป้องกันและรักษาโรคเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ทั้งทางร่างกายและ จิตใจ สังคมที่พลเมืองมีสุขภาพอนามัยดีจะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาทั้งต่อตัวบุคคล สังคม และประเทศชาติ ทั้งนี้ ไทยเบฟให้ความสำคัญในการสนับสนุนและพัฒนากิจกรรมด้านสาธารณสุขมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสนับสนุนกิจกรรม ขององค์กร มูลนิธิ หรือหน่วยงานทางด้านสาธารณสุขต่าง ๆ โดยมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายให้คนในสังคมมีสุขภาพที่ดี โดยได้มีการกำหนดกลยุทธ์ การมีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่ายปัจจุบัน ส่งเสริมการให้ความรู้เรื่องสุขภาพเน้นด้านการป้องกันโรค รวมไปถึงการดูแลสุขภาพของตนเอง สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ
โรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์
โรงพยาบาลชั้นนำของเอเชียที่เปิดดำเนินการตั้งแต่เดือนกันยายน 2555 เพียบพร้อมไปด้วยคณะแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและทีมพยาบาลที่มีประสบการณ์สูงคอยดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคไตอย่างครบวงจร รวมไปถึงแผนกอายุรกรรมทั่วไป พร้อมให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ สถาบันโรคไตยังคงทำการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเกิดภาวะไตวายเรื้อรัง รวมทั้งเผยแพร่ความรู้ วิธีการป้องกัน แนะนำแนวทางการรักษาโรคไต และเคล็ดลับการดูแลสุขภาพให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคไต ปัจจุบันสถาบันโรคไตมีจำนวน ผู้ป่วยที่มาฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม มากถึง 8,446 ราย และดำเนินการปลูกถ่ายไตสำเร็จเป็น จำนวน 49 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 3/8/63)

ขณะเดียวกันในปี 2563 คณะทีมผู้วิจัยจากสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ได้จัดสัมมนาใหญ่ “พัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง” ภายใต้โครงการวิจัยเรื่อง “การศึกษาผลของการให้การดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังแบบบูรณาการ (integrated care) ในระดับโรงพยาบาลชุมชน” ซึ่งไทยเบฟได้ทำงานร่วมกับโรงพยาบาลสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้เรื่องการป้องกันการเกิดโรคไตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่โรงพยาบาลเริ่มเปิดดำเนินการ
มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ไทยเบฟร่วมมือกับมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ในการสนับสนุนและเผยแพร่ความรู้และประชาสัมพันธ์ ภารกิจทั้ง 3 ด้านหลักของมูลนิธิ ได้แก่ 1.การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน CPR 2.โครงการหลัก 3 อ.ดีต่อใจ (อาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย) และ 3.โครงการกระโดดเชือก ทางเลือกเยาวชน พ้นโรคหัวใจ โดยในปีนี้ได้จัดอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานให้พนักงานในเครือไทยเบฟเพื่อสามารถเป็นวิทยากรให้ความรู้กับสถานประกอบการ โรงเรียน ชุมชน รวมถึงตั้งให้เป็นทีมเผชิญเหตุฉุกเฉิน เพื่อช่วยเหลือชุมชน โดยในรุ่นแรกมีพนักงานเข้าร่วมอบรม จำนวน 50 คน ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย
ไทยเบฟร่วมสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย ซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาด้านการพยาบาล เปิดสอนหลักสูตรพยาบาล และผู้ช่วยพยาบาล อยู่ภายใต้การดูแลอุปถัมภ์ของสภากาชาดไทย เช่น มอบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากแอลกอฮอล์ให้กับสถาบันจำนวน 500 ลิตร เพื่อใช้ทำความสะอาดและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมทั้งยังร่วมประชุมคณะกรรมการการเงินเป็นประจำทุกเดือนในฐานะกรรมการสถาบันการเงินอีกด้วย
ช้างคลินิกเวชกรรม
ก่อตั้งขึ้นเป็นเวลากว่า 14 ปีเพื่อช่วยเหลือประชาชนด้านการแพทย์ โดยเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่สมาชิกในชุมชนรอบโรงงานเขตจังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดใกล้เคียง ได้มีโอกาสเข้าถึงการรักษาจากสถานพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้ปณิธานของ คุณเจริญ-คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ประธานและรองประธานกรรมการบริษัทฯ ที่ดำริไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งก่อตั้งว่า “คนไทยให้กันได้” นอกจากนี้ ยังมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เพื่อช่วยเหลือและให้บริการตรวจรักษาฟรีแก่ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยในปีที่ผ่านมามีผู้รับบริการจำนวน 1,102 คน
ส่งมอบแอลกอฮอล์ ร่วมต้านวิกฤติโควิด-19
ไทยเบฟเร่งผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ (แอลกอฮอล์ 72% และ 95%) เพื่อนำไปมอบให้กับหน่วยงานบริการสาธารณสุข โรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์ในมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลในมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ และโรงพยาบาลต่าง ๆ 76 จังหวัด ทั่วประเทศ รวมไปถึงหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ที่ให้บริการและรับผิดชอบในเรื่องการดูแลการป้องกันไวรัสโควิด-19 เช่น สถาบันบำราศนราดูร รพ.ราชวิถี รพ.ศิริราช รพ.จุฬาลงกรณ์ และยังมอบแอลกอฮอล์ให้กับ ศาสนสถาน สถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย กองทัพเรือ กองทัพภาคที่ 1 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เครือข่ายประชารัฐ และเครือข่ายภาคประชาสังคมต่าง ๆ รวมถึงสถาบันการศึกษาทั่วประเทศที่อยู่ในเครือข่ายของบริษัท รวม 470 แห่ง

นอกจากนี้ ไทยเบฟยังร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนี้
  • ทยเบฟร่วมกับสภากาชาดไทยและกระทรวงมหาดไทย ส่งมอบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจาก แอลกอฮอล์จำนวน 197,600 ลิตร เพื่อกระจายไปยังชุดปฏิบัติการและสถานบริการสาธารณสุข รวมถึงประชาชน และผู้ยากไร้ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ
  • ไทยเบฟร่วมกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC Group สนับสนุนเจลแอลกอฮอล์ล้างมือสำหรับพกพา ขนาด 50 ซีซี จำนวน 1,100,000 ขวด เพื่อส่งมอบให้กับกระทรวงสาธารณสุขนำไปแจกจ่ายให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านทั่วประเทศ
  • กลุ่มธุรกิจไทยเบฟ โดยบริษัท เบฟเทค จำกัด ผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ จำนวน 15,000 ขวด ที่พัฒนาสูตรโดยกลุ่มเภสัชกร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อส่งมอบให้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย สำหรับเครือข่ายเตือนภัยชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) 19 ชุมชนทั่วประเทศ
  • กลุ่มธุรกิจไทยเบฟ โดยบริษัท เบฟเทค จำกัด ร่วมกับ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนการผลิตเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพอนามัยสำหรับมือ พร้อมกับส่งมอบแอลกอฮอล์ไปแล้วกว่า 1,088,176.02 ลิตร (ข้อมูลวันที่ 30 ก.ย. 2563)
ผลิตและส่งมอบหน้ากากอนามัย Surgical Mask และ N95

ไทยเบฟได้นำเข้าหน้ากากอนามัยจากต่างประเทศ จำนวน 530,000 ชิ้น โดยบริจาค 130,000 ชิ้น ให้ 9 โรงพยาบาลแรก ได้แก่ รพ.ศูนย์ยะลา รพ.กำแพงเพชร รพ.ปัตตานี รพ.บึงกาฬ รพ.สงขลา รพ.พิจิตร รพ.สตูล รพ.นราธิวาส รพ.สุไหงโกลก และอีก 400,000 ชิ้น มอบให้พนักงานใช้ระหว่างให้บริการ ขณะเดียวกันได้จัดตั้งสายการผลิตหน้ากากอนามัย พร้อมจัดซื้อเครื่องจักรสำหรับผลิตหน้ากากอนามัย ซึ่งสามารถผลิตSurgical mask ได้จำนวน 3 ล้านชิ้นต่อเดือนและผลิตหน้ากากอนามัย N95 ได้จำนวน 1.2 ล้านชิ้น ต่อเดือน เพื่อมอบให้พนักงาน บุคลากรทางการแพทย์ และบริจาคให้สาธารณะ
สนับสนุนเงิน 100 ล้านบาท ให้กับ “กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19 (และโรคระบาดต่าง ๆ)”
“กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19 (และโรคระบาดต่างๆ )” เป็นกองทุนที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดตั้งเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์และสิ่งของที่มีความจำเป็นในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตามดุลยพินิจ ของมูลนิธิชัยพัฒนา โดยไทยเบฟจได้สนับสนุนกองทุนดังกล่าวในนามมูลนิธิสิริวัฒนภักดีจำนวน 100 ล้านบาท และสนับสนุนน้ำดื่มในนามบริษัทไทยเบฟฯ มูลค่า 1 ล้านบาท
“โออิชิ ให้ สู้ภัยโควิด-19” มอบเงินและผลิตภัณฑ์อาหาร-เครื่องดื่ม รวม 24 ล้านบาท ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์

กลุ่มธุรกิจไทยเบฟ โดยบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการ “โออิชิ ให้ สู้ภัยโควิด-19” โดยมอบเงินบริจาคโรงพยาบาลแห่งละ 2,000,000 บาท และผลิตภัณฑ์อาหาร-เครื่องดื่มโออิชิ รวม 10 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรทางการแพทย์ โดยจัดส่งทุกวันตลอดระยะเวลา 3 เดือน รวมมูลค่าทั้งหมด 24 ล้านบาท ให้แก่โรงพยาบาลทั้ง 7 แห่ง ประกอบด้วยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลราชวิถี และสถาบันบำราศนราดูร
โออิชิ ภายใต้โออิชิ กรีนที ยังได้มีส่วนบริจาคแอลกอฮอล์ให้แก่ผู้ประสบภัยใน ประเทศลาว และกัมพูชา
โออิชิได้บริจาคแอลกอฮอล์ให้กับกระทรวงสาธารณสุขประเทศกัมพูชา จำนวน 3,600 ลิตร และกระทรวงสาธารณสุขประเทศลาว จำนวน 2,100 ลิตร เพื่อส่งต่อให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ในแต่ละประเทศ
คลินิกตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ หรือ PROLAB VIBHAVADI MEDICAL TECHNOLOGY CLINIC

ไทยเบฟได้ดำเนินการจัดตั้งคลินิกตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์เพื่อเป็นศูนย์ในการตรวจหาเชื้อช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส โดยให้บริการตรวจคัดกรองพนักงานรวมถึงบุคลากรทางการแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันหน่วยงานภาครัฐหรือประชาชนที่สนใจสามารถขอเข้ารับบริการโดยมีอัตราค่าบริการต่ำกว่าการตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชนทั่วไป จากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน จนถึงวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 มีพนักงานในเครือเข้ารับการตรวจทั้งสิ้น จำนวน 15,970 ครั้ง ซึ่งจนถึง 30 กันยายน 2563 ไทยเบฟยังไม่พบการติดเชื้อในกลุ่มพนักงานแต่อย่างใด โดยคลินิกแห่งนี้ใช้เครื่องตรวจของบริษัท Bioneer จากสาธารณรัฐเกาหลี แบบ Semi-Automate ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) และเครื่อง Cobas 6800 ของบริษัท Roche แบบ Fully Automate Real time PCR ที่ผ่านการรับรองจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อประเทศสหรัฐอเมริกา (Centers of Disease Control and Prevention: CDC) เป็นเครื่องประเภทเดียวกับที่ใช้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และสถาบันบำราศนราดูร
ทิศทางการดำเนินงาน
ไทยเบฟยังคงเดินหน้าสานต่อกิจกรรมสร้างสรรค์และแบ่งปันทางด้านสาธารณสุขเพื่อชุมชนและสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัยที่ดีของทุกคนในสังคมไทย ด้วยความเชื่อมั่นว่าการมีสุขภาพดี คือต้นทุนที่ดีที่สุดเป็นประโยชน์ต่อทั้งตนเอง สังคม และประเทศชาติพร้อมกับการดำเนินชีวิตอย่างเป็นสุข
แบ่งปันคุณค่า
นายแพทย์วิศิษฎ์ ประสิทธิศิริกุล
รองผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร
ขอขอบคุณไทยเบฟ ที่ได้มอบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด แอลกอฮอล์ สำหรับล้างมือ และทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ และพื้นผิวต่าง ๆ ในโรงพยาบาลให้แก่สถาบันบําราศนราดูร เนื่องจากความจำเป็นในการใช้แอลกอฮอล์ที่เพิ่มสูงขึ้นจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ดังนั้นแอลกอฮอล์ที่ได้รับมอบมาทำให้สถาบันบำราศนราดูรสามารถมีใช้ได้นานกว่า 5 เดือน ซึ่งผมซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งที่ไทยเบฟได้ตระหนักถึงความสำคัญและเข้าร่วมในการขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้เราสามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน