GRI 102-9
“บริษัทไทยเบฟคำนึงถึงมิติของผู้ที่เราได้ทำงานร่วมกัน ที่จะเก่งขึ้น ดีขึ้น และได้รับผลจากการสร้างสรรค์ และความตั้งใจดีนั้นไปพร้อมกัน และเรายังคิดถึงคุณค่าที่ทุกคนจะได้รับจากสินค้าที่เราผลิต และการให้ต่อสังคมโดยรวมในหลากหลายมิติ ทั้งในด้านสังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษา กีฬา และศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้เกิดกระแสแห่งความสุข ที่ส่งต่อกันได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ”
การจัดซื้อจัดหา
บริษัทไทยเบฟให้ความสำคัญกับกระบวนการจัดซื้อจัดหาที่ต้องมี
ประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส และมุ่งเน้นให้เกิดผลสัมฤทธิ์
ในกระบวนการเพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าและบริการ ขณะเดียวกัน
ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินงานของคู่ค้าให้เกิดการพัฒนา
ตามมาตรฐานที่กำหนดเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย รวมถึงการเติบโตอย่างยั่งยืนพร้อมกับบริษัท โดยบริษัทได้นำกลไกการบริหารจัดการ
ความเสี่ยงด้านสินค้าและบริการมาใช้ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการ
ความเสี่ยงคู่ค้า ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบไปจนถึงคัดกรองคู่ค้าและ
ตรวจสอบผลงานให้เป็นไปตามมาตรฐานและกระบวนการจัดการ
ที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและ
การกำกับดูแลกิจการ เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าและบริการที่ส่งถึงมือ
ผู้บริโภคนั้นมีคุณภาพและปลอดภัย
การผลิต
บริษัทไทยเบฟให้ความสำคัญและใส่ใจในทุกขั้นตอนของกระบวน
การผลิต ทั้งในเรื่องการควบคุมคุณภาพของสินค้าให้ได้มาตรฐาน
ความปลอดภัยในการผลิต การใช้ทรัพยากรต่างๆ เช่น ทรัพยากรน้ำ
และพลังงาน ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดโดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษ
ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การปฏิบัติให้ถูกต้องตามข้อกำหนด
ทางกฎหมายและมาตรฐานการจัดการต่างๆ ตามหลักสากล เช่น มาตรฐาน ISO 9000 GMP HACCP ISO 14000 เครื่องหมายรับรองคุณภาพของน้ำดื่ม National Sanitation Foundation: NSF อีกทั้งยังมีการพัฒนา นวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของกลุ่มไทยเบฟเป็นผลิตภัณฑ์
ที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงสุด และที่สำคัญคือเป็นมิตรต่อ
สิ่งแวดล้อม และไม่ส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กร
การกระจายสินค้า
บริษัทไทยเบฟให้ความสำคัญในเรื่องการบริหารจัดการและการวางแผนการกระจายสินค้าที่มีประสิทธิภาพด้วยช่องทางการ
กระจายสินค้าที่แข็งแกร่งและครอบคลุม ทำให้กระบวนการจัดส่งสินค้า
จากแหล่งผลิตไปถึงจุดหมายปลายทางในแหล่งของผู้บริโภคได้ตามเป้าหมายที่กำหนดโดยสามารถรักษาคุณภาพของสินค้า
พร้อมกับความสัมพันธ์อันดีระหว่างคู่ค้าและกลุ่มบริษัทไทยเบฟ
ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้บริษัทยังได้ตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดจากระบบการขนส่ง จึงนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามามีส่วนร่วม
ในการบริหารจัดการและการวางแผนการกระจายสินค้า เช่น
การควบคุมวินัยในการขับขี่อย่างปลอดภัยให้แก่พนักงานขับรถ
การบริหารการใช้พลังงานเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประโยชน์
ที่ได้รับคือ กลุ่มบริษัทไทยเบฟสามารถควบคุมและจัดการผลกระทบ
ด้านต่างๆ ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้เป็นอย่างดี
การตลาดและการขาย
บริษัทไทยเบฟส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภคผ่านช่องทาง
การจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ โดยการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งและมุ่งเน้นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับคู่ค้า ผ่านโครงการหลากหลาย
โครงการ เช่น โครงการ The Agent “Next Gen” ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ตามวิสัยทัศน์ 2020 รวมถึงใช้การสื่อสารประชาสัมพันธ์
ที่แสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคและสังคม ไม่ว่าจะเป็น
การใช้ฉลากผลิตภัณฑ์ที่ระบุรายละเอียดทางโภชนาการ หรือการจัด
โครงการอบรมการเสิร์ฟอย่างรับผิดชอบ และการจัดกิจกรรมส่งเสริม
การขายเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภค ขณะเดียวกันไทยเบฟ
พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากผู้บริโภคผ่านช่องทางติดต่อสื่อสารต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการ
ของผู้บริโภคให้มากที่สุด
การบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภค
ด้วยความเชื่อที่ว่าบรรจุภัณฑ์ที่ดีนอกจากจะทำหน้าที่ปกป้องผลิตภัณฑ์และมีรูปลักษณ์สวยงามแล้ว ยังต้องสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ จึงทำให้มีการนำวัสดุหรือบรรจุภัณฑ์สินค้าประเภทต่างๆ เช่น กล่องกระดาษ ไส้กล่อง ขวดแก้ว ลังพลาสติก ที่ยังสามารถ
ใช้ประโยชน์ได้ถูกนำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตอีก บริษัทจึงได้
พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุที่สามารถหมุนเวียนใช้ซ้ำ นำกลับมา
ใช้ใหม่ และสามารถเก็บกลับคืนมาใช้ในกระบวนการได้อีก เพื่อลด
ของเสียที่เกิดขึ้นหลังการบริโภค เพราะ “การใช้ครั้งเดียว” ทำให้เกิด
ขยะมากเกินจำเป็นและสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตวัสดุ
บรรจุภัณฑ์สินค้าเหล่านี้อีกด้วย